ไบเดน-โอบามา : เบื้องหลัง ความเป็น ‘เพื่อนซี้’


เพิ่มเพื่อน    

 

          ความสัมพันธ์ลุ่มลึกระหว่างบารัค โอบามา กับโจ ไบเดน เป็นเรื่องน่าศึกษาและค้นหา

                เพราะปกติแล้วนักการเมืองมักจะมีเรื่อง “หมั่นไส้” หรือขัดแข้งขัดขากัน

                แม้คนหนึ่งจะเป็นประธานาธิบดี และอีกคนหนึ่งจะเป็นรองประธานาธิบดีก็ตาม

                ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ เบอร์ 1 กับเบอร์ 2 ในทำเนียบขาวมักจะมีเรื่องระหองระแหงกันเป็นนิจสิน

                หากไม่ใช่เรื่องเหยียบเท้ากันก็จะเป็นการที่ประธานาธิบดีไม่ยอมให้รองฯ มีบทบาทโดดเด่นกว่าตน

                ส่วนเบอร์ 2 ก็จะมองว่าเบอร์ 1 หวงอำนาจ ไม่ให้เกียรติ มอบงาน “ไม้ประดับ” ให้กับรองฯ เท่านั้น

                คู่ของโอบามากับไบเดนเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

                เพราะก่อนจะยอมรับเป็นคู่หูในการสมัครรับเลือกตั้งเมื่อปี 2008 นั้น ไบเดนบอกโอบามาว่าเขาจะยอมรับตำแหน่งรองประธานาธิบดีก็ต่อเมื่อได้รับบทบาททำงานที่เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่เป็น “เบอร์ 2 ที่ไร้ตัวตน”

                โอบามายอมตามเงื่อนไขนั้น จึงให้ไบเดนในฐานะรองประธานาธิบดีดูแลนโยบายสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับอเมริกาใต้, อิรักและยูเครน

                ความใกล้ชิดของทั้ง 2 คนมีมากถึงขั้นที่เรียกว่าเป็น “bromance” ซึ่งหมายถึงความผูกพันของผู้ชาย 2 คนที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์

                ภาษาไทยเราคงจะเรียกความใกล้ชิดอย่างนั้นว่า “เพื่อนซี้”

                ในหนังสือที่โจ ไบเดน เขียนเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว : Promise Me, Dad เขาเล่าถึงหลายช่วงเวลาที่ทำงานกับโอบามาที่มีความเกี่ยวข้องกันมากกว่าเพียงระหว่างหัวหน้ากับมือขวา

                ไบเดนเขียนตอนหนึ่งว่า

                “ผมรู้ว่าผมพึ่งพาเขา (โอบามา) ได้ เขาเป็นคนแรกนอกครอบครัวของเราที่รู้เรื่องความเจ็บป่วยของโบ (ลูกชายโจ ไบเดน)...เขาเคยประกาศในที่สาธารณะว่าเขาโชคดีมากที่รู้จักผม ไม่ใช่เพียงแต่ในฐานะที่สมัครรับเลือกตั้งด้วยกันเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือความเป็นเพื่อน...และโอบามาบอกว่าเขารักครอบครัวของผม...”

                ปกติโอบามากับไบเดนจะกินข้าวเที่ยงกันสัปดาห์ละครั้งสองต่อสองในทำเนียบขาว เพื่อสรุปเรื่องราวของหน้าที่งานการของประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี

                วันหนึ่งระหว่างมื้อเที่ยง ไบเดนเล่าให้โอบามาฟังถึงอาการป่วยของโบที่ทรุดลงตามลำดับ

                โอบามาถามไบเดน : “โจ, แล้วคุณจะทำยังไง?”

                โจตอบว่า “เขา (หมายถึงโบ) ไม่ค่อยจะมีเงินนัก แต่เราพอเอาตัวรอดได้ ถ้าจำเป็นจริงๆ จิลล์ (ภรรยาไบเดน) กับผมคงจะสามารถกู้เงินก้อนใหม่ ใช้บ้านที่วิลมิงตัน (รัฐเดอลาแวร์) ของเราค้ำกับแบงก์...พอไหวครับ...”

                โอบามาบอกไบเดน : “อย่าทำอย่างนั้น”

                ไบเดนบอกว่าเขาเห็นอาการของโอบามาค่อนข้างจริงจัง น้ำเสียงขึงขังแบบที่นานๆ จะได้เห็น

                “พูดเสร็จโอบามาลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินอ้อมมายืนข้างหลังผม มือทั้งสองข้างวางบนไหล่ผม...”

                โอบามาบอกไบเดน : “ผมจะให้เงินคุณ ผมมี คุณจ่ายคืนผมเมื่อไหร่ก็ได้...”

                ไบเดนแสดงความซาบซึ้งต่อความเป็นเพื่อนของโอบามามาตลอด...แม้ตอนที่เขาตัดสินใจสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเปิดเผยจากโอบามาอย่างเต็มที่

                โอบามาและมิเชล โอบามา กระโดดออกมาช่วยไบเดนหาเสียงอย่างคึกคัก

                โอบามาเคยประกาศว่า “ไบเดนเป็นรองประธานาธิบดีที่ดีที่สุดเท่าที่อเมริกาเคยมีมา”

                ไบเดนก็แสดงความชื่นชมโอบามาอย่างเปิดเผยมาตลอดเช่นกัน

                ครั้งหนึ่ง ไบเดนออกรายการทีวีทาง NBC พิธีกรถามเขาเกี่ยวกับความรู้สึกต่อโอบามา

                “I don’t like him. I love him.”

                (ผมไม่ชอบเขา...ผมรักเขาเลย)

                ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือ ไม่ใช่เพียงแค่โอบามารักใคร่สนิทสนมกับไบเดนเท่านั้น แต่ภรรยาของทั้ง 2 ก็คบหากันอย่างแนบแน่น

                นั่นคือระหว่างสุภาพสตรีหมายเลข 1 Michelle Obama กับสุภาพสตรีหมายเลข 2 Jill Biden ในช่วงที่อยู่ในทำเนียบขาวด้วยกัน 8 ปีเต็มๆ

                รวมถึงความชิดเชื้อของลูกสาวของโอบามากับหลานสาวของไบเดนก็เป็นเรื่องที่เล่าขานในแวดวงคนใกล้ชิดเช่นกัน

                จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อไบเดนมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ครั้งนี้ โอบามาก็กลายเป็นหัวหน้ากองเชียร์คนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของรัฐบาลใหม่นี้ทีเดียว.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"