14 พ.ค. 61 - นายจุมพล อภิสุข ตัวแทนเครือข่ายศิลปินแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ศิลปินทุกคนในเครือข่ายต่างตกใจ ว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ขณะที่ข้อมูล อันได้มีการนำเสนอในการประชุมสภากทม.เมื่อวันพุธที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมานั้น ไม่ทราบว่าทางคณะผู้บริหารนำข้อมูลดังกล่าวมากจากไหน ในประเด็นเรื่องงบประมาณที่บอกว่า หอศิลปฯ ขาดทุนเฉลี่ยปีละ 80 ล้านบาท รวมถึงการกล่าวอ้างว่า มีเก้าอี้สำหรับอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนไม่เพียงพอ ในส่วนแรก ต้องเข้าใจก่อนว่า หอศิลปไม่ได้เป็นองค์กรค้ากำไร แล้วจะขาดทุนได้อย่างไร รวมทั้งงบประมาณที่นำเสนอ โดยไม่มีการคำนวณรวมกับเงินที่มูลนิธิ บริหารจัดการ และได้จากผู้สนับสนุนหลัก แล้ววจะกล่าวอ้างว่า หอศิลป บริหารจัดการอย่างขาดทุนได้อย่างไร

นับแต่มีการเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา หอศิลป สร้างชื่อ ให้กับกทม.มากกว่า เงินอุดหนุนที่กทม.จ่ายมาให้เสียอีก ในแง่ของชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับแสดงความคิดเห็นของประชาชนแล้ว ยังเคยจัดการประชุมศิลปินระดับนานาชาติ รวมทั้งนิทรรศการของศิลปินทั่วโลกมาแล้วอย่างมากมาย ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า กทม.มอเห็นมุมเหล่านี้หรือไม่ ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ เตรียมจะยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เพื่อขอให้ยับยั้งกทม.เดินหน้ากระบวนการดังกล่าว ในเวลา 9.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล

“ดูบทเรียนที่ผ่านมา เป็นตัวอย่าง อาทิ พิพิธภัณฑ์เด็ก ใกล้กับตลาดนัดสวนจตุจักร ซึ่งแต่เดิมมีการบริหารจัดการโดยมูลนิธิฯซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง ก่อนเปลี่ยนเป็นการจ้างเอกชนเข้ามาบริหารจัดการ สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จอย่างใช่วงแรก หรือหากมองง่ายๆ เพียงแค่ห้องส้วมสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แล้วเขาจ้างเอกนมาบริหารจัดการ สุดท้ายค่หลับตาทุกคนคงพอนึกสภาพได้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร”