29 ม.ค.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี และสภ.เมืองสมุทรปราการ ร่วมกันจับกุมนายมงคล สันติเมธากุล หรือ เยล การ์ดราษฎร อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารทหารกรุงเทพ ที่ 36/2564 ลงวันที่ 21 มกราคม 2564 ข้อหาแจ้งความเท็จแก่เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มขึ้นรถตู้ขณะเดินทางกลับบ้านพักหลังร่วมกิจกรรมชุมนุม แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบความจริงว่า เป็นการกุเรื่องขึ้นมา โดยนายมงคลยังคงเดินอยู่ในบริเวณซอยจัดสรรเสนาะ ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ เดินเข้าร้านสะดวกซื้อและไม่ได้ถูกอุ้มตัวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ นายมงคล ได้ถูกจับที่บริเวณหน้า สภ.ลำสนธิ ม.1 ต.ลำสนธิ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัวและได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารรัฐธรรมนูญมารับตัวไปส่งฟ้องที่ศาลทหารกรุงเทพ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาหลบหนีราชการทหาร

ล่าสุด นายสิริพงศ์ สันติเมธากุล บิดานายมงคล หรือ เยล การ์ดราษฎร ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยโพสต์ว่า ทราบข่าวลูกชายถูกจับตั้งแต่เมื่อเช้า ดีใจที่ลูกโดนจับแล้ว เพราะจะได้ไม่ไปก่อเรื่องขึ้นอีก แต่ความเป็นพ่อลึกๆในใจก็ต้องเป็นห่วงลูก คอยโทรศัพท์สอบถามข้อมูลตลอดกับตำรวจ เพราะตนไม่สามารถติดต่อกับลูกชายโดยตรง ในวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ถ้าหากเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เยี่ยม ก็จะไปหาลูกชาย อยากบอกให้เขารับสารภาพ บอกความจริงทุกอย่าง ไม่อยากให้สร้างเรื่องโกหกอีก แต่ไม่รู้ว่าลูกชายสร้างเรื่องถูกอุ้มเพียงคนเดียว หรือมีคนอื่นในกลุ่มการ์ดรู้เห็นเป็นใจด้วย ซึ่งตนได้ข้อมูลจากกลุ่มการ์ดเสื้อแดงว่า มีการสร้างเรื่องโดนอุ้มกันเป็นทีม วางแผนให้เป็นข่าวเพราะกระแสม็อบกำลังแผ่ว

นายสิริพงศ์ กล่าวว่าหลังจากเยล ลูกชายตนได้หลบหนีไปที่จังหวัดลพบุรี ทราบว่าได้ไปหาพรรคพวกที่มีแนวคิดทางการเมืองเดียวกันรวมตัวเคลื่อนไหวอยู่ภายในวัดแห่งหนึ่ง จนกระทั่งหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดได้นำตัวไปส่งที่สภ.ลำสนธิ และนำตัวส่งมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ปรากฏว่ามีทนายความเข้ามาเดินเรื่องช่วยเหลือคดี

"ผมอยากบอกให้ลูกชายรับสารภาพความจริงกับเจ้าหน้าที่ อย่าไปเชื่อทนาย ไม่มีประโยชน์ ไม่อยากให้เข้ามาช่วยเพราะจะทำให้เรื่องยุ่งยากไม่จบไม่สิ้น ผมโมโหมาก ไม่รู้ใครใช้ให้ทนายมาทำ ถ้าหากเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เยี่ยมก็จะไปคุยกับเขาโดยตรง ลูกต้องพูดความจริงให้หมด โทษหนักจะได้เป็นเบา"นายสิริพงศ์ กล่าว