"คกก.แรงงานผิด กม." เดินหน้าประชุมนัดแรก "ภักดี" แย้มมีข้อมูลพอสมควร แต่อุบลงรายละเอียด ขอ ปชช.มีเบาะแสแจ้งศูนย์ร้องทุกข์ทำเนียบฯ ได้ ผงะ! ตร.ภาค 7 จับเมียนักการเมืองท้องถิ่นใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ลอบขนแรงงานต่างด้าว "แม่ทัพภาค 4" สั่งคุมเข้มชายแดนใต้ป้องกันลักลอบเข้าประเทศ
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นายภักดี โพธิศิริ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีการเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งแรก โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม อาทิ กระทรวงกลาโหม, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงมหาดไทย, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.), สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ใช้เวลากว่า 2 ชม.
นายภักดีกล่าวว่า ได้หารือถึงแนวทางการทำงานของคณะกรรมการฯ และสภาพการทำงานต่างๆ ในเบื้องต้น แต่ยังไม่ได้มีการตั้งโฆษกเพื่อรายงานการทำงาน ซึ่งในครั้งหน้าจะเป็นการมอบหมายงานในแต่ละส่วน และต่อจากนี้จะนัดประชุมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทุกวันศุกร์
"การพูดคุยในวันนี้ได้รายละเอียดระดับหนึ่ง แต่ยังมีข้อมูลที่ต้องการเพิ่มเติม จึงขอโอกาสเรียนฝากในเรื่องที่เกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หากมีข้อมูลทางสื่อมวลชนก็สามารถแจ้งมาได้ ผ่านทางเลขาฯ ของกรรมการชุดนี้ และขอให้ช่วยนำเรียนประชาชน ว่าหากมีข้อมูลก็สามารถส่งมาได้ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลโดยตรง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ได้มีข้อมูลมาพอสมควร แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียดว่าจะขยายผลไปยังจุดไหน" ประธานคณะกรรมการตรวจสอบกรณีเข้าเมืองผิดกฎหมายฯ ระบุ
ที่ จ.กาญจนบุรี พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) ร่วมกับนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง แถลงข่าวจับกุมการลับลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายได้ 3 คดี
คดีแรก เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ตรวจค้นรถยนต์ทะเบียน กพ 2064 กาญจนบุรี มี น.ส.ศศิเพ็ญ ศิลปะชัย ผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นภริยาของนักการเมืองท้องถิ่นในอำเภอสังขละบุรี พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าว 4 คน โดยรับตัวมาจากบริเวณชายแดน อำเภอสังขละบุรี เพื่อนำไปส่งในอำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยได้รับค่าจ้างสำหรับผู้ใหญ่คนละ 7,000 บาท และเด็กคนละ 4,000 บาท โดยจะมีคนมารับต่อ จึงได้ขยายผลจับกุมตัวนายสมศักดิ์ ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา ได้ที่หน้าห้างสรรพสินค้าใน จ.กาญจนบุรี ให้การรับสารภาพว่าจะพาไปส่งที่อำเภอเมืองฯ จ.ราชบุรี
คดีที่สอง เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจร่วมสะพานรันตี ค้นรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กธ 8513 กาญจนบุรี มีนายประวิช แก้วดำ เป็นผู้ขับขี่ พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา 2 คน หลบซ่อนอยู่ภายในเบาะนั่งตอนที่ 3 มีผ้าสีดำคลุมปิดทับไว้เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ สอบสวนพบว่านายประวิชได้รับตัวบุคคลต่างด้าวมาจากชาวเมียนมา เพื่อนำไปส่งที่อำเภอเมืองฯ จ.ราชบุรี โดยได้รับเงินค่าจ้างคนละ 5,000 บาท, คดีที่สาม เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจร่วมสะพานรันตี ตรวจค้นรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กต 3837 กาญจนบุรี มี น.ส.อัจฉรา ชินสรนันท์ เป็นผู้ขับขี่ พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา 1 คน นอนหลบซ่อนอยู่บริเวณที่พักเท้าตอนที่ 3 โดยมีผ้าห่มคลุมปิดทับไว้ด้านบนตัว เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ สอบสวนพบ น.ส.อัจฉราได้รับตัวบุคคลต่างด้าวมาจากชายแดนอำเภอสังขละบุรี เพื่อนำตัวไปส่งที่ฟาร์มเลี้ยงไก่แห่งหนึ่งในอำเภอจอมบึง จ.กาญจนบุรี โดยมีจุดประสงค์ที่จะนำแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไปขึ้นทะเบียนบุคคลต่างด้าว แต่มาถูกจับได้ก่อนที่จะถึงจุดหมาย
"นายจ้างที่ต้องการแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านขอให้เลือกจ้างแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย หากมีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมาเพื่อรอการขึ้นทะเบียน ตำรวจจะดำเนินการกวดขันจับกุม ปราบปรามอย่างจริงจัง และจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด" ผบช.ภ.7 ระบุ
จ.เพชรบุรี นายธีรพล ปรียานุภาพ ปลัดอำเภอชะอำ พร้อมพ.ต.อ.ปัญญา กุลไทย ผกก.สภ.ชะอำ ร่วมกันจับกุมตัวนายเก่ง สายสมบูรณ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.2 ต.ป่าไร่ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร พร้อมด้วยชาวเมียนมา 4 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 1 ราย ขณะเดินทางด้วยรถยนต์ทะเบียน กจ 1541 จ.สกลนคร มาถึง บริเวณจุดตรวจคัดกรองโควิด ถนนสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ทางเข้าหุบกะพง ซอย 3 อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยพล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 แถลงมาตรการควบคุมและสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และกวดขันจับกุมขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว หลังจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าทางช่องทางธรรมชาติได้แล้วกว่า 600 คน โดยเน้นย้ำการเพิ่มความเข้มงวดและควบคุมการปฏิบัติตามแนวชายแดน รวมทั้งเพิ่มมาตรการสกัดกั้นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เช่นเดียวกับ จ.ขอนแก่น นางดรุณี ไชยเดช นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ สำนักงานจัดหางาน จ.ขอนแก่น ประชุมร่วมนายจ้างและผู้ประกอบการ ตามโครงการเสริมสร้างการรับรู้ให้กับนายจ้าง สถานประกอบการและองค์กรภาคีเครือข่าย ในเขต จ.ขอนแก่น โดยมีนายจ้างและสถานประกอบการ รวมทั้งผู้นำชุมชนในพื้นที่เข้ารับการอบรมอย่างพร้อมเพรียง โดยกำชับแนวทางการจัดการการทำงานของคนต่างด้าวภายในประเทศ และหน้าที่ของนายจ้าง รวมทั้งสถานประกอบการและคนต่างด้าว ที่ต้องมาพูดคุยและทำความเข้าใจกัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |