เวลานี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาโควิดที่มีผลกระทบทั้งด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเท่านั้น เพราะ COVID-19 นั้นเป็น Pandemic หมายความว่าเป็นโรคระบาดที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ดังนั้นปัญหาที่เกิดในประเทศไทยเรา ก็เกิดในประเทศอื่นด้วย และสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นก็มีผลกระทบกับประเทศไทย
ด้านสาธารณสุข ประเทศไทยมีนโยบายรับคนไทยที่ไปทำงานต่างแดนกลับประเทศไทย เพราะเขาเป็นคนไทย เมื่อประเทศที่เขาไปทำงานมีปัญหาของการระบาดที่รุนแรงกว่าเรา แต่การจัดการทางด้านสาธารณสุขไม่ดีเท่าเรา พวกเขาในฐานะที่เป็นคนไทยก็อยากกลับมาประเทศไทย คนที่กลับมานั้นบางคนก็ติดเชื้อ บางคนก็ไม่ติดเชื้อ บางคนก็เข้ามาตามกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่บางคนก็ลักลอบเข้ามา เพราะการไปทำงานนั้นไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น ทำให้บุคคลเหล่านี้บางคนก็กลายเป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุขที่ประเทศไทยเราต้องหาทางแก้ไข
นอกจากคนไทยที่ต้องการกลับมาอยู่ในดินแดนที่มีการจัดการด้านสาธารณสุขที่ดีกว่าประเทศอื่นแล้ว เรายังมีคนต่างด้าวที่อยากจะเข้ามาในประเทศไทย เพราะเขามองว่ามีการจัดการด้านสาธารณสุขที่ดีกว่า และมีโอกาสในการทำงานมากกว่า บุคคลเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามาประเทศไทย ทั้งๆ ที่พวกเขารู้ว่าตามข้อกำหนดของกฎหมายทำไม่ได้ แต่ก็มีคนไทยที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ยอมรับค่านายหน้าและรับสินบนในการยอมให้บุคคลเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทย และเมื่อพวกเขามาจากประเทศที่มีปัญหาเรื่องการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรง ประเทศไทยก็ต้องใช้ความพยายามในการจัดการควบคุมให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ปรากฏการณ์ในครั้งนี้เป็นโอกาสให้ฝ่ายค้านที่ต้องการด้อยค่ารัฐบาลอยู่แล้ว กระหน่ำด่ารัฐบาลอย่างไม่สนใจเหตุผลอะไรทั้งสิ้น
นอกจากปัญหาด้านสาธารณสุขแล้ว COVID-19 ก็สร้างปัญหาด้านเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ประการแรกธุรกิจจำนวนมากจำเป็นต้องถูกปิดเพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการระบาด ทำให้เจ้าของขาดรายได้ ลูกจ้างตกงาน ประการที่สอง เราไม่สามารถส่งออกได้ในอัตราเดิม ทั้งนี้เพราะประเทศที่เป็นคู่ค้าของเราประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ประการที่สามเราต้องปิดประเทศ ไม่ให้ต่างชาติเข้ามาเพื่อป้องกันการระบาดของโรค ส่งผลทำให้การท่องเที่ยวของเราซบเซาจนแทบจะเป็นศูนย์ เนื่องจากประเทศไทยเรานั้นอาศัยรายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลัก เมื่อทั้งการท่องเที่ยวและการส่งออกซบเซา ตกต่ำขนาดหนัก เศรษฐกิจของไทยก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ผู้ประกอบการไม่มีรายได้ พนักงานต้องหยุดงาน ไม่มีรายได้ รัฐบาลจึงต้องหาทางเยียวยาด้วยมาตรการต่างๆ โดยพยายามที่จะดูแลกลุ่มต่างๆ อย่างทั่วถึง แต่ก็ไม่อาจจะพูดได้ว่ามาตรการต่างๆ ที่ออกมานั้นสามารถดูแลคนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้มีเสียงก่นด่าด้วยความไม่พอใจ
รัฐบาลต้องการให้ธุรกิจเดินหน้าได้ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีรายได้ และไม่เลิกจ้าง เพื่อให้ผู้คนยังคงมีรายได้ ส่วนที่ขัดสนจนปัญญาจริงๆ รัฐบาลก็มีเงินเยียวยาที่เป็นการให้เปล่า เพื่อให้พอประทังชีวิตไปได้ นอกจากนั้นก็มีโครงการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการให้ประชาชนมีเงินที่จะไปจับจ่ายใช้สอย ลดภาระทางการเงินให้แก่ประชาชนทุกรูปแบบ ทั้งจ่ายภาษีลดลง จ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ ลดลง ออกเงินค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง ช่วยเงินให้กับคนที่ไปเที่ยว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
รัฐบาลด้วยการแนะนำของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ได้พยายามทำทุกอย่างที่จะทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากวิกฤติของการแพร่ระบาดของ COVID-19 จนทำให้เราสามารถจัดการด้านสาธารณสุขได้ในระดับดีมาก เป็นที่นิยมชมชื่นของผู้นำประเทศต่างๆ ในโลก และประเทศไทยมีภาพลักษณ์เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงในช่วงเวลาของวิกฤติ COVID-19 ทำให้มีนักลงทุนสนใจที่จะลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และเมื่อเรามีโครงการวีซ่าพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว (Special Tourist Visa—STV) ก็มีนักท่องเที่ยวยินดีที่จะมาเที่ยวในประเทศไทย โดยยอมจ่ายค่ากักตัวในสถานที่ที่พวกเขาเลือกเอง ที่เรียกว่า Alternative State Quarantine—ASQ ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของไทยพอที่จะกระเตื้องขึ้นได้บ้าง และมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลาที่เราต้องการความร่วมมือกันทุกฝ่ายในการต่อสู้กับโรคระบาดและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ยังมีคนบางกลุ่มบางพวกที่มองไม่เห็นความพยายามและความสำเร็จในการแก้ปัญหาของประเทศไทยที่เกิดจากความร่วมมือของหลายฝ่าย พวกเขามองว่ารัฐบาลจัดการกับการแก้ปัญหา COVID-19 ได้แย่มาก และไม่มีความสามารถในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ไม่รู้ว่าเขาหูหนวกตาบอด หรือไม่รู้ว่าเขามีมาตรฐานในการประเมินความสำเร็จสูงส่งอย่างไร จึงได้มองเช่นนั้น หรือว่าแท้จริงแล้วเป็นเรื่องของความริษยาและมีเจตนาที่จะด้อยค่ารัฐบาล ทำลายความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของรัฐบาลจึงพูดเช่นนั้น อยากจะถามว่าเวลานี้เราควรจะทำเช่นนี้หรือ มันใช่เวลาที่จะจ้องแซะรัฐบาลเช่นนั้นหรือ ทำไมเราไม่ช่วยกันด้วยการทำตามมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลประกาศตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทั้งทางด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ
จะมาจ้องแซะ แขวะ ด่าอะไรกันตอนนี้ การเป็นคนรู้กาละและเทศะว่าอะไรควรทำตอนไหน ณ ที่ใดนั้น เป็นการสะท้อนการเป็นคนมีสติปัญญาอย่างหนึ่งนะ สำหรับคนที่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่เหมาะควรกับเวลาและสถานที่ เราก็อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นคนอับปัญญา เพราะเรื่องอะไรเหมาะอะไรควรในเวลาใด ณ ที่ใดยังคิดไม่ได้ ยังมองไม่ออก แล้วใครจะไว้ใจให้มาบริหารประเทศกันล่ะจ๊ะ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |