หน้าหนาว อากาศเย็นๆ เป็นสิ่งที่หลายคนคงตั้งหน้าตั้งตารอ แต่ก็มีอีกหลายคนที่อยากให้หน้าหนาวนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะบางพื้นที่อุณหภูมิหนาวเหน็บ ยิ่งปีนี้ ถือว่าลมหนาวมาแรงถูกใจคนไทย แต่อีกด้านกลับ ส่งผลให้เด็กเล็กๆ ในครอบครัวที่ไม่มีเสื้อผ้าหนาๆ ไม่มีผ้าห่มอุ่นๆ ห่มตอนนอน ต้องใส่เสื้อผ้าซ้อนทับกันหลายชั้น นั่งผิงไฟพอประทังให้คลายหนาว แต่หากทนไม่ได้ก็อาจจะทำให้เด็กๆเจ็บป่วยเป็นไข้ได้
ในปีนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ไว้ว่า ช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย น่าจะอยู่ยาวไปถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และอากาศหนาวเย็นที่สุด คือช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 ถึงปลายเดือนมกราคม 2564 ยิ่งยอดดอยและบนเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด จึงมีหลายหน่วยงานที่เล็งเห็นปัญหานี้ได้เข้ามาช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความหนาวให้เหล่าเด็กๆได้บ้าง
เช่นเดียวกับทาง "อออุ่น " ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเพื่อสังคมที่ได้จัดทำโครงการ "ส่งต่อเสื้อผ้าเด็กเพื่อครอบครัวที่ขาดแคลน" โดยการรับบริจาคเสื้อผ้าเด็กไม่ใช้แล้ว แลกเป็นส่วนลดกว่า 15%-70% เมื่อซื้อตัวใหม่กับแบรนด์ต่างๆที่เข้าร่วมกับทางโครงการ เสื้อผ้าที่ได้รับบริจาคมา ทางโครงการจะทำการส่งต่อให้กับครอบครัวที่ขาดแคลนจากทั่วประเทศ ซึ่งมีการเปิดรับบริจาคตลอดทั้งปี และจะมอบเสื้อผ้าไปให้กับเด็กๆทั่วประเทศในทุกสิ้นเดือนนั้นๆ
ธันยทิพย์ วัลยะเสวี
ธันยทิพย์ วัลยะเสวี ผู้ก่อตั้ง อออุ่น กล่าวว่า การก่อตั้งอออุ่นได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 เพราะมีความตั้งใจอยากทํางานเพื่อช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะในด้าน ครอบครัวและเด็ก ด้วยความเชื่อที่ว่าการได้รับการปลูกฝังเลี้ยงดูที่มีคุณภาพตั้งแต่ยังเล็ก เด็กๆจะผลิบานออกดอก ไปเป็นกําลังที่มีคุณภาพของสังคม การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เด็กเล็ก ต้องใช้เวลา กําลังคน และกําลังทรัพย์ อย่างมาก เราอยากช่วยลดภาระได้ซักทางใดทางหนึ่ง เพื่อช่วยให้ครอบครัวได้ทุ่มเทกับการเลี้ยงดูเด็กๆได้มากขึ้น
ครอบครัวสุขใจเมื่อได้รับเสื้อผ้า
ธันยทิพย์ กล่าวอีกว่า จากการได้ศึกษาพบว่าเด็กในครอบครัวยากไร้ พบปัญหา 2 ด้าน คือ 1.การขาดแคลนเสื้อผ้าพบว่ามีประมาณ 40% และที่เหลือส่วนใหญ่เป็นการขาดแคลน ของใช้อื่นที่จำเป็นสำหรับเด็ก โดยเฉพาะ แพมเพิส/ผ้าอ้อม นมผง ประมาณ 40% และอื่นๆเช่น ขวดนม, สบู่เด็ก, ที่นอน, ฯลฯ ประมาณ 20% ซึ่งทั้งหมดถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยสำหรับครอบครัวยากจน 2.โอกาสในการสร้างรายได้ จากการศึกษาครอบครัวที่ขาดแคลนพบว่า แม่ที่มีลูกเล็กหรือตั้งท้องไม่สามารถทำงานหรือหารายได้ได้เลย สาเหตุต่างๆจากการไม่มีคนช่วยเลี้ยงลูกสูงถึง 80% และโดนให้ออกจากงานตั้งแต่ตั้งครรภ์ เช่นงานร้านอาหาร งานโรงงาน ประมาณ 20%
ผู้บริจาคอิ่มเอมใจ ได้มอบเสื้อผ้าให้กับเด็กๆ
"ตั้งแต่ปีที่แล้วที่เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อขอรับบริจาคมีกว่า 300 ครอบครัว โดยจะมีการพิจารณาตามแนวทางของโครงการ เช่น สภาพความเป็นอยู่, รายได้ครอบครัว, ฯลฯ ยังต้องจัดลำดับตามความเร่งด่วนด้วย ทำให้พบว่ามีครอบครัวที่ขาดแคลนกระจายอยู่ทั่วทุกภาค ซึ่งส่วนหนึ่งคือครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิด-6ขวบ เป็นช่วงอายุที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตเปลี่ยนแปลงเร็วที่สุด และมีค่าใช้จ่ายและต้องได้รับการดูแลอย่างมาก เสื้อผ้าเด็กเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็น และหวังว่าจะช่วยลดปัญหาของและครอบครัวที่ขาดแคลนได้"ธันยทิพย์เล่าผลสำรวจ
การร่วมบริจาคในโครงการอออุ่น สามารถแลกใช้เป็นส่วนลดเมื่อซื้อตัวใหม่กับแบรนด์เสื้อผ้าเด็กที่เข้าร่วมโครงการ ลดสูงสุด 15%-70% โดยเแบรนด์ที่เข้าร่วมเป็นแบรนด์เสื้อผ้าเด็กคุณภาพดีที่มีวางจำหน่ายในตลาด ทั้งขายออนไลน์ / มีหน้าร้านอยู่แล้ว
เสื้อผ้าพร้อมส่งให้กับครอบครัวที่ขาดแคลน
"นอกจากทางแบรนด์ต่างๆ จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจูงใจให้เกิดการบริจาคแล้ว ยังเป็นโอกาสให้ทางแบรนด์ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัวที่มีลูกเล็ก และจำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าเด็กสำหรับลูกที่กำลังโตขึ้นด้วย และเราคาดหวังจะเห็นพ่อแม่ที่ส่งของมาบริจาค กลับมาบริจาคและซื้อสินค้าจากแบรนด์พาร์ทเนอร์ของโครงการ ทุกๆ3-6 เดือน เมื่อลูกๆของเขาตัวโตขึ้น นั่นจะแสดงให้เห็นว่าระบบที่เราสร้างขึ้นนั้นสามาถช่วยครอบครัวลดปัญหาและค่าใช้จ่ายได้จริงๆ และในขณะเดียวกันทำให้เราสามารถส่งของบริจาคเหล่านั้นไปช่วยครอบครัวที่ขาดแคลนเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกเล็กเช่นกัน"
ธันยทิพย์ กล่าวอีกว่านอกจากการ ดำเนินการรับบริจาคและแลกซื้อเสื้อผ้าเด็กราคาพิเศษที่เป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องแล้ว การบริจาคเสื้อผ้าเด็กและของใช้ สามารถช่วยเหลือลดภาระครอบครัวที่ขาดแคลนได้ในระยะสั้น ในระยะยาว ทางโครงการหวังว่าจะสามารถร่วมศึกษาและแก้ปัญหาการสร้างรายได้ของครอบครัวอย่างยั่งยืนได้ เช่น การร่วมกับธุรกิจและบริษัทต่างๆในการเปิดรับคนท้อง/แม่ลูกอ่อนเข้าทำงาน, หรือการอบรม/ให้ความรู้ในการสร้างอาชีพที่ครอบครัวจะสามารถนำไปต่อยอดได้พร้อมๆกับการเลี้ยงดูลูก และเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 การส่งของบริจาคทั้งหมดทางโครงการจะทำการส่งทางโปรษณีย์ ซึ่งสามารถกระจายส่งถึงครอบครัวที่ขาดแคลนได้ทั่วประเทศ
ผู้สนใจผู้บริจาคสามารถทำการเลือกซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ www.alloonkids.com หรือไลน์ Line: @alloonkids และแลกใช้ส่วนลดได้ตามรายละเอียดสินค้าที่กำหนดไว้ เช่น ใช้ของบริจาค 5ชิ้น เพื่อแลกเป็นส่วนลด 50% เป็นต้น
------------------------