สงครามน้ำลายก่อนซักฟอก ขึ้นเขียงแน่ 11 ราย "บิ๊กตู่" โดนข้อหาแก้โควิดล้มเหลว "พิธา" โวมีคู่เด็ดๆ ทุกวัน และมีภาคสองต่อจากภาคแรก ไม่ให้น่าเบื่อ รัฐมนตรีเรียงหน้าท้าชน "นิพนธ์" ไม่หนักใจ เชื่้อโดนเรื่องนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เพราะ "ทอน" ลงไปเก็บข้อมูลหลายรอบแล้ว "สุชาติ" ชิลๆ แต่ถ้าชกใต้เข็มขัดก็ตัวใครตัวมัน
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2564 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า จะให้ประธานวิปของทุกพรรคฝ่ายค้านเป็นผู้บริหาร โดยครั้งที่แล้วไปจำกัดเรื่องของนาที ทั้งนี้ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ไปพูดในที่ประชุมวิปฝ่ายค้านถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในปี 2563 ที่มีการอภิปรายนอกสภา ซึ่งในปีนี้ก็ขอให้ไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์ในปีที่แล้วก็เกิดขึ้นเพิ่งสดๆ ร้อนๆ
"บอกได้ว่ามีคู่เด็ดๆ ทุกวัน และมีภาคสองต่อจากภาคแรก ซึ่งจะไม่ให้น่าเบื่อ ไม่ให้น้ำท่วมทุ่ง เพราะถ้าหากใช้เวลานานก็จะไม่น่าสนใจ และจะพยายามจัดคู่เด็ดที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนเยอะๆ" นายพิธากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 11 คน ต่อประธานสภาฯ วันที่ 25 ม.ค. เบื้องต้นมี 11 รายชื่อ โดยจะยื่นอภิปรายประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในประเด็นการบริหารงานภาพรวมเกี่ยวกับการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ที่ล้มเหลว ปล่อยให้มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาแพร่เชื้อรอบสอง รวมถึงการปล่อยให้มีบ่อนการพนันในหลายพื้นที่ และมาตรการเยียวยาที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่รับผิดชอบดูแลกระทรวงแรงงาน จะถูกอภิปรายประเด็นแรงงานเถื่อนผิดกฎหมาย, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ จะถูกอภิปรายเกี่ยวกับการจัดหาหน้ากากและถุงมือยางแก้ไขปัญหาโควิดที่มีกระแสข่าวการทุจริตเกิดขึ้น, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เกี่ยวกับการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวและโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ที่ต่อเนื่องมาจากการอภิปรายครั้งที่แล้ว, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ประเด็นรถไฟฟ้า, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ประเด็นการปล่อยให้มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาแพร่เชื้อโควิด 19 รอบที่ 2, นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ประเด็นเรื่องคุณสมบัติ เนื่องจากมีคดีค้างเก่ามาจากสมัยเป็นนายก อบจ. สงขลา และการพัฒนาพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ให้เป็นเมืองต้นแบบ
25 ม.ค.ยื่นซักฟอกแน่
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาฯ ประเด็นการศึกษาออนไลน์, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ประเด็นการให้ใช้พื้นที่ ส.ป.ก. และนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประเด็นเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผลได้รับผลกระทบจากโควิด โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านจะรวมตัวไปยื่นญัตติต่อประธานสภาฯ ในวันที่ 25 ม.ค. เวลา 09.00 น.
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า หากมีตนอยู่ในบัญชีรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายจริงตามที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์สื่อนั้น ไม่มีความหนักใจหรือวิตกกังวล พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงทุกประเด็น โดยเฉพาะในประเด็นที่คนบางกลุ่มใช้ความพยายามบิดเบือนข้อมูล ออกมาโจมตีโดยผ่านสื่อเพื่อหวังผลทางการเมือง
“ผมจะได้ใช้เวทีของรัฐสภาชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชน จะได้รับรู้ข้อมูลครอบคลุมทุกมิติว่าข้อมูลฝ่ายใดเท็จ ข้อมูลฝ่ายใดจริง แล้วให้ประชาชนส่วนใหญ่ของสังคมเป็นผู้ตัดสิน แล้วทุกอย่างจบ เพื่อจะได้เอาเวลาไปทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติต่อ”
นายนิพนธ์เปิดเผยว่า หากเอาเรื่องเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ จ.สงขลามาอภิปราย เนื่องจากมีคนบางกลุ่มที่คัดค้านได้พยายามผูกตนโยงกับโครงการ ในฐานะตนในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะกรรมการบริหารเขตพื้นที่พัฒนาเฉพาะกิจเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน อ.จะนะ “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” และเกิดใน อ.จะนะ และมีฝ่ายค้านบางคนลงมารับข้อมูลจากกลุ่มต้านโครงการ
“ที่ผ่านมาทราบว่านายธนาธรและ ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายคนได้ลงพื้นที่มาเก็บข้อมูลในพื้นที่หลายครั้งหลายคนแล้ว" นายนิพนธ์กล่าว
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า การที่มีชื่อตน อาจเป็นเพราะว่าช่วงที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 2 พอดี ทำให้ฝ่ายค้านหยิบมาเล่น ซึ่งเป็นประเด็นเดียวที่ฝ่ายค้านจะหยิบมาเล่นรัฐบาลได้ แต่แท้จริงแล้วเป็นการระบาดไปทั่วโลก การที่ประเทศไหนมีการแพร่ระบาด ก็ต้องโดนฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ ใครเป็นรัฐบาลโดนกันหมด และถึงฝ่ายค้านจะมาเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำให้โรคระบาดหายได้ มันก็ต้องพูดด้วยหลักความจริง
เรื่องส่วนตัวตัวใครตัวมัน
"เป็นเรื่องของปกติของฝ่ายค้านที่จะต้องกล่าวหามา เราเองก็ตอบในฐานะฝ่ายรัฐบาล ตอบในฐานะ รมว.แรงงาน ตอบคำถามบนพื้นฐานความเป็นจริง และมีเอกสารหลักฐานตอบได้ ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ รัฐบาลก็ทำหน้าที่หักล้างข้อกล่าวหาครั้งนี้เป็นสิ่งที่ตอบได้หมดทุกประเด็น มาตรการช่วยเหลือเยียวยาต่างๆรัฐบาลออกมามากมาย ครอบคลุมทุกมิติ เราไม่รู้ว่าเขาจะถามอะไร แต่ถ้าเขาถามเรื่องพวกนี้เราก็พร้อมตอบ" นายสุชาติระบุ
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ต้องมาพูดคุยเตรียมความพร้อมด้วยหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องของการทำงานตอบได้โดยบริบทตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นถึงขนาดต้องระดมทีมอะไรมากมาย เพราะทำงานทุกวันอยู่แล้ว ต่างคนต่างโดนเรื่องต่างๆ นานากันไป ถ้าตนโดนเรื่องการทำงานเรื่องแรงงานก็ตอบได้ แต่ถ้าใครโดนเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับนโยบาย เราก็ตอบแทนเขาไม่ได้ ก็ต้องให้เขาตอบเอง
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และได้มีการเตรียมทีมงานเพื่อรองรับ หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรค หรือมีการพาดพิง ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าฝ่ายค้านจะยื่นไม่ไว้วางใจ มีรัฐมนตรีคนใดบ้างที่อยู่ในโผของฝ่ายค้าน แต่ไม่ได้มีความกังวล เพราะเชื่อในการทำงานรัฐมนตรีของพรรค ที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง และที่สำคัญทุกคนมีผลงานประจักษ์ในการทำงานให้กับประชาชน
ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องบ่อนการพนันที่จะเป็นหมัดเด็ดน็อก พล.อ.ประยุทธ์ ว่าปัญหาบ่อนการพนันอยู่คู่กับสังคมไทยมานาน ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย หรือจะเป็น ผบ.ตร.ท่านใดเข้ามาทำหน้าที่ ก็ยังไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ซึ่งถ้าจะจัดการจะต้องปฏิรูปทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมการปกครอง
นพ.ระวีกล่าวต่อว่า การอภิปรายในเรื่องบ่อนการพนันนั้น ตนเชื่อว่ายังไม่สามารถเป็นหมัดเด็ดที่จะน็อกนายกรัฐมนตรีได้ โดยตนเห็นว่าฝ่ายค้านควรจะหาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศที่ผิดพลาด และมีส่วนได้ส่วนเสียที่เกิดขึ้นกับประชาชนมาอภิปรายจะน่าสนใจมากกว่า ประเด็นสร้างความแตกแยกทางการเมือง เพราะการมุ่งเน้นที่จะดิสเครดิต เล่นเกมกันในสภา จะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่สมศักดิ์ศรี และดูน่าเบื่อ จืดชืดเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา
“การอภิปรายครั้งก่อน ในตอนแรกประชาชนก็อยากจะติดตามรับชมกันทั้งประเทศ เพราะฝ่ายค้านระบุว่ามีข้อมูลเด็ดๆ ที่จะมาล้มรัฐบาล แต่สุดท้ายกลายเป็น 3 วันที่เสียดายเวลา ไม่สมกับที่ฝ่ายค้านกล่าวอ้างเอาไว้ ในครั้งนี้ผมก็ขอให้ฝ่ายค้านขยันทำงานให้เต็มที่ เอาให้ดีกว่าครั้งก่อน จะได้ไม่เสียเวลาของประชาชนที่เขามานั่งดู” นพ.ระวีกล่าว
ฉากหลังกลับจับมือซูเอี๋ย
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35 กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกลไกในระบบรัฐสภาเพื่อการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจบริหารของรัฐบาล ดังนั้นพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ต้องใช้กระบวนการนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ระบบการเมืองและประชาชน ไม่ใช่ใช้เป็นเพียงเครื่องต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็ต้องถือว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นหนึ่งในเงื่อนไขร่วมซ้ำเติมทำลายระบอบประชาธิปไตย ฉากหน้าวิจารณ์โจมตีรัฐบาลเป็นเผด็จการ บริหารประเทศล้มเหลว ทุจริตเพื่อประโยชน์พวกพ้อง แต่ฉากหลังกลับจับมือซูเอี๋ย แบ่งบทกันเล่น หรือโจมตีวิจารณ์เพื่อหวังตบทรัพย์ ผลประโยชน์ เป็นลิงหิวกล้วย เมื่อได้กล้วยแล้วก็เล่นลิเก ทำหน้าที่แบบไม่สมศักดิ์ศรี เป็นมวยล้มต้มคนดู
นายอดุลย์กล่าวต่อว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เป็นรัฐบาลที่มีบาดแผลมากที่สุด ทั้งในแนวราบ ที่ข้าราชการ นักการเมือง ทุจริต คอร์รัปชัน เป็นต้นตอที่ปล่อยให้มีบ่อน การลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อนจนประเทศเกิดการระบาดโควิดรอบ 2 แม้กระทั่งงบพัฒนาไฟฟ้าของชาวเขา ของเด็กบนดอยก็ยังตามไปสูบเลือดเนื้อ เบียดบังงบประมาณของคนไทยที่ด้อยโอกาสและยากต่อการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้ว
ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนฯ กล่าวว่า ผลจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ดังกล่าว ถึงเวลาแล้วที่พรรคฝ่ายค้านควรจะผนึกกำลังกันหาข้อมูลพยานหลักฐาน มากระชากหน้ากาก ตีแผ่ให้สังคมและประชาชนได้รับทราบ เพื่อที่จะช่วยกันยับยั้งไม่ให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้
“ผมรู้สึกไม่สบายใจที่มีกระแสข่าว โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ต่อรองกับผู้มีอำนาจ เพื่อจะอภิปรายหรือไม่อภิปรายรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เช่น ข่าวการจะไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สุดของรัฐบาล ผมขอวิงวอนพรรคฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ชาติ และที่สำคัญรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา” นายอดุลย์กล่าว
เขากล่าวว่า ในส่วนขององค์กรภาคประชาชน ซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐไม่ชอบ รวมไปถึงการตรวจสอบการทุจริตในนามของสภาที่ 3 ก็จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องการทุจริตให้เข้มข้นมากขึ้นด้วยในปี 2564 ซึ่งในเร็วๆ นี้จะมีการตีแผ่ความไม่ชอบมาพากลในโครงการขนาดใหญ่ในหลายโครงการ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |