24 ม.ค. 2564 นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) โพสต์เฟซบุ๊ก Somchai Jitsuchon แสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นเรื่องจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยระบุดังนี้
ช่วงนี้มีการตั้งประเด็นมากมายเรื่องความเหมาะสมหรือความโปร่งใสในนโยบายการจัดหาวัคซีนของประเทศไทย ขออนุญาตให้ความเห็นในฐานะที่ใกล้ชิดระดับหนึ่งกับกระบวนการนี้ในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา
1. มีความพยายามมาตั้งแต่แรกในการพิจารณาทางเลือกต่างๆไม่ว่าจะเป็นซื้อวัคซีนจากใคร ซื้อเมื่อไหร่ ซื้อเท่าไหร่ หรือกระทั่งทางเลือกในการผลิตวัคซีนเองในประเทศ แต่ละทางเลือกมีการพิจารณาข้อดีข้อเสียอย่างค่อนข้างถี่ถ้วน ระมัดระวัง โดยคำนึงถึงบริบทในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการผลิต ระดับการระบาดและรูปแบบการระบาด
2. นำไปสู่การกำหนดยุทธศาสตร์คู่ขนาน คือยุทธศาสตร์ส่งเสริมการพัฒนาวัคซีนและผลิตเองในประเทศ และยุทธศาสตร์การจัดหาวัคซีนจากต่างประเทศ
3. ในยุทธศาสตร์การจัดหาวัคซีนจากต่างประเทศ มีการติดต่อเจรจากับหลายราย หลายประเทศ ตั้งแต่ตอนที่บริษัทเหล่านั้นยังอยู่ในขั้นการทดลอง
4. หากเราจะตัดสินใจสั่งจองวัคซีนจากบริษัทที่อยู่ในระหว่างการทดลองก็สามารถทำได้ แม้จะต้องฝ่าด่านกฎระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐซึ่งทำให้ปวดหัวอยู่หลายเดือน แต่ถ้าจองเลยก็จะมีความเสี่ยงว่าเงินที่จองอาจจะสูญเปล่าถ้าวัคซีนนั้นไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะที่การระบาดของประเทศไทยไม่ได้รุนแรงไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตอย่างขนานใหญ่เช่นในหลายประเทศ ความจำเป็นที่จะต้องได้วัคซีนมาโดยเร็วและใช้อย่างฉุกเฉินจึงน้อยกว่าประเทศเหล่านั้นมาก ในขณะที่หากรอต่อไปก็จะสามารถติดตามพัฒนาการว่าวัคซีนว่ามีประสิทธิผล มีความปลอดภัยเท่าไหร่ โดยให้ประเทศที่สั่งซื้อมาฉีดก่อนตามความจำเป็นของเขาเป็นหนูทดลองให้ก่อน
5. ข้อเสียของการไม่จองเร็วคือทำให้เราต้องจ่ายค่าวัคซีนแพงขึ้น เพราะแน่นอนถ้าเราจองเร็วบริษัทที่ได้เงินจากเราก็พร้อมจะคิดราคาถูกกว่าเพราะเราไปช่วยรับความเสี่ยงที่การทดลองอาจจะล้มเหลวพร้อมกับเขาด้วย
6. อีกประการที่ราคาวัคซีนที่เราจ่ายในที่สุดแพงกว่าหลายประเทศที่เขาจองเร็ว เพราะราคาวัตถุดิบในระยะหลังแพงกว่าในตอนแรกมาก เพราะมีการกว้านซื้อจากบริษัทผลิตวัคซีนเพื่อนำไปผลิตจำนวนมากในระยะหลัง
7. แต่ยังโชคดีที่บริษัทที่เราตัดสินจองเป็นจำนวนมากที่สุดคือจาก astrazeneca มีราคาวัคซีนที่ถูกกว่าบริษัทก่อนหน้าหรือกระทั่งจากจีนหลายเท่าตัว ดังนั้นถึงแม้เราจะจ่ายค่าวัคซีนจากบริษัทนี้แพงกว่าประเทศที่จองก่อนหน้าเรา แต่ก็ไม่เป็นภาระงบประมาณมากนัก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับผลดีของความรอบคอบในการดำเนินการที่ผ่านมา ผู้วิจารณ์ประเด็นเรื่องเราจ่ายแพงกว่าจึงต้องคำนึงถึงเหตุผลเบื้องหลังเหล่านี้ให้ครบถ้วน
8. ส่วนเรื่องการคัดเลือกโรงงานผลิตให้กับบริษัท astrazeneca ผมไม่รู้มากนัก แต่เท่าที่สัมผัสได้ไม่มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าเป็นการให้อภิสิทธิ์กับเอกชนรายเดียว การรีบโยงกับการเมืองจึงน่าจะเป็นการด่วนสรุป เพราะก็สามารถอธิบายจากหลากหลายแง่มุมว่าทำไมถึงเป็นบริษัทนี้
9. ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการพัฒนาและการผลิตในประเทศก็ยังคงดำเนินการต่อไป มีองค์กรภาครัฐและเอกชนในประเทศหลายแหล่งที่ได้รับการส่งเสริมงบประมาณ เรื่องนี้จะมีประโยชน์ทั้งในระยะกลางและระยะยาว ไม่ว่าเราจะผลิตวัคซีนโควิดได้ในที่สุดหรือไม่ก็ตาม เพราะอย่างน้อยก็เป็นการสร้างศักยภาพในการพัฒนาวัคซีนในอนาคตซึ่งยังไม่แน่นอนสูง
24.1.64
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |