นายทุนกว้านซื้อต้นพะยูงในวัด 12 ต้น ราคา 1.5 ล้านส่งออกเมืองนอก ชาวบ้านลงมติไม่ขาย


เพิ่มเพื่อน    

เจ้าอาวาสวัดสุจิตต์ธัมมาราม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์  ยอมรับมีนายทุนมาขอซื้อต้นไม้พะยูงเก่าแก่ที่อยู่ในวัดจริง เสนอให้ราคาสูงถึง 1.5 ล้านบาท แต่ทางวัดไม่ได้ตกลงขาย รอฟังความเห็นจากชาวบ้าน ล่าสุดผลประชาคมมติเป็นเอกฉันท์ ยันจะอนุรักษ์ไว้ไม่ให้ขาย

28 ม.ค.64 - จากกรณีที่ผู้นำชุมชนและตัวแทนชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใน ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รวมตัวกันที่บริเวณวัดสุจิตต์ธัมมาราม ต.นิคม อ.สตึก เพื่อคัดค้านไม่ให้ทางวัดขายต้นไม้พะยูงเก่าแก่ อายุ 200-300 ปีที่ร่วมกันปลูกไว้ภายในวัดสุจิตต์ธัมมาราม หลังทราบข่าวว่า มีนายทุนจากนอกพื้นที่หลายราย มาขอกว้านซื้อต้นไม้พะยูงที่อยู่ภายในวัดดังกล่าว จำนวน 12 ต้น เพื่อส่งขายต่อยังต่างประเทศ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าควรจะอนุรักษ์ไว้ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ไปจนชั่วลูกหลาน เพราะเป็นต้นไม้เก่าแก่ร่วมกันปลูกและดูแลรักษาสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบันกว่า 3 ชั่วอายุคนแล้ว ถือเป็นสมบัติที่มีคุณค่าทางจิตใจประเมินค่าไมได้

ล่าสุดได้มีการเปิดประชุมประชาคมร่วมกันที่วัดสุจิตต์ธัมมาราม ซึ่งมีทั้งเจ้าอาวาสวัด ผู้นำหมู่บ้าน และตัวแทนชาวบ้านทั้ง 5 หมู่บ้าน ในตำบลนิคม อ.สตึก ร่วมประชาคมในครั้งนี้ ซึ่งผลการประชาคมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ให้ขายต้นพะยูงภายในวัด ควรจะอนุรักษ์ไว้จนชั่วลูกชั่วหลาน

พระครูวิสุทธิสันติธรรม เจ้าอาวาสวัดสุจิตต์ธัมมาราม ยอมรับว่าได้มีพ่อค้าหลายคนมาขอซื้อต้นไม้พะยูงในวัดจริง โดยมีการเสนอราคาให้ตั้งแต่ 5 แสนบาท จนถึง 1.5 ล้านบาท แต่ในฐานะที่เป็นเจ้าอาวาส จึงได้ให้โยมที่เข้าวัดประจำได้ไปสอบถามชาวบ้านหรือญาติโยม ว่า ทางญาติโยมเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเขาเห็นด้วยอาตมาก็ไม่ขัด แต่ถ้าโยมเห็นว่าไม่อยากให้ขายเจ้าอาวาสก็ไม่ขัดเช่นกัน เพราะการมีต้นไม้พะยูงอยู่ในวัดก็สร้างความร่มรื่นให้กับวัด  แต่หากจะแปลงเป็นสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาบูรณะวัดอาตมาก็ไม่ได้ขัด

แต่หลังจากญาติโยมจากหลายหมู่บ้านได้มาร่วมประชุมประชาคมกัน ก็มีมติเป็นเอกฉันท์คือ เสียงส่วนใหญ่ต้องการให้อนุรักษ์เอาไว้ไม่อยากให้ขาย และพร้อมที่จะดูแลสนับสนุนทางวัด อาตมาก็ดีใจที่ญาติโยมเห็นความสำคัญของวัดและต้นไม้ ส่วนตัวอาตมาเองก็ไม่อยากจะขาย เพราะต้นไม้พะยูงมีคุณค่ามากกว่าปัจจัย ที่สำคัญเมื่อเห็นญาติโยมสมัครสมานสามัคคีกันแบบนี้ ก็ยิ่งมีค่ามากกว่าเงินทอง

นายสัญชัย เลาวเกียรติ ในฐานะอดีตผู้ใหญ่บ้าน และเป็นคนพื้นที่ อ.สตึก กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการขายหรือลักลอบตัดไม้พะยูง ไม่ว่าจะที่วัดแห่งนี้หรือที่อื่นด้วย เพราะปัจจุบันสภาวะโลกร้อนขึ้นทุกวัน หากมีต้นไม้เยอะๆ จะสามารถช่วยดูดซับความร้อนได้เป็นอย่างดี ก็อยากให้นึกถึงผลกระทบที่จะตามมาโดยเฉพาะลูกหลานที่จะต้องประสบภัยต่างๆ หากไม่มีต้นไม้เหลืออยู่  หากท่านปลูกเพิ่มไม่ได้ก็ไม่ควรจะไปตัดหรือทำลายเลย ควรจะร่วมกันอนุรักษ์ไว้

ด้าน น.ส.อรทัย อึ้งพัฒนากิจ ตัวแทนชาวบ้าน บอกว่าหลังมติประชาคมเป็นเอกฉันท์ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ให้ขายอยากจะอนุรักษ์ต้นไม้พะยูงไว้ ก็รู้สึกสบายใจว่าต้นไม้เก่าแก่จะอยู่จนชั่วลูกชั่วหลาน ซึ่งทางชาวบ้านก็จะร่วมกันดูแลรักษา ควบคู่กับการพัฒนาวัดแห่งนี้ด้ว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"