ปชป.ลุยเลือกผู้ว่า ‘แจ๊ด’ควง‘อดิศร’ โต้นโยบายเพ้อฝัน


เพิ่มเพื่อน    

 

ปชป.เล็งทั้งคนในและนอกพรรคลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ไม่ได้คิดแค่ชนะเลือกตั้งเท่านั้น เป้าหมายคือทำงานให้สำเร็จ ด้าน "บิ๊กแจ๊ด" ควง "อดิศร" รับทราบข้อกล่าวหานโยบายนายก อบจ.เพ้อฝัน หลอกลวงประชาชน
    เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ ได้เป็นประธานการประชุมอดีต ส.ส.กทม.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค เพื่อระดมความคิดเห็นต่างๆ สำหรับการจัดทำนโยบายเพื่อใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)
    นายองอาจให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การเลือกตั้ง ส.ก.นั้นพรรคประชาธิปัตย์มีอดีต ส.ก.อยู่แล้วครึ่งหนึ่ง จากทั้งหมด 50 เขต ซึ่งคนเหล่านี้ยังทำงานใกล้ชิดกับประชาชนมาตลอด และยังประสงค์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ก.อีกครั้งเพื่อทำงานช่วยเหลือประชาชน อีกส่วนพรรคได้เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจต้องการลงสมัครเป็น ส.ก.ผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเพิ่งปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในภาพรวมเป็นที่น่ายินดีว่ามีคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ให้ความสนใจจะมาทำงานการเมืองระดับท้องถิ่นจำนวนมาก ทั้งนี้จะนำรายชื่อทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการสรรหาผู้ที่มีความเหมาะสมในลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ก.ในเขตต่างๆ ต่อไป
    ผู้สื่อข่าวถามถึงการส่งบุคคลลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.  นายองอาจกล่าวว่า พรรคได้พูดคุยกับบุคคลที่สนใจจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งมีอยู่จำนวนหนึ่ง มีทั้งที่เป็นคนในพรรคและนอกพรรค ซึ่งล้วนแต่เป็นคนที่พร้อมทำงานรับใช้ชาวกรุงเทพฯ และเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งจะให้คนเหล่านี้ได้มาแนะนำตัวต่อไปในอนาคต ส่วนคนในพรรคที่มีชื่อออกมาเป็นข่าวนั้น สมาชิกพรรคมีสิทธิ์เสนอชื่อใครก็ได้ แต่เราจะนำทั้งคนที่เคยมีชื่อออกมาและที่ยังไม่เคยมีชื่อปรากฏเป็นข่าว รวมทั้งรายชื่อบุคคลภายนอกมาพิจารณาร่วมกันทั้งหมด ส่วนที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เสนอ 4 รายชื่อและมีชื่อตนด้วยนั้น ต้องไปถามนายเทพไทว่าเสนอจริงจังหรือไม่
    "การพิจารณาคนลงสมัครเราดูหลายอย่างผสมผสานกัน เพราะการบริหารราชการกรุงเทพฯ ต้องผสมผสานหลายอย่าง เพราะต้องทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานและหลายองค์กร โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการทำงานให้ประสบความสำเร็จ เราไม่ได้คิดแค่ชนะเลือกตั้งเท่านั้น แต่ต้องคิดด้วยว่าจะเข้ามาบริหารงาน กทม.อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ" นายองอาจกล่าว
    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ  ส.ก.ว่า พรรคได้เตรียมพร้อมมาตามลำดับ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาในฐานะหัวหน้าพรรคได้เชิญอดีต ส.ส.กทม.และบุคคลที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกันถึงนโยบาย เพื่อร่วมกันออกแบบการบริหารงาน กทม. เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พรรคก็จะประกาศรายชื่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเอง ส่วนที่คนในพรรคแสดงความจำนงลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.นั้น  เห็นว่าเป็นเรื่องดี เพราะคนในพรรคมีศักยภาพการทำงาน นอกจากนี้ยังมีบุคคลภายนอกที่สนใจลงสมัครในนามพรรคด้วย
    นายจุรินทร์กล่าวถึงการหาเสียงในพื้นที่ กทม.ซึ่งไม่มี ส.ส.ของพรรคจะทำให้ลำบากหรือไม่ว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยมี ส.ส.กทม. 1 คน แต่ต่อมาก็มีเพิ่มขึ้นตามลำดับ ดังนั้นไม่ใช่ไม่มีแล้วจะแปลว่าจะไม่มีเหมือนเดิม เชื่อว่าประชาธิปัตย์ในพื้นที่ กทม.จะฟื้นในอนาคต
    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี ถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ตำบลบ้านฉาง  อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์  ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี หมายเลข 2 ว่าที่นายก อบจ.ปทุมธานี พร้อมด้วยนายอดิศร เพียงเกษ  สมาชิกพรรคเพื่อไทยและผู้สมัครกลุ่มคนรักปทุม เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาว่าด้วยการกระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยมีประชาชนเดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ
    จากกรณีที่นายไพศาล กล่ำสนอง ผู้สมัคร ส.อบจ. เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองปทุมธานี เป็นตัวแทนกลุ่มปทุมรักไทย ไปยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานีและ ส.อบจ.ปทุมธานี ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 20  ธ.ค.63 โดยมีนายอมร รัชตังกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานีเป็นผู้รับเรื่อง คำร้องคัดค้านระบุว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง  ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี หมายเลข 2 และผู้สมัคร กลุ่มคนรักปทุม กระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น มาตรา 65 วรรคหนึ่ง (5) และวรรคสอง ในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 63 และนโยบายที่ใช้หาเสียงเลือกตั้งเป็นการหลอกลวงประชาชน อยู่นอกอำนาจหน้าที่ของ อบจ. และไม่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ซึ่งมีประเด็นที่กระทำผิดดังนี้
    (1) สนับสนุนให้ นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยหาเสียงให้ร้าย ใส่ความด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จว่า น้ำท่วมปทุมธานี ปี 2554 เกิดจากผู้ว่าฯ กทม.ปล่อยให้น้ำท่วมปทุมธานี เพราะนายก อบจ.ปทุมธานีในขณะนั้นไม่มีความสามารถ และยังปราศรัยว่าขณะที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี มีคดีทุจริตอยู่ในการสอบสวนของ ป.ป.ช. กว่าาสี่สิบคดี และหากินกับผู้รับเหมา และด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน
    (2) นโยบายในการหาเสียง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และกลุ่มคนรักปทุม เป็นนโยบายที่หลอกลวงประชาชน อยู่นอกอำนาจหน้าที่ของ อบจ. ไม่สามารถดำเนินการได้ เป็นนโยบายที่ใช้งบประมาณเกินกว่าอำนาจหน้าที่ อบจ.
    หลังจากเข้าพบคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดปทุมธานีแล้ว นายอดิศรเปิดเผยว่า แพ้เป็นพระ ชนะเป็นเจ้าอาวาส ทำตัวดีๆ อาจจะได้กลับเข้ามาอีก ตนไม่ได้ถือสาอะไร ตนถือว่าประชาธิปไตยก็เป็นแบบนี้ และขอแสดงความยินดีกับชาวปทุมธานีด้วย ถ้าตนอยู่ปทุมธานี ตนก็จะเลือกคำรณวิทย์เหมือนกัน
    ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ตาม 6 ข้อที่กล่าวหามานั้น ตนยังไม่รู้ว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของ อบจ. แล้ว อบจ.มีไว้ทำอะไร ทำอะไรได้บ้าง อย่างเช่นขยะในแม่น้ำลำคลอง  ปัญหารถติด การสร้างสนามกีฬาประจำจังหวัด เป็นต้น ซึ่งจริงๆ แล้วเขาไม่รู้เลยว่าทางเราได้เตรียมการ นโยบาย  และยุทธศาสตร์ในการวางแผนไว้นานแล้ว อย่างรัฐบาลเขาทำไมวางยุทธศาสตร์ไว้ 20 ปี นี่ผมไม่ได้วางไว้ 20 ปี ผมแค่ปีเดียว เราเข้าไปเราทำแน่นอน และจะเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในปีเดียว
    ขณะที่ น.ส.สุชัญญา วิมุกตายน ผู้อำนวยการ กกต.จ.ปทุมธานี กล่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้ขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งขยายเวลาเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานมาชี้แจ้ง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งก็ได้ขยายเวลาให้ เนื่องจากต้องเตรียมหลักฐานและเอกสารจำนวนมาก  โดยขยายให้จนถึงวันที่ 9 ก.พ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"