มีรายงานเพิ่มเติมจากฟากของทีมดังไทยลีก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับกรณีนักเตะแหกค่าย ดัง วัน ลัม ที่เป็นวาทกรรมทางโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้

         นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการของสโมสรฯ ได้เปิดเผยว่า "เราไม่ได้วิตกกังวลกับที่ทางฟีฟ่าได้อนุมัติคุ้มครองชั่วคราวที่ทางสโมสรไม่ได้เกี่ยวข้องเลย ให้กับทาง ดัง วัน ลัมเป็นการหารือกันระหว่างสมาคมฟุตบอลของญี่ปุ่น กับทางสมาคมฟุตบอลไทย ซึ่งก็เป็นเรื่องของขั้นตอนปกติที่มีการอ้างของนักเตะกรณีไร้สังกัด"

        "สิ่งที่เกิดขึ้นตามจริงก็คือนักเตะออกจากสโมสรโดยที่เราทำได้เพียงรับรู้เท่านั้น แล้วฟีฟ่าก็เข้ามามีส่วนในการให้ใบอนุญาติในการโอนย้ายชั่วคราว เมื่อได้ข้อมูลว่านักเตะได้ยกเลิกสัญญาไปแล้ว แต่ในใบอนุญาตินั้นของทางฟีฟ่าก็ยังระบุไว้ว่า มีการแจ้งไปทางนักเตะด้วยว่าคดีความยังคงอยู่ตามการฟ้องร้อง หมายถึงการให้สิทธิคุ้มครองให้โอนย้ายได้ ไม่ได้หมายความว่าตัวนักเตะไม่ได้ผิดที่ระเมิดสัญญา ก็ตรงตามที่ท่านเลขาฯ สมาคมฟุตบอลฯ ได้ออกมาให้ข่าวแล้ว"

        "ที่ผ่านมาเราได้มอบหมายให้ทนายสโมสร สำนักงานปารีส มร.คริสตอฟ ลาร์ลูร์ ทนายชาวฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน ไทยลีก และอาเซียนเป็นอย่างมาก และมีประสบการณ์หลายๆเคสที่เกิดขึ้นมาแล้วทั้งที่ยื่นถึงฟีฟ่าและศาลกีฬาโลกมาแล้วเป็นทนายผู้รับผิดชอบ" รณฤทธิ์ กล่าวปิดท้ายถึงความคืบหน้า

        มร.คริสตอฟ ได้กล่าวสรุปเพิ่มเติมในใจความสั้นๆ ว่า "สโมสร เซเรโซ่ โอซาก้า จาก เจลีก มีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่ลงทะเบียนนักเตะรายนี้ที่อยู่ในเคสของฟีฟ่า ซึ่งก็ถือเป็นการดีที่เรามีผู้มีส่วนร่วมเพิ่ม ไม่เพียงแค่ มร.วัน ลัม แต่ยังมีเซเรโซ่ โอซาก้า ด้วยอีกราย ซึ่งมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ทางฟีฟ่าจะประเมินจากสถานการณ์จริงตามหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และนำไปสู่การพิจารณาค่าชดเชยที่มีตามค่าตัวโอนย้าย มูลค่าสัญญาที่เหลืออยู่ ซึ่งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า มร.วัน ลัม จะทำผลงานที่นั่นได้ดี ซึ่งหมายถึงโอกาสที่มากยิ่งขึ้นที่เราจะได้รับ"

        "แน่นอนสโมสรเมืองทองฯ ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดพลาดในสัญญา เพียงแค่การพักบางส่วนของเงินเดือนในแต่ละเดือน ไม่ได้ขาดการจ่ายเงินเดือนติดต่อกันเกินตามที่ฟีฟ่ากำหนดไว้อย่างที่อ้างมา ซึ่งการพักบางส่วนนั้นก็ได้รับการตกลงร่วมกันของนักกีฬาทั้งทีม โดยมีการรับรองตามมติที่ประชุมจากสมาคมฯ ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นจากทุกภาค