จากกรณีที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ระบุว่า กำลังพิจารณาแนวทางเยียวยากลุ่มแรงงานในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ประมาณ 11 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยกำลังดูว่ารูปแบบที่กระทรวงการคลังจ่ายเยียวยามีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง และ ต้องหารือกับ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง อีกครั้ง
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจในระดับนโยบาย ซึ่งคาดว่าทาง กระทรวงแรงงานจะต้องหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เพื่อพิจารณามาตรการ หากจำเป็นต้องใช้เงินจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของงบประมาณฟื้นฟู 3.9 แสนล้านบาท น่าจะมีการหารือร่วมกับ รมว.การคลัง ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ในหลักการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานในระบบประกันสังคม มาตรา 33 จะมีกลุ่มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมอยู่แล้ว 1.1 ล้านคน และ กลุ่มแรงงานต่างด้าว จึงต้องพิจารณาว่า เกณฑ์การเยียวยาจากข้อมูลของกระทรวงแรงงาน จะกำหนดเกณฑ์อย่างไร ซึ่งหากที่เห็นตามข้อเสนอในข่าว คือ ให้เงินช่วยเหลือ 4,000 บาท 1 เดือน เฉพาะกลุ่มที่มีเงินในบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท เหมือนโครงการเราชนะ โดยคลังยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณที่จะนำมาใช้
น.ส.กุลยา กล่าวถึงกรณีที่ให้ผู้ที่มีแอปพลิเคชันเป๋าตัง ที่ได้รับสิทธิ์ร่วมโครงการคนละครึ่ง รอบเก็บตก อีก 1.34 ล้านคน ยืนยันตัวตนภายในวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้อยู่ในฐานข้อมูลคัดกรองร่วมมาตรการเราชนะ จากข้อมูลพบว่า มีผู้ไม่ยืนยันตนภายในเวลาที่กำหนด กว่า 3 แสนคน ซึ่งในจำนวนนี้ หากมีคุณสมบัติ และ ต้องการใช้สิทธิ์โครงการเราชนนะ จะต้องมาลงทะเบียนผ่านเว็บไซด์ www.เราชนะ.com ภายในวันที่ 29 ม.ค.-12 ก.พ.นี้ เพราะถือว่าไม่ได้สิทธิ์อัตโนมัติ
“ในกลุ่มเก็บตกคนละครึ่ง 1.34 ล้านคน มีผู้ไม่มายืนยันตัวตน 3 แสนคน ส่วนกลุ่มที่ยืนยันตัวตนแล้ว ไม่ต้องทำอะไร ระบบจะทำการคัดกรอง และให้ตรวจสอบสิทธิ์ได้วันที่ 5 ก.พ.นี้ ถ้าเข้าข่ายก็จะได้รับเงินเยียวยา 7,000 บาท ทันทีตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.เป็นต้นไป ส่วน 3 แสนสิทธิ์ เข้าใจว่าที่ไม่ยืนยันตัวตน อาจเป็นกลุ่มข้าราชการ กลุ่มพนักงานตามมาตรา 33 ที่ไม่ต้องการร่วมเราชนะ ก็สามารถใช้สิทธิ์คนละครึ่งครั้งแรกให้ทันภายในวันที่ 7 ก.พ. เหมือนเดิม” น.ส.กุลยา กล่าว
สำหรับการลงทะเบียนโครงการเราชนะ ในวันที่ 29 ม.ค. ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดให้ลงทะเบียน ที่ไม่ใช่กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ ร่วมโครงการรัฐผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังมาก่อน เชื่อว่า ระบบจะสามารถรองรับคนที่สนใจมาลงทะเบียนได้ไม่มีปัญหา เพราะเป็นคนละระบบกับโครงการคนละครึ่ง เป็นเว็บเบส ที่เปิดให้ลงทะเบียนได้ตลอด มีเวลาในการกรอกข้อมูล และ รอ OTP ยืนยัน ไม่ใช่ใครมาก่อนได้ก่อน โดยขอให้ผู้กรอกข้อมูล ระมัดระวังการลงทะเบียนให้ถูกต้อง เช่น การกรอกสระ พยัญชนะต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหา กรณี กรอกสระแอ โดยพิมพ์สระเอ สองครั้ง หรือ กรอกสระอำ เป็นต้น
สำหรับความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 และ 2 จำนวน 15 ล้านคน ใช้เงินหมดตามเกณฑ์ 3,500 บาท แล้วกว่า 2.6 ล้านคน และมีจำนวนมากที่ใช้เงินใกล้หมด เหลือหลักร้อยบาท สะท้อนให้เห็นว่าคนใช้จ่ายกันเป็นจำนวนมาก โดยยอดใช้จ่ายสะสมล่าสุดอยู่ที่ 7.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่การขยายโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 ต้องรอพิจารณาหลังจากโครงการเราชนะดำเนินการเรียบร้อยก่อน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |