ตำรวจไซเบอร์จับแม่ค้าคุกกี้ผันตัวขายกัญชาแปรรูปออนไลน์ หัวใสผิดทางศึกษาจากยูทูบทำสูตรช็อกโกแลตเจาะกลุ่มวัยรุ่น ลักลอบขายกว่า 1 ปี ฟันรายได้เดือนละแสนบาท
    ที่ สน.บางนา เมื่อวันที่ 24 มกราคม พล.ต.ท.กรไชย  คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พล.ต.ต.ชูฉัตร  ธารีฉัตร พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ พล.ต.ต.มนเทียร  พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.สอท.2 ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ลักลอบค้าดอกกัญชาแปรรูปผ่านแอปพลิเคชันไลน์และเห็ดเมามูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
    พล.ต.ท.กรไชย เผยว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า มีการลักลอบขายกัญชาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ในกลุ่มที่มีชื่อว่า “The hippy cookie” ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ม.ค.64 เวลาประมาณ 20.00 น. จึงได้ให้สายลับแฝงตัวเข้าไปเพื่อทำการล่อซื้อ โดยได้สั่งซื้อกัญชา 5 กรัม จากผู้ต้องหาในราคา 3,500 บาท จากนั้นผู้ต้องหาจึงส่งของโดยใช้บริการจากแกร็บ (Grab) เจ้าหน้าที่จึงได้ออกอุบายให้พนักงานนำสิ่งของไปส่งคืน กระทั่งผู้ต้องหาที่ 1 ลงมารับของ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบกัญชาที่สายลับสั่งจากผู้ต้องหา สอบถามให้การรับว่ากัญชาดังกล่าวเป็นของตนเองกับพวกจริง จากนั้นได้ยินยอมให้พาไปตรวจค้นยังห้องพัก เมื่อไปถึงพบผู้ต้องหาที่ 2 และผู้ต้องหาที่ 3 อยู่ภายในห้องดังกล่าว
    จากการตรวจค้นพบของกลางกัญชาซึ่งบรรจุอยู่ในภาชนะแบบต่างๆ รวม 46 รายการ ทั้งในรูปแบบของการแปรรูปชนิดต่างๆ เช่น รูปแบบของช็อกโกแลต เพื่อให้เข้าถึงวัยรุ่น หรือเยาวชน น้ำหนักรวมภาชนะ 10.01 กิโลกรัม และเห็ดเมา 3 รายการ น้ำหนักรวม 60 กรัม ผู้ต้องหาทั้งสามรับว่าเป็นกัญชาและเห็ดเมาของพวกตนที่มีไว้เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าวข้างต้น
    สอบสวนผู้ต้องหาหญิงรายหนึ่งเผยว่า เคยเป็นแม่ค้าขายคุกกี้และมีความชื่นชอบเรื่องกัญชา จึงศึกษาวิธีการจากยูทูบ จากนั้นได้ติดต่อผู้ค้าดอกกัญชามาจากผู้ผลิตในไทย นำวัตถุดิบมาทดลองทำสูตรด้วยตนเอง ก่อนชวนแฟนหนุ่มและเพื่อนสาวมาทำงานร่วมกัน โดยตนทำหน้าที่เป็นแอดมิน เพื่อนเป็นคนทำส่วนผสม ส่วนแฟนหนุ่มทำหน้าที่นำของไปส่ง โดยมีต้นทุน 6-7 แสนบาท หากขายหมดล็อต จะขายได้ประมาณ 1.2 ล้านบาท
    โดยจะขายให้กับกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อผ่านกลุ่มไลน์ที่ตั้งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักศึกษาหรือกลุ่มวัยรุ่น มีลูกค้าประจำกว่า 100 ราย และทำมานานกว่า 1 ปีแล้ว มีรายได้เดือนละประมาณ 1 เสนบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.