สองทหารเกณฑ์หนีค่ายโร่แจ้งความตำรวจเอาผิดครูฝึก หลังถูกซ้อมน่วม ยอมรับเสพกัญชาจริง พร้อมรับโทษ แต่ไม่ใช่เกือบตาย ด้านแม่ห่วงเหลือ 8 เดือนปลดประจำการ หวั่นลูกไม่ปลอดภัย 'บิ๊กตู่' ยันทำเกินกว่าเหตุต้องลงโทษวินัย รอตรวจสอบข้อเท็จจริง
    วันที่ 26 มกราคม นางฉัตรา ประจง มารดาพลทหารขจร ประจง อายุ 24 ปี พร้อมด้วยนางปุญญิศา ศิริรักษ์ มารดา พลทหารวัชระ ศิริรักษ์ อายุ 22 ปี พลทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วินัย ตระกูลไทย สารวัตรเวร สภ.เมืองชลบุรี หลังผู้เสียหายได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยองว่า ถูกครูฝึกซ้อมจนได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย และหลบหนีออกมาจากกองพันดังกล่าว สาเหตุจากการลักลอบสูบกัญชาภายในค่ายกองพันทหารราบที่ 1 ถูกจับและลงโทษอย่างหนัก 
    เหตุครั้งนี้เกิดใน อ.เมืองชลบุรี ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความ พร้อมทั้งนำใบรับรองแพทย์มอบให้กับพนักงานสอบสวน มีการสอบปากคำ ก่อนส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล หลังจากนั้น จนท.จะสรุปสำนวนส่งให้นายทหารพระธรรมนูญดำเนินคดีต่อไป
    พลทหารขจร ประจง กล่าวว่า ยอมรับกระทำความผิดจริงที่เสพกัญชาภายในที่พักกองพันทหารราบที่ 1 ยอมรับการลงโทษ แต่พฤติกรรมที่ถูกกระทำครั้งนี้รับไม่ได้ ถ้าอยู่ต่อไปอาจจะตายได้ ทั้งที่หลายคนเสพยาเสพติดยังไม่โดนขนาดนี้ เข้าคุกทหาร 15 วันกลับมาทำงานกันปกติ ถ้าตนเองไม่หนีออกมาจากค่าย คงโดนหนักกว่านี้แน่นอน ทั้งที่สารภาพหมดแล้ว
    ด้านนางปุญญิศา ศิริรักษ์ กล่าวว่า ลูกมารับใช้ชาติ แต่โดนทำโทษแบบนี้ กลัวมากว่าลูกจะถูกทำร้ายอีก มีข่าวออกมาว่า ตอนไป ยืนไป ตอนกลับ นอนมา ตอนนี้ลูกกลัวมาก ไม่อยากกลับเข้าค่ายอีกแล้ว การมาแจ้งความหรือร้องเรียนนั้น อยากได้การรับประกันว่า ช่วงเวลาที่เหลืออีก 8 เดือน จะปลดประจำการ จะต้องรอดปลอดภัย พร้อมจะพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ขอให้ลูกชายปลอดภัยก็พอใจแล้ว
    วันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีทหารเกณฑ์ สังกัดค่ายทหารใน จ.ชลบุรี เข้าร้องเรียนว่าถูกทหารครูฝึกและผู้ช่วยซ้อมจนได้รับบาดเจ็บ เหตุร่วมกันเสพกัญชา ว่า ได้รับทราบรายงานขั้นต้นในเรื่องดังกล่าวแล้วว่ามีการแอบสูบกัญชา มีการตรวจสอบพบว่าปัสสาวะมีสีม่วง ทางกองทัพบกต้องมีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่าจริงหรือไม่ ถ้ามีการทำโทษจะต้องทำโทษอย่างไร มากหรือน้อยเกินไปหรือไม่ ถ้าเป็นการลงโทษมากเกินไปอาจต้องลงโทษทางวินัย มีระเบียบชัดเจน ขอให้รอผลการตรวจสอบ ใครผิดก็ต้องรับโทษไป
    “ผมเองได้เตือนไปแล้วหลายครั้งว่า การลงโทษต่างๆ ต้องพิจารณาให้เกิดความเหมาะสม เป็นไปตามการลงโทษของวินัยทหารที่มีอยู่ 9 ข้อ ขอความร่วมมือน้องๆ ทหารนายสิบที่ใกล้ชิด ขอร้องว่าอย่าลงโทษในสิ่งที่ออกนอกกรอบวินัยทหาร เพราะจะทำให้เกิดปัญหาเช่นที่เกิดขึ้น ส่วนน้องๆ ที่ได้รับการลงโทษ ขอให้เข้าใจ ตัวเองอย่าไปสูบกัญชาหรือเล่นยาเสพติดเข้าไปอีก ต้องช่วยกันทั้ง 2 ฝ่าย หลายอย่างต้องแก้กัน 2 ทางเสมอ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว.