ตำรวจ ปส.บุกจับ "ลูแปงไต้หวัน" ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่คาคอนโดฯ หรูย่านอโศก ยึดยาเสพติดพร้อมอุปกรณ์จำนวนมาก สารภาพเป็นต้นตำรับผสมสูตรยานรก "เคนมผง" อ้างผู้เสพนำไปเสพผิดวิธีจึงเสียชีวิต "ผบ.ตร." สั่งขยายผลถึงเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) เข้าสอบปากคำ นายโช วาย เชิน ผู้ต้องหาชาวไต้หวัน ฉายา “ลูแปงไต้หวัน” หลังตำรวจปราบปรามยาเสพติดสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับของประเทศไต้หวัน คดียาเสพติดหลายคดี โดยใช้ชื่อปลอม และหนังสือเดินทางหลายสัญชาติ หลบมาอาศัยที่คอนโดย่านอโศก กทม. จึงเข้าจับกุมไว้ได้
พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า หลังตำรวจสืบทราบว่ามีตัวการใหญ่จำหน่ายยาเคนมผง จึงสืบสวนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาชาวไต้หวัน อายุ 38 ปี ได้ที่ห้องพักพร้อมยึดยาเสพติดประเภทต่างๆ นอกจากนี้ยังขยายผลตรวจค้นที่พักของผู้ต้องหารายนี้ 3 แห่ง ทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ ห้องพักย่านสุขุมวิท 50 และห้องพักย่านอโศก "จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเพื่อจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งมีการผสมสูตรเป็นของตัวเอง ด้วยการนำยาเสพติดหลายประเภทมาผสมกัน พร้อมอ้างว่าผู้เสพนำไปเสพผิดวิธี จึงอาจส่งผลให้ถึงแก่ชีวิต เบื้องต้นยังพบประวัติผู้ต้องหาเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่ปี 2555 โดยเชื่อว่าเข้าไทยอย่างไม่ถูกต้องและอยู่เมืองไทยมาตลอด" พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาดำเนินการเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตาม จะประสานไปยังตำรวจไต้หวันเพื่อขยายผลถึงเครือข่าย พร้อมหาความเชื่อมโยงถึงกลุ่มผู้ค้ารายย่อยและลูกค้า หลังพบว่าผู้ต้องหากระจายยาเสพติดส่วนหนึ่งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และจำหน่ายตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เชื่อว่ามีบางส่วนถูกส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ โดยหลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาพบคีตามีนกว่า 2 กิโลกรัม, เฮโรอีน ประมาณ 8 กิโลกรัม, ไอซ์ 2 กิโลกรัม, ยาอี 379 เม็ด, โคเคน น้ำหนักกว่า 11 กรัม, LSD หรือแสตมป์มรณะ 48 แผ่น, ยานอนหลับกว่า 200 เม็ด พร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ผสมสารเสพติดเป็นเคนมผง และอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เครื่องกระสุนปืน จำนวน 8 นัด ที่อยู่ภายในห้อง ซึ่งขณะเข้าจับกุม ตำรวจพบผู้ต้องหากำลังผสมยาเคนมผงเตรียมจำหน่ายให้กับเอเยนต์ค้ายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีผู้เสียชีวิตจากการเสพเคนมผงในพื้นที่อื่นๆ ของกรุงเทพมหานครก่อนหน้านี้หรือไม่
ด้าน พล.ต.ท.ชินภัทรกล่าวว่า ข้อมูลของผู้ต้องหาพบเคยทำและเคยผลิตยาเสพติดส่งออกต่างประเทศมาก่อนหน้านี้ แล้วมีพฤติการณ์หลบหนีเจ้าหน้าที่อยู่เรื่อยมา กระทั่งมาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ติดตามแกะรอยมาตลอด ไม่ใช่เพราะมีประเด็นเรื่องยาเคนมผงเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยทราบอีกว่าผู้ต้องหามีการผสมยาเคนมผงหลายสูตรเพื่อส่งจำหน่ายขายทั่วไป
ขณะที่ พล.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า หลังจากนี้จะขยายผลจากผู้ต้องหา 2 ส่วน คือ แหล่งที่มาของยาเสพติด โดยจะตรวจสอบว่ามาจากที่ไหน และสูตรยาเคนมผงผู้ต้องหาได้ส่งให้ใครและเครือข่ายใดบ้าง โดยจะประสานกับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจเข้มข้นว่ามีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องหรือไม่
"กรณีที่มีการจับกุมผู้ต้องหาในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้การจับกุมนั้นถือเป็นผู้ค้ารายย่อย หากสืบทราบมีความเชื่อมโยงก็จะเร่งดำเนินการทันที" ผบช.ปส.กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |