23 ม.ค.64 - นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลเล่าเรื่อง ผ่าน PODCAST ทางเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า เกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนจาก บริษัท "แอสตราเซเนกา" มีเนื้อหาสรุปว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม มีนโยบายให้คนไทยได้ฉีดวัคซีนร้อยละ 50 ภายในปีนี้ จึงต้องจัดหาวัคซีนประมาณ 70 ล้านโดส เพราะแต่ละคนต้องฉีดคนละ 2 โดส ซึ่งการนำเข้าวัคซีนนั้นจะรีบร้อนไม่ได้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยไม่ให้เกิดความเสียหายด้วย ตอนนี้องค์การอาหารและยา (อย.) ได้ลงนามขึ้นทะเบียนวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา แล้ว 

โดยคาดว่าวัคซีนล็อตแรกประมาณ 5 หมื่นโดสจะมาถึงประเทศไทยภายในเดือนก.พ.นี้ เมื่อวัคซีนมาถึงประเทศไทยแล้วกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะดำเนินการสุ่มตรวจว่ามีคุณภาพตามที่บริษัทกำหนดไว้หรือไม่ ก่อนที่จะนำไปฉีดให้ประชาชนหลังจากนั้นบริษัทดังกล่าวจะทยอยส่งวัคซีนที่เหลือเข้ามาอีก 1.5 แสนโดสตามมา คาดว่าจะเป็นในเดือน มี.ค.และ เม.ย. สำหรับการผลิตวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ในประเทศไทย ที่ร่วมกับบริษัท สยาม ไบโอไซเอนซ์ ก็จะมีการขึ้นทะเบียนสถานที่ผลิตในประเทศไทยและมีผลให้ใช้ได้ในประเทศไทยในเดือนพ.ค.นี้ ประมาณ 26ล้านโดส ที่จะผลิตในประเทศไทย ซึ่งบริษัท สยาม ไบโอไซเอนซ์ พยายามดำเนินการเพื่อประโยชน์คนไทยผลิตวัคซีนในไทย มีกำลังผลิต 200 ล้านโดสต่อปี ดังนั้นไทยเองไม่ใช่แค่ผลิตเพื่อคนไทยเท่านั้น ในอนาคตสามารถแบ่งปันให้เพื่อนบ้านได้อีกด้วย ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการจัดหาวัคซีนรัฐบาลให้ความสำคัญตรวจสอบรัดกุมเพื่อความปลอดภัย