24 ม.ค.64- จากกรณีเมื่อช่วงกลางดึกได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 20-30 คน บุกไปหาคู่อริวัย 15 ปี ที่บ้านเลขที่ 9/3 หมู่ 2 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งอยู่ใกล้กับถนนสายชุมพร-ปะทิว แต่ไม่พบตัวจึงได้ใช้ก้อนหินทุบกระจกหน้าบ้านจนแตก พร้อมส่งคลิปเสียงข่มขู่จะกลับมาอีกก่อนยกพวกกลับไป โดยน.ส.รัชนี แท่นอินทร์ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า  คนร้ายกลุ่มดังกล่าวใช้ทุบหน้าต่างทั้ง 2 บาน จนกระจกแตกเสียหายเพื่อจะเข้าไปหาลูกชายของตนเองภายในบ้าน แต่ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากติดกรงเหล็กดัด ก่อนจะตะโกนข่มขู่แล้วพากันออกไป
 
น.ส.รัชนี กล่าวว่า  เมื่อตนเองสอบถามสาเหตุทราบเพียงว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นคู่อริที่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน โดยวัยรุ่นกลุ่มนี้มีบ้านอยู่ใน อ.เมืองชุมพร และ อ.ท่าแซะ และหลังจากก่อเหตุไม่นานหัวโจกวัยรุ่นแก๊งนี้ได้ส่งคลิปเสียงให้เพื่อนของน้องมีน ลูกชายตนเอง ผ่านทางเฟซบุ๊กในลักษณะข่มขู่ว่า  กูเอาจริงมึงเห็นแล้วยังกูบุกมาถึงบ้านและจะกลับมาหาอีกมึงจะเอาสักกี่กระบอก พร้อมกับบอกว่าอย่าได้คิดสู้ถ้าพวกมึงมีปืนไม่ถึก 5 กระบอก ต้องตายเหมือนลูกหมาแน่  ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจเหิมเกริมบุกเข้ามาข่มขู่จะทำร้ายและทำลายทรัพย์สินในยามวิกาล ทำให้ตนเองและญาติพี่น้อง ชาวบ้านหวาดกลัวอย่างมาก ช่วงเกิดเหตุตนเองโทรแจ้ง 191 ได้ส่งตำรวจมาตรวจสอบ และเมื่อตอนสายที่ผ่านมาตนเองได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ปะทิว ข้อหาบุกรุกยามวิกาลและทำให้เสียทรัพย์ จึงอยากให้ตำรวจตามจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็วเพราะกลัวว่าจะย้อนกลับมาอีก
 
อย่างไรก็ตาม พบว่าในจุดที่ห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร  ซึ่งเป็นบ้านเช่าของน.ส.อนุชิตา สุภารัตน์ อายุ 48 ปี ผู้เป็นป้าของ น้องนีม อายุ 15 ปี  ที่ถูกแก๊งวัยรุ่นตามไล่ล่าตัว พบว่าที่บานกระจกทึบดำประตูหน้าบ้านถูกทุบจนแตกเป็นวงกว้างราว 1 ฟุต และกระเบี้ยงหลังคาแตก 1 แผ่น ภายในบ้านมีเศษกระจกเศษกระเบื้อง และก้อนหินขนาดใหญ่กว่ากำปั้นที่คนร้ายใช้ขว้างปาตกอยู่ 2 ก้อน โดย น.ส.อนุชิตา ระบุด้วยว่า กลุ่มวัยรุ่นได้ตะโกนเรียกให้เปิดประตูบางคนเดินเข้ามาเขย่าประตูด้วยแต่เปิดไม่ได้ และตะโกนเรียกไอ้นีมๆ  เมื่อตนเองมองผ่านกระจกประตูหน้าบ้านก็เห็นวัยรุ่นจำนวนมากและบางคนถือไม้และถือมีดด้าวยาวๆซึ่งตอนนั้นในบ้านตนเองนอนอยู่ด้วยกัน 4 คน  มีสามีกับลูกชายและลูกสะใภ้ 2 คน จึงพากันไปหลบซ่อนหลังบ้าน จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงกระจกหน้าบ้านแตกและหลังคากระเบื้องแตกพร้อมกับก้อนหินหล่นลงมาภายในบ้าน

น.ส.อนุชิตา กล่าวด้วยว่า  โดยกลุ่มวัยรุ่นได้ส่งเสียงตะโกนด่าด้วยคำหยาบคายและให้ของลับต่างๆนาๆ ไม่นานทั้งหมดพากันขับรถเข้าไปทางตัวเมืองชุมพร  ตอนนี้ได้แจ้งความดำเนนคดีไว้เรียบร้อยแล้ว แต่พวกตนเองยังหวาดกลัวมากเพราะพฤติกรรมวัยรุ่นแก๊งนี้อุกอาจเหิมเกริม ถึงแม้หลานตนเองจะไปมีเรื่องกันตามประสาวัยรุ่นแต่ก็ไม่น่าจะมาบุกรุกถึงบ้านและทำลายทรัพย์สินในยามวิกาลแบบนี้.