สำนักงานตำรวจแห่งชาติทุ่มงบ 36 ล้านบาท ติดกล้องวงจรปิด 9,138 ตัว เสริมเขี้ยวเล็บป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทั่วกรุง ประเดิมติดชุดแรกแล้ว 2,500 ตัว เน้นจุดบอด-จุดเสี่ยงเป็นหลัก 
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 25 ม.ค. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดอบรมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยใช้ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
    พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวว่า ขณะนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลกำลังเร่งดำเนินการโครงการกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV โดยเฟส 1 เสร็จสิ้นแล้ว ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิด 2,500 ตัว ใน 3 พื้นที่นำร่อง ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 1, 5 และ 6 ดังนั้นจึงต้องมีการอบรมตำรวจฝ่ายสืบสวนให้รับรู้ประสิทธิภาพของกล้อง วิธีการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรม
    พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวว่า กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งนี้จะเป็นส่วนเสริมกล้องวงจรปิดที่อยู่เดิม และเสริมจุดที่เป็นจุดบอด หรือรอยต่อพื้นที่ โดยตัวกล้องสามารถส่งภาพมาที่สถานีตำรวจและโทรศัพท์มือถือของตำรวจฝ่ายสืบสวนแต่ละสถานีตำรวจได้ทันที โดยตำรวจแต่ละคนจะรับผิดชอบตรวจสอบกล้องวงจรปิด 8-10 ตัว เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยในพื้นที่ และสภาพตัวกล้องได้ตลอดเวลา และตัวกล้องยังสามารถบันทึกภาพได้ 20 วัน 
    "ภายในเดือนมีนาคม 2564 เราจะสามารถติดตั้งกล้องได้ครบ 9,138 ตัว ตามเป้าหมายของโครงการ" รอง ผบช.น.กล่าว
    ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยใช้ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการใช้งบประมาณกว่า 36 ล้านบาท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน 
    "การเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดนี้ยังสามารถขยายเก็บข้อมูลยังระบบคลาวด์ได้ และในอนาคตจะขยายโครงการไปยังตามหัวเมืองใหญ่ในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าว.