23 ม.ค.64 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กดังนี้
ปิยบุตรคงโดนรุมประชาทัณฑ์เข้าสักวัน
เจตนาอันแท้จริงของการลงพระปรมาภิไธยกับการรับสนองพระปรมาภิไธยที่เป็นไปตามหลักสากล คือ การตรวจทานและถ่วงดุลการใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชนในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่การควบคุมพระมหากษัตริย์ไปเสียทุกเรื่องราวกับเป็นนักโทษ ตามที่นายปิยบุตรชอบแอบอ้างรัฐธรรมนูญชั่วคราวของคณะโจร 2475 อยู่เป็นประจำ “การกระทำใดๆ ของกษัตริย์ต้องมีกรรมการราษฎรผู้หนึ่งผู้ใดลงนามด้วย โดยได้รับความยินยอมของคณะกรรมการราษฎรจึ่งจะใช้ได้ มิฉะนั้นเป็นโมฆะ”
เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตยของปวงชน แน่นอนว่าต้องมีการลงพระปรมาภิไธยกับการรับสนองพระปรมาภิไธยคู่กันเสมอ แต่เรื่องใดก็ตามที่เป็นพระราชอำนาจส่วนพระองค์หรือสิทธิเสรีภาพส่วนพระองค์ไม่จำเป็นต้องมีการรับสนองพระปรมาภิไธยแต่อย่างใด
เนื่องจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ต้องให้บริการแก่ผู้ต้องขังในกรณีเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นจำนวนมาก แต่ยังขาดแคลนบุคลากร เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ การดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง โครงการราชทัณฑ์ปันสุขจึงเกิดขึ้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามหลักมนุษยธรรม โดยเป็นการพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์ให้คณะกรรมการนำไปดำเนินการช่วยเหลือผู้ต้องขังให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กิจกรรมดังกล่าวจึงเป็นเรื่องส่วนพระองค์ที่เป็นไปเพื่อการกุศลและช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่การบริหารราชการแผ่นดินอย่างที่นายปิยบุตรบิดเบือนว่า “กรณีของคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขนั้น ถ้าเราลองดูขอบเขตงาน นั่นก็คือ ช่วยเหลือในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ให้จิตอาสาพระราชทานเข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือการแพทย์ การพยาบาล การอบรมความรู้ในเรื่องต่างๆ ตรงนี้เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินแน่นอน เกี่ยวข้องกับแนวทางในเรื่องนโยบายในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับในการบริหารประเทศ การบริหารราชการแผ่นดินแน่นอน”
แบบนี้ถ้าใครอยากจะช่วยเหลือผู้ต้องขัง นำเงินส่วนตัวมาบริจาคหรือสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ ออกมาทำโครงการดีๆให้ผู้ต้องขังได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดจนได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์กับชีวิต จะไม่กลายเป็นการบริหารราชการแผ่นดินไปหมดเลยหรืออย่างไร? นอกจากขยันปั้นเรื่องโยงสถาบันพระมหากษัตริย์ไปสู่ความขัดแย้งแล้วบิดเบือนในประเด็นที่ละเอียดอ่อนเสียเอง นายปิยบุตรก็ยังชอบสมมติเหตุการณ์เกินจริง โดยที่สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใดอีกต่างหาก
พอพระมหากษัตริย์ช่วยเหลือประชาชนแบบเงียบๆ ก็ออกมาหาเรื่องว่ากษัตริย์มีไว้ทำไม แต่พอพระมหากษัตริย์ช่วยเหลือประชาชนแบบเป็นทางการขึ้นมาหน่อย ก็หาว่าเป็นการแทรกแซงการบริหารราชการแผ่นดิน นายปิยบุตรจบปริญญาเอกด้านกฎหมายมาจริงๆหรือ? แค่เรื่องส่วนพระองค์ที่เป็นเรื่องการกุศลเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนกับการบริหารราชการแผ่นดินนายปิยบุตรยังไม่มีปัญญาแยกแยะ
หากนายปิยบุตรยังไม่หยุดบิดเบือนสร้างความแตกแยกและให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ เกรงว่าประชาชนทั่วไปจะอดทนไม่ไหวกับพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของนายปิยบุตร ความเกลียดชังมากมายจะย้อนกลับไปหาตัวนายปิยบุตรเอง และบางทีนายปิยบุตรอาจถูกรุมประชาทัณฑ์ก่อนติดคุก หรือถูกรุมประชาทัณฑ์ในคุกก็เป็นได้ เพราะแม้แต่เรื่องประโยชน์สุขของผู้ต้องขัง นายปิยบุตรยังกล้าเบียดเบียนด้วยการนำเรื่องบิดเบือนมาเป็นประเด็นสร้างความแตกแยกได้เลย
ผมสงสัยจริงๆว่านายปิยบุตรจะถูกรุมประชาทัณฑ์นอกคุกหรือในคุกก่อนกัน?
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |