เป็นไปตามไทม์ไลน์ฝ่ายค้านที่นัดแนะกันไว้ว่า ในสัปดาห์สุดท้ายเดือนมกราคมจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อวันที่ 25 ม.ค. สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยหัวหน้าพรรค แกนนำ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก้าวไกล เสรีรวมไทย ประชาชาติ เพื่อชาติ พลังปวงชนไทย ตบเท้ายื่น 208 รายชื่อต่อชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร

            รายชื่อรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายทั้งหมด 10 คน ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ประเด็นที่ถูกอภิปราย การแก้ไขสถานการณ์ COVID-19 ล้มเหลว การปล่อยปละละเลยแรงงานข้ามชาติ-บ่อนการพนัน การเยียวยา COVID-19 ไม่มีประสิทธิภาพ 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ประเด็นการอภิปราย ปล่อยปละละเลยแรงงานข้ามชาติ 3.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ประเด็นการอภิปราย การต่อสัมปทานรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ

            4.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ประเด็นการอภิปราย มาตรการแก้ไขปัญหา COVID-19 ปมข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีน COVID-19 5.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ประเด็นการอภิปราย ปมข้อสงสัยการจัดหาหน้ากากอนามัยและถุงมือยาง 6.นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ประเด็นการอภิปราย คดียื้อการชำระค่ารถอเนกประสงค์ สมัยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ประเด็นคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 

            7.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ประเด็นการอภิปราย การปล่อยปละละเลยแรงงานข้ามชาติจน COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ 8.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ประเด็นการอภิปราย การปล่อยปละให้มีการคุกคาม ดำเนินคดีนักเรียนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง การบริหารจัดการการเรียนออนไลน์ช่วงการระบาด COVID-19 9.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ประเด็นที่คาดว่าน่าจะถูกอภิปราย ประเด็นสัมปทานรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว 10.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ประเด็นการอภิปราย มาตรการการแปรที่ดิน ส.ป.ก.

            เข้าสู่โหมดซักฟอกคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ซีกพรรคฝ่ายค้าน ผู้อภิปรายต้องเตรียมข้อมูล หลักฐานเด็ด น็อกผู้ถูกอภิปรายให้ดิ้นไม่หลุด ตายคาเวทีสภา แม้จำนวนเสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่สามารถโหวตล้มรัฐบาลได้ แต่ถ้าหากข้อมูลลึก เรียบเรียงนำเสนอดี ไม่ใช่การตัดแปะ ข่าวเก่านำมาเล่าใหม่ เชื่อได้ว่าจะเป็นตัวเร่งเร้าเสถียรภาพรัฐบาลที่กำลังง่อนแง่นให้พังพาบได้เร็วขึ้นก็เป็นได้ 

            ขณะที่รัฐมนตรีผู้ถูกอภิปราย ตามหน้าเสื่อดูเหมือนเสียเปรียบ ประเด็นข้อกล่าวหาล้วนรุนแรง เป็นไปในทิศทางเดียวกันว่ารัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกบริหารงานราชการแผ่นดินล้มเหลว บกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เอื้อพวกพ้อง มีพฤติการณ์ฉ้อฉล ทุจริต ฯลฯ 

            หากผู้ถูกอภิปรายเตรียมข้อมูลชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาด้วยเหตุและผล อธิบายได้ตรงตามประเด็น ไม่ตีรวน ไม่ใช้พวกมากลากไป ก่อกวนในสภาเพื่อเบี่ยงประเด็น 

            จากบทผู้ร้ายอาจพลิกบทบาทกลับมายืนอีกฝั่งก็เป็นได้ เมื่อฟังน้ำเสียงรัฐมนตรีถูกอภิปราย โดยเฉพาะเป้าหลักของฝ่ายค้านอย่างบิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร ไม่ได้แสดงท่าทีหวั่นวิตกสักเท่าไหร่ 

            แต่กลายเป็นว่าปมประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมฝ่ายค้านถูกจับจ้องตั้งแต่ยังไม่ยื่นญัตติ ยังไม่ได้อภิปราย ที่กระแสข่าวทางลบออกมาไม่สู้ดีนัก ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งในการเตรียมเนื้อหา ข้อมูล จัดทีมอภิปราย

            การจำกัดวงการรับรู้ข้อมูล ป้องกันข้อสอบรั่ว ไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยที่ทำให้เพื่อไทยเสียรังวัดไปพอสมควรจากการอภิปรายเมื่อปีที่แล้ว ถูกข้อครหา ‘มวยล้ม-ซูเอี๋ย’ 

            ไปจนถึงรายการคุณขอมา แม้จะเลี่ยงรัฐมนตรีบางคนไม่ให้ถูกอภิปรายไม่ได้ แต่ก็ขออภิปรายเป็นพิธี และไม่ส่งคนของตัวเองไปร่วม ซักฟอกเด็ดขาด

            แว่วเสียงคนในเพื่อไทยแนะให้ตามติด จับโฟกัสบิ๊กแกนนำพรรคเพื่อไทย ทั้งที่เป็น ส.ส.และไม่ได้เป็น ส.ส. โบกมือขอบายไม่ขอเข้าร่วมสังฆกรรม ทั้งวงประชุมเตรียมความพร้อม การติวเข้ม ประสานทีมงาน อาศัยคอนเน็กชันเก่าๆ ดึงข้อมูลเชิงลึกให้ ส.ส.ที่จะอภิปราย อันเนื่องจาก ‘ผิดหวังมาจากการอภิปรายรอบที่แล้ว’

            ขณะที่ ส.ส.เพื่อไทยบางคนเคลือบแคลงทีมอภิปรายที่เลือกเฟ้นเนื้อหาเพียงบางส่วน แต่กลับเพิกเฉยเนื้อหาสำคัญอีกส่วน จับจังหวะ สัญญาณผิดปกติ ผิดวิสัย นักอภิปรายที่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เข้มข้น ไม่มีละเว้น 

            ในวงประชุม ส.ส.เพื่อไทย มีการพูดกลางที่ประชุม ส่งสัญญาณไปถึงนักอภิปรายบางคนเอาไว้ล่วงหน้า ‘การอภิปรายครั้งนี้อย่าทำเพียงแค่ตีปลาหน้าไซ’ ทำให้นักอภิปรายชื่อดังสะดุ้งเฮือกเลยทีเดียว

            แม้จะมีรอยร้าว การกระทบกระทั่งกันเล็กๆ แต่ด้วยมารยาททางการเมืองจะไม่ออกมาเล่นงานพรรคพวกกันเอง เพราะอย่างน้อยยังอยู่พรรคเดียวกัน ขอให้การซักฟอกในสภาผ่านพ้นแล้วค่อยเปิดเวทีซักฟอกนอกสภาโดยไม่ต้องเกรงใจใคร...ดีกว่า.