ขู่ฟัน‘ก๊วนมะตูม’ปกปิดข้อมูล


เพิ่มเพื่อน    

 "บิ๊กตู่" ถก ศบค.ชุดเล็ก ก่อนเคาะผ่อนปรนมาตรการโควิด 29 ม.ค.นี้ ย้ำเน้นเข้มงวดคุมระบาด-ผ่อนคลายให้ ปชช.ทำมาหากินได้ "ศบค." เผยพบผู้ป่วยรายใหม่ 756 ราย ผวา! ปาร์ตี้ "ดีเจมะตูม" ทำยอดติดเชื้อพุ่ง หลังพบแล้ว 26 ราย ยังมีสัมผัสเสี่ยงสูงอีก 113 ราย เสี่ยงต่ำ 53 ราย เหตุให้ข้อมูลไม่ตรงกัน บางคนปกปิดข้อมูล "กรมควบคุมโรค" ประสาน "กทม." เอาผิดตาม กม. พร้อมแจ้ง ตร.ขอเปิดกล้องวงจรปิดโรงแรมดูงานเลี้ยง  

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 28 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut-Chan-o-cha" ระบุว่า วันนี้มีการประชุม ศบค.ชุดเล็กก่อนประชุมชุดใหญ่วันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.) โดยประเด็นสำคัญในวันพรุ่งนี้คือพิจารณาการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 เช่น การปรับพื้นที่ประกาศใช้มาตรการควบคุม และการผ่อนคลายกิจการหรือกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละระดับพื้นที่ ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบในทุกมิติ
    "ผมตระหนักดีว่าทุกคนกำลังลำบาก สิ่งที่ผมพยายามทำคือสร้างสมดุลระหว่าง 2 เรื่อง เรื่องแรกคือความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดเพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจของประเทศ ที่จะยิ่งหนักหนาสาหัสในระยะยาว และเรื่องที่สอง คือการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้พี่น้องประชาชนพอที่จะสามารถใช้ชีวิตประจำวัน และทำมาหากินกันได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    ตอนท้ายนายกฯ ระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยยับยั้งและควบคุมการแพร่ระบาด เพื่อให้เรากลับไปใช้ชีวิตที่เกือบจะปกติได้ในระดับหนึ่ง คือการที่ทุกคนมีวินัย และมีความรับผิดชอบต่อสังคม สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมืออยู่เสมอ เว้นระยะห่างทางสังคม และหลีกเลี่ยงการรวมตัวกัน ขอบคุณครับ #รวมไทยสร้างชาติ"
    ขณะที่ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 756 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 746 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 22 ราย ค้นหาเชิงรุกใน จ.สมุทรสาคร 724 ราย แบ่งเป็นแรงงานต่างด้าว 710 ราย และคนไทย 14 ราย นอกจากนี้ มาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 10 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 16,221 ราย หายป่วยสะสม 11,287 ราย อยู่ระหว่างรักษา 4,858 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 10 ราย ไม่มีรายงานเสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 76 ราย โดยแนวโน้มกราฟยังเชิดหัวขึ้น เรายังต้องระวังอย่างกระชั้นชิด ยังวางใจไม่ได้ ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 101,433,090 ราย เสียชีวิตสะสม 2,184,120 ราย  
ชงเอาผิดผู้ปกปิดไทม์ไลน์
    พญ.อภิสมัยกล่าวถึงกรณีนายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม ว่ามีการแพร่ระบาดไปแล้ว 24 ราย และอย่างไม่เป็นทางการอีก 2 ราย ยังไม่นับรวมกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงอีก 113 ราย และเสี่ยงต่ำ 53 ราย ซึ่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อมีความกังวลกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำที่มีการเดินทางไปในหลายพื้นที่ เช่น โรงแรมและร้านอาหาร แต่ละคนให้ข้อมูลไม่สอดคล้องกัน ทั้งที่ไปในสถานที่ใกล้กัน หรือบางคนปกปิดข้อมูล โดยทางกรมควบคุมโรครายงานว่า กรณีแบบนี้อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดออกไปและการป้องกัน ควบคุมอาจล่าช้าไม่ทันการณ์  
    "กรมควบคุมโรคจึงทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. ว่าพฤติกรรมเหล่านี้เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 รวมถึงกฎหมายอื่นๆ 1.มีความผิดฐานขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามมาตรา 55 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ มีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท รวมถึงอาจมีความผิดฐานแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน อาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนได้รับความเสียหายตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่สถานที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนการห้ามจัดกิจกรรม เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค และไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด รวมทั้งบุคคลที่ร่วมงานเลี้ยง อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนการห้ามทำกิจกรรมมั่วสุมในสถานที่แออัด ตามมาตรา 9 ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" พญ.อภิสมัยกล่าว
      ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า กทม.เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด อยากให้ติดตามการรายงานการดำเนินการความผิดเหล่านี้ในอีก 1-2 วันนี้ แต่ขณะนี้เกิดปรากฏการณ์สังคมลงโทษผู้ติดเชื้อ อยากให้ติดตามข่าวโดยไม่ตัดสินในเรื่องของอารมณ์ ให้การเรียนรู้กรณีดังกล่าวนำไปสู่การป้องกันในโอกาสหน้า ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา เป็นการใช้ชีวิตของชุมชนเมือง การลงโทษผู้ติดเชื้อบางครั้งไม่ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ขอให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายของภาครัฐที่จะดูแล แต่ประชาชนต้องมาเรียนรู้ร่วมกันเพื่อหามาตรการต่อไป
    "ขณะที่เหตุการณ์ที่ใกล้เคียงคือ ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม มีรายงานผู้สัมผัสเสี่ยง 12 ราย ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 7 ราย ซึ่งเกิดจากการรวมตัวสังสรรค์กัน และขณะนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่จำเป็นต้องสอบสวนโรคและเฝ้าระวังต่อมากกว่า 200 ราย ซึ่งการนำเสนอดังกล่าวเพื่อให้เห็นไทม์ไลน์ที่ชัดเจนนำไปศึกษาและนำไปวางมาตรการป้องกัน ไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น จึงขอย้ำว่าการปกปิดข้อมูลนั้นถือเป็นความผิดทางกฎหมาย เพราะถ้าท่านไม่ปกปิด อย่างน้อยกรมควบคุมโรคเข้าไปสอบสวน และจะประกาศให้ประชาชนหรือชุมชนนั้นเกิดการเฝ้าระวัง ป้องกันของเขาให้ปลอดภัยกันได้" ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าว
     พญ.อภิสมัยกล่าวว่า จากข้อมูลการติดเชื้อ จะเห็นว่าในหลายจังหวัดไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อมาหลายวันแล้ว โดยจังหวัดที่ยังพบผู้ติดเชื้อในช่วง 2 วันที่ผ่านมามี 13 จังหวัด จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา มี 1 จังหวัด จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันในช่วง 5-6 วันที่ผ่านมา มี 2 จังหวัด จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มี 47 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเลย 14 จังหวัด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เราจะนำไปพิจารณาออกมาตรการผ่อนคลาย จังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อในระยะเวลานานจะมีมาตรการผ่อนคลายที่มากกว่า
    "ในวันที่ 29 ม.ค. ศบค.ชุดใหญ่จะประชุมเพื่อพิจารณามาตรการผ่อนคลายต่างๆ เรื่องเหล่านี้ยอมรับว่า ศบค.หนักใจ เพราะบางเรื่องประชาชนมีความเห็นต่าง เช่น กรณีการเปิดโรงเรียน เมื่อเปิดแล้วจะมีการป้องกันการระบาดได้หรือไม่ หรือถ้าปิดจะดูแลลูกหลานอย่างไรให้ได้รับการศึกษาที่เหมาะสม ตรงนี้ ศบค.ใช้ฐานข้อมูลที่มีความละเอียดยิบย่อยในการพิจารณา ข้อมูลส่วนหนึ่งมาจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างไรก็ตาม เราจะเฝ้าระวังการติดเชื้ออย่างเดียวไม่ได้ ศบค.ต้องพิจารณาปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ด้วย เพื่อนำไปตัดสินใจ" พญ.อภิสมัยกล่าว
    ถามถึงการเปิดโรงเรียนในวันที่ 1 ก.พ.นี้ หากเด็กนักเรียนอาศัยอยู่ใน จ.สมุทรสาคร แต่ต้องเดินทางมาเรียนหนังสือในโรงเรียนที่อยู่เขต กทม.หรือจังหวัดใกล้เคียง จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากโรงเรียนอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีรายงานผู้ป่วย เช่น อ. บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ตรงนี้หลายคนใช้คำว่าคนหัวหมอ โดยระบุว่าคนส่วนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ถูกปิด แต่ข้างบ้านอีกอำเภอหนึ่งเปิด เช่น การดื่มเหล้า จะย่องไปดื่มในพื้นที่ข้างเคียงได้หรือไม่ คงต้องเป็นเรื่องของความรับผิดชอบส่วนบุคคลที่จะต้องร่วมมือและเฝ้าระวัง
เล็งเปิดกล้องวงจรปิดดู
    ส่วน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการทำหนังสือถึงสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เรื่องขอให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกลุ่มปาร์ตี้ดีเจมะตูมแล้วปกปิดข้อมูลว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องมีการให้ข้อมูลบางประการที่ไม่สอดคล้องกัน รวมถึงมีการปฏิเสธหรือปกปิดข้อมูลบางส่วนต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจทำให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาดไปในวงกว้าง และทำให้การป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ล่าช้าและไม่ทันการณ์ได้ จึงพิจารณาแล้วเห็นว่าอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    "ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงนี้ ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนอย่าปกปิดข้อมูลหรือให้ข้อมูลล่าช้า เพราะจะส่งผลให้การควบคุมโรคทำได้ช้า ไม่ทันการณ์ และเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไปยังบุคคลอื่นเพิ่มได้อีก และขอให้ทุกคนเคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเอง โดยสวมหน้ากาก 100% เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ เช็กชื่อด้วยไทยชนะ และดาวน์โหลดหมอชนะ เพื่อช่วยให้การสอบสวนควบคุมโรคและติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น" อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว
    ขณะที่ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงไทม์ไลน์ทั้งหมดที่ กทม.เปิดเผยว่า เป็นข้อมูลที่ได้รับจากใบโนเวล และได้สอบถามเพิ่มเติมการสอบสวนโรคสามารถสงวนสิทธิ์เรื่องความสัมพันธ์ส่วนบุคคลได้ แต่ต้องเปิดเผยไทม์ไลน์พื้นที่เสี่ยง
    ถามถึงการปกปิดข้อมูลหรือให้ข้อมูลเป็นเท็จจะดำเนินการอย่างไร ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่า หากข้อมูลเป็นเท็จจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายโดยเจ้าพนักงานกรมควบคุมโรค การปิดบังข้อมูลก็ถือว่าผิดกฎหมาย ขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว รอยืนยันว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อรายที่ 647 ไม่ให้ข้อมูลและมีข้อมูลน้อย เจ้าหน้าที่จึงเปิดเผยเช่นนั้นต่อมาผู้ป่วยทราบว่าติดโควิดจึงเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม
    ส่วนรายที่ 658 พบว่าข้อมูลไม่ตรงกัน โดยไทม์ไลน์ที่เปิดเผย วันที่ 9 ม.ค.64 ไปโรงเเรมบันยันทรีนั้น กทม.ยึดข้อมูลตามใบโนเวล จากนั้นเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 27 ม.ค.64 ผู้ติดเชื้อเปิดเผยว่า ไม่ได้ไปโรงแรมดังกล่าว แต่มีเพื่อนที่ติดเชื้อมาหาที่ห้องพัก และกรณีรายที่ 657 ไทม์ไลน์ครั้งแรกไม่ให้ข้อมูล แต่เปิดเผยไทม์ไลน์ครั้งที่ 2 เปิดเผยเพิ่มเติมว่าอยู่บ้าน ขณะนี้กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง
    "ส่วนเรื่องการจัดเลี้ยง จัดปาร์ตี้ กทม.จะตรวจสอบว่ามีจำนวนผู้เข้าร่วมและร้านเปิดเกินเวลาที่กำหนดหรือไม่ โดย กทม.จะประสานกับตำรวจเพื่อตรวจสอบด้วยกล้องวงจรปิดและสืบสวนต่อไป" โฆษก กทม.ระบุ
    อย่างไรก็ตาม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า กรณีปาร์ตี้วันเกิดบุคคลชื่อดังในวงการบันเทิงที่มีการปกปิดไทม์ไลน์กลายเป็นโต้เถียงกันในสังคม หลายคนพุ่งเป้าการกล่าวโทษไปที่ตัวบุคคลที่ร่วมวงปาร์ตี้กันในวันนั้นว่าอาจเป็นต้นเหตุแห่งการระบาดระลอกใหม่ ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม แต่พวกเราต้องไม่ลืมผู้ร้ายตัวจริงที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ซึ่งมีส่วนทำให้สถานการณ์ในครั้งนี้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นด้วย นั่นก็คือการสื่อสารที่สับสนและการทำงานที่ขาดเอกภาพของรัฐบาล
    "นี่ป็นกรณีตัวอย่างที่ดีที่สุดของการทำงานที่ขาดเอกภาพ ต่างคนต่างทำ สื่อสารผิดพลาด ทำให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน ผู้ร้ายตัวจริงที่ทำให้พวกเรายังไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงความเป็นปกติสุขที่สุดได้ เพราะพวกเราขาดความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการของรัฐบาล" ส.ส.พรรคก้าวไกลผู้นี้ระบุ.
    

 

.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"