ดัง วาน ลัม ผู้รักษาประตูทีมชาติเวียดนาม ของสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ได้ลุ้นต่อที่จะไปค้าแข้งแดนปลาดิบ หลังจากฟีฟ่าปล่อยใบโอนย้าย (ไอทีซี) ชั่วคราวให้เข้าร่วมทีม เซเรโซ่ โอซาก้า ทีมในเจลีก ญี่ปุ่น และรับคดีที่ถึงฟีฟ่าแล้ว รอตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนชี้ผิดถูกของนักเตะและต้นสังกัดภายหลัง ด้านกิเลนผยองติดใจท่าทีของฟีฟ่าที่เปิดไฟเขียวให้ ดัง วาน ลัม แต่มั่นใจคำตัดสินที่เป็นธรรมเมื่อปิดเคส ยังยืนยันไม่เจรจาแน่ เพราะเอกสารส่งฟ้องทั้งนักเตะ, เอเยนต์และทีมใหม่เดินหน้าไปมากแล้ว

        กรณีมหากาพย์ผู้รักษาประตูทีมชาติเวียดนาม ดัง วาน ลัม กับต้นสังกัด"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เจ้าตัวพยายามสร้างเรื่องย้ายออกจากทีมหลังตกเป็นมือสองให้กับสโมสรเอสซีจี เมืองทอง 2 นัด จึงขอยกเลิกสัญญาที่ยังมีถึงฤดูกาล 2022 โดยอ้างว่าถูกลดเงินเดือนในช่วงโควิด-19 ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผู้บริหารทีมกิเลนผยองเดินหน้ายื่นคำฟ้องไปยังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และสหพันธืฟุตบอลนานาชาติ" ฟีฟ่า" ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณา

        แต่ว่าล่าสุดมีความเคลื่อนไหวออกมาจากทางสมาคมฟุตบอลญีปุ่น ที่พยายามยื่นขอใบโอนย้ายมายังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย รอบสอง ให้ทีม เซเรโซ่ โอซาก้า ทีมดัง เจลีก ในโควตาผู้เล่นไร้สังกัด โดย ฟีฟ่า มีคำตัดสินให้เป็นการคุ้มครองใบโอนย้าย(ไอทีซี)ชั่วคราวกับ ดัง วาน ลัม แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องและไม่ส่งผลต่อการพิจารณาสอบสวนที่สโมสรต้นสังกัดส่งเรื่องร้องอยู่ที่ ฟีฟ่า

        ทางด้านต้นสังกัด "กิเลนผยอง"เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด นั้น "บิ๊กเป้"นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรฯ ได้ ออกมาเปิดเผยถึงกรณีที่ฟีฟ่าคุ้มครองชั่วคราวโดยปล่อยใบโอนย้ายให้ดัง วาน ลัม ว่า “ทางเราทราบจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทสไทยฯ ที่แจ้งมาว่าทางสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นว่ามีการติดต่อเพื่อขอไอทีซี (ใบโอนย้าย) ไม่มีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่มีการประสานผ่านระบบ TMS (ระบบโอนย้ายออนไลน์) ซึ่งทางเราได้ตอบปฎิเสธไปแล้วในครั้งแรก แต่ในครั้งที่สองที่ขอมาอีกครั้งเราไม่ทราบเลย มาทราบอีกครั้งจากสมาคมฯ ว่าฟีฟ่าอนุมัติคุ้มครองชั่วคราวให้ย้ายได้ก่อน โดยยังคงยืนข้อพิพาทที่ฟ้องกันของสโมสรต่อตัวนักเตะและเอเยนต์ไว้ ยอมรับว่าแปลกใจมากและไม่เข้าใจต่อท่าทีที่ ฟีฟ่า ให้โอนย้ายได้ เพราะไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการตามระบบโอนย้ายปกติ ดังนั้นเราขอยืนยันว่าปฎิเสธการให้ย้ายตัว ซึ่งสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ก็คือการขอเปลี่ยนคำตัดสินของ ฟีฟ่า ที่มีมาถึง สมาคมฯ”

        “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรายืนยันถึงความถูกต้องตลอดมาต่อการปฏิบัติต่อตัวนักเตะและเคารพสัญญาที่มีอยู่ระหว่างกัน โดยเคสนี้เราได้ยื่นฟ้องไปยัง ฟีฟ่า เพื่อเรียกค่าเสียหายจากนักเตะและเอเยนต์ รวมถึงสโมสรใหม่ที่จะย้ายไป ถึงการละเมิดสัญญาแบบผิดกฏ ทั้งๆ ที่ยังมีสัญญาเหลืออยู่ เราเชื่อมั่นว่าท้ายที่สุด สโมสรจะได้รับคำตัดสินจากคณะทำงานของ ฟีฟ่า ที่ชัดเจนและเป็นธรรม” นายรณฤทธิ์กล่าวปิดท้าย