สำหรับความก้าวหน้า “ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ” อีกหนึ่งภารกิจสำคัญของรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ที่ได้มีการปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ได้รับทราบความก้าวหน้าจากการดำเนินการของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
โดยความก้าวหน้ายุทธศาสตร์ชาติและการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ หลัง ครม.มีมติเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 เห็นชอบ “แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ” อันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ.ศ.2564-2565 ซึ่งรวมถึงแนวทางการดำเนินการขับเคลื่อนแผนแม่บทเฉพาะกิจฯ ไปสู่การปฏิบัติ เช่น ให้สำนักงบประมาณใช้แผนแม่บทเฉพาะกิจฯ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 23 ประเด็น และแผนในระดับที่ 2 เป็นกรอบจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และให้หน่วยงานของรัฐใช้ในการจัดทำโครงการ การดำเนินงานเพิ่มเติมจากโครงการสำคัญประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565
จากนั้น วันที่ 15 ธันวาคม ครม.ยังได้มีมติเห็นชอบแนวทางการจัดทำแผนระดับที่ 3 ที่เป็นแผนปฏิบัติการเพื่อเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.และ สศช. อยู่ระหว่างจัดทำคู่มือที่มีความชัดเจนและเข้าใจง่าย เพื่อเสนอต่อ ครม.ทราบ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เป็นแนวปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
โดย เมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2563 ยังได้มีแผนระดับที่ 3 ที่ส่งให้ สศช.พิจารณารวมทั้งสิ้น 108 แผน แบ่งเป็น 1.ผ่านกระบวนการพิจารณาและรายงานให้ ครม.รับทราบแล้ว จำนวน 70 แผน 2.อยู่ระหว่าง สศช.พิจารณากลั่นกรอง 25 แผน และ 3.ยกเลิกการดำเนินการ 2 แผน ทั้งนี้มีแผนที่ผ่านกระบวนการพิจารณาในรอบเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 รวม 11 แผน เช่น (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ.2563-2565 (ฉบับปรับปรุง) และ (ร่าง) นโยบายแห่งชาติด้านยาและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ.2563-2565 เป็นต้น
ทั้งนี้ สศช.อยู่ระหว่างประสานสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อเร่งรัดดำเนินการในการพิจารณาทบทวนกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการเสนอร่างกฎหมายต่างๆ ในอนาคต เพื่อไม่ให้มีบทบัญญัติให้หน่วยงาน คณะกรรมการต้องเสนอแผนต่อ ครม.โดยไม่จำเป็น
ส่วนความก้าวหน้า “แผนการปฏิรูปประเทศ” ได้เห็นชอบแผนการปฏิรูปประเทศฉบับปรับปรุง รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนแผนดังกล่าว โดยได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศสู่การปฏิบัติ มีผู้แทนคณะกรรมการปฏิรูปประเทศและหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลัก ร่วมกันจัดทำรายละเอียดแผนการขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปที่ส่งผลต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ (Big Rock) โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดทำแผนขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศ และนำเสนอคณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้านพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในเดือนมกราคม 2564 นี้
ขณะที่ความคืบหน้า สศช.ได้เร่งจัดทำรายงานหลังจากสิ้นสุดแต่ละไตรมาสเพื่อเสนอ ครม.พิจารณาและรายงานให้รัฐสภาทราบ โดยในส่วนของการรายงานรอบเดือนมกราคม-มีนาคม 2564 จะรายงานตามแผนการปฏิรูป (ฉบับปรับปรุง) ที่เป็นการรายงานเฉพาะ Big Rock ตามแผนการปฏิรูปฉบับปรับปรุง เพื่อให้เนื้อหาสาระของรายงานมีความเป็นปัจจุบันและสอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนี้
นอกจากนี้ในด้านการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ โดยการตรวจสอบการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (eMENSCR) พบว่า หน่วยงานต่างๆ ได้นำข้อมูลเข้าระบบ ได้แก่ 1.โครงการ การดำเนินงานประจำปี 2563 ซึ่งต่อเนื่องจากปี 2562 รวมทั้งสิ้น 64,086 โครงการ และ 2.แผนระดับที่ 3 รวมทั้งสิ้น 672 แผน
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นที่ต้องเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติคือ การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดทักษะและความสามารถ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องต่อเนื่องตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
จากการดำเนินการปรับแผนดังกล่าว ก็เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่เรายังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |