25 ม.ค.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่นางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี พร้อมด้วยนางลัดดาวรรณ โล่ห์สุวรรณ อายุ 66 ปี ลูกสาวชาวตำบลเจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากเจ้าหน้าที่ อบต. ได้มาแจ้งว่ามีหนังสือจากกรมบัญชีกลางมาทวงเงินเบี้ยผู้สูงอายุ ที่จ่ายให้กับนางบวน ผู้เป็นแม่ย้อนหลังเป็นเวลา 10 ปีคืนเป็นเงิน 84,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยด้วยเพราะเป็นการจ่ายซ้ำซ้อนเนื่องจากยายบวนได้รับเงินบำนาญพิเศษกรณีที่เป็นทายาทของ จ.ส.อ.จักราวุทธ โล่ห์สุวรรณ ลูกชาย ซึ่งเป็นทหารสังกัด มทบ.21 นครราชสีมา เดือนละ 5,000 บาท หลังจากลูกชายเสียชีวิตจากเหตุการณ์คลังแสงระเบิดที่โคราช เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2544 และได้รับเงินบำนาญเพิ่มเป็น 10,000 บาท เมื่อกลางปี 2562 ซึ่งก็สร้างความตกใจให้ยายบวน เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าหากได้รับเงินบำนาญของลูกชายที่เสียชีวิตแล้ว จะไม่มีสิทธิรับเบี้ยผู้สูงอายุ และหากเป็นการจ่ายซ้ำซ้อนทำไมถึงปล่อยให้ล่วงเลยมาจนถึง 10 ปี แล้วเพิ่งจะมาทวงถาม ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนจึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
กระทั่งเมื่อวานนี้ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 พร้อมด้วยผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ นายก อบต.เจริญสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมให้กำลังใจคุณยายบวน พร้อมทั้งหารือแนวทางในการช่วยเหลือยาย โดยจากการพูดคุยก็ได้เสนอให้คุณยาย และครอบครัวสามารถผ่อนชำระได้ ตามระเบียบที่กำหนดไว้คือ หากผ่อนชำระภายใน 1 ปี จะไม่มีดอกเบี้ย แต่ถ้าเกิน 1 ปี ตามระเบียบก็กำหนดไว้จะต้องคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
ล่าสุด คุณยายบวน และลูกหลานได้ปรึกษาหารือกันแล้วตกลงว่า จะหาเงินมาชำระเบี้ยคนชราย้อนหลังคืนตามระเบียบทั้ง 84,400 บาท โดยเลือกแบบไม่มีดอกเบี้ย แต่ทางครอบครัวก็ได้แจ้งทาง อบต.ว่าขอยืดระยะเวลาจาก 1 ปี หรือ 12 เดือน เป็น 20 เดือน เพื่อขอเวลาหาเงินและส่วนหนึ่งก็ต้องแบ่งจากเงินบำนาญพิเศษกรณีลูกเสียชีวิตที่ยายได้รับล่าสุดเป็นเดือนละ 10,000 บาท มารวมกันเพื่อชำระในแต่ละเดือน ซึ่งตอนนี้ก็รอคำตอบจากทาง อบต. ว่าจะสามารถยืดระเวลาจาก 12 เดือน เป็น 20 เดือนได้หรือไม่ แต่หากตามระเบียบไม่สามารถทำได้ทางลูกหลานก็จะพยายามหาเงินมาจ่ายคืนให้ครบทุกบาทตามระเบียบ เพราะทางครอบครัวเข้าใจว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินหลวง
นางลัดดาวรรณ ลูกสาวยายบวน บอกว่าหลังจากพูดคุยกันแล้วทั้งแม่และลูกหลานก็จะพยายามหาเงินไปชำระเบี้ยผู้สูงอายุคืนให้ครบทั้งหมด ขณะนี้ก็รอคำตอบจากทาง อบต.ว่าจะสามารถยืดระยะเวลาการชำระแบบไม่มีดอกเบี้ยจาก 12 เดือน เป็น 20 เดือนได้หรือไม่ ยอมรับว่าทั้งแม่และครอบครัวรู้สึกเครียดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าทางครอบครัวจะไม่เปิดบัญชีรับบริจาคเพราะไม่อยากให้เกิดกระแสดราม่า แต่หากใครอยากจะช่วยเหลือก็ให้มาพูดคุยกับคุณแม่หรือลูกหลานที่บ้านด้วยตัวเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ไม่อยากจะโทษใครอาจจะด้วยความไม่รู้หรือการสื่อสารไม่เข้าใจ ก็ไม่อยากให้เรื่องบานปลายเพราะห่วงสภาพจิตใจของแม่เพราะอายุมากแล้ว แค่นี้ก็เครียดมากพอแล้ว ก็ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือคุณแม่
ขณะที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ลงพื้นที่สอบถามรายละเอียดคุณยายที่บ้าน พร้อมทั้งจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือคุณยายในอีกทางหนึ่งด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |