การเมืองมาเลเซียเข้มข้น "นาจิบ-ภรรยา" ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ทันควัน หลังวางแผนบินไปพักผ่อนที่อินโดนีเซีย ซึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามหนีออกนอกประเทศ ขณะที่ประชาชนที่โกรธแค้นไปดักรอที่สนามบิน ขัดขวางไม่ให้หนี มีการทุบรถไปหลายคัน แต่ไม่พบอดีตนายกฯ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค และนางรอสมาห์ แมนซอร์ ภรรยา เดินทางไปพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ ที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย หลังจากพ่ายแพ้การเลือกตั้งแก่ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด วัย 92 ปี โดยได้ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวออกจากสนามบินใกล้กรุงกัวลาลัมเปอร์ไปเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ ท่ามกลางข่าวลือว่าอาจเป็นการพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ
ทั้งนี้ นายนาจิบทวีตข้อความผ่านบัญชีส่วนตัวว่า ขอพักช่วงสั้นๆ เพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ซึ่งต้องห่างเหินเพราะภาระหน้าที่ทางการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โดยนายนาจิบระบุว่า เขาตัดสินใจที่จะพักหลังอยู่ในวงการการเมืองมานานกว่า 4 ทศวรรษ และความเหน็ดเหนื่อยจากการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไป ซึ่งโดยส่วนตัวเขามองว่าน่าเสียใจสำหรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ และอาจจะเป็นการเลือกตั้งที่ตึงเครียดที่สุดในประวัติศาสตร์มาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม ข่าวการเดินทางออกนอกประเทศของนายนาจิบ ที่แพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ได้ทำให้นักข่าวจำนวนมากไปรวมตัวกันอยู่ที่สนามบินสุบัง ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็กนอกกัวลาลัมเปอร์ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจบริเวณสนามบิน เพราะมีกระแสข่าวนายนาจิบและภรรยาถูกขึ้นบัญชีดำและไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ
ต่อมาได้รับการยืนยันจากมุสตาฟาร์ อาลี อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองของมาเลเซีย ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบและภรรยาถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเดินทางออกนอกประเทศแล้ว
ขณะที่มาเลย์เมลรายงานว่า นายนาจิบและภรรยา จะไม่เดินทางไปกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย หลังมีฝูงชนประมาณ 100 คนรวมตัวอยู่บริเวณด้านนอกสนามบินเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. เพื่อรออดีตนายกฯ และภรรยา โดยฝูงชนพยายามเข้ารุมล้อมรถยนต์หลายคันที่แล่นผ่าน และต้องการเห็นบุคคลที่อยู่ภายในรถแต่ละคัน โดยใช้ทั้งวิธีทุบหลังคาและพยายามจ้องผ่านหน้าต่างรถ ซึ่งเคลือบฟิล์มดำเข้ม พร้อมขว้างปาก้อนหินและตะโกนถ้อยคำเกลียดภรรยาของนายนาจิบ ที่ชอบใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ หรูหรา แต่คนภายในรถก็พยายามบอกว่านายนาจิบไม่ได้อยู่ภายในตัวรถ
ความเกลียดชังนายนาจิบกับภรรยาเกิดขึ้นเพราะก่อนนี้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฟ้องร้องกองทุน '1MDB' ที่มีนายนาจิบเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น เพื่อยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีบุคคลใกล้ชิดนายนาจิบ รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันยักยอก
ขณะที่ธนาคารแห่งชาติสิงคโปร์ สำนักงานอัยการและสำนักงานตำรวจสิงคโปร์ ได้ดำเนินการยึดทรัพย์มูลค่าเกือบ 6,300 ล้านบาท จากกองทุนดังกล่าว หลังการตรวจสอบพบว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของนายโลว์ เต็ก โฮ นักธุรกิจชาวมาเลเซีย และเป็นเพื่อนใกล้ชิดของครอบครัวนายนาจิบ
ขณะที่นายนาจิบแถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคอัมโนและประธานพันธมิตรบาริซันเนชันแนลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผลทันที เนื่องจากเมื่อพ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไป ผู้นำพรรคก็มีพันธะทางจริยธรรมที่จะต้องถอนตัวออกไป จึงตัดสินใจลาออกจากทั้งสองตำแหน่ง โดยนายฮาหมัด ซาฮิด ฮามิดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี จะรับหน้าที่ประธานพรรคอัมโนคนต่อไป พร้อมขอให้สมาชิกพรรคทุกคนร่วมใจกันสนับสนุนผู้นำพรรคคนใหม่
ส่วนพรรคพีเคอาร์ของมาเลเซียระบุว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม แกนนำพรรค จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษและปล่อยตัวออกจากเรือนจำในวันอังคารที่จะถึงนี้ บุตรสาวของนายอันวาร์กล่าวผ่านทางโทรทัศน์ เชื่อว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารเรื่องการปล่อยตัวอยู่ ขณะที่นายอันวาร์วัย 70 ปี ปัจจุบันพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อฟื้นฟูหลังการผ่าตัด ระหว่างถูกคุมขังในข้อหามีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
ก่อนหน้านี้ มหาเธร์เปิดเผยว่า สมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมหมัดที่ 5 ทรงตกลงที่จะพระราชทานอภัยโทษให้นายอันวาร์ และจะทำให้ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำทันทีที่กระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษเสร็จสิ้น มหาเธร์สัญญาว่าจะขอพระราชทานอภัยโทษให้อันวาร์ทั้งหมด รวมถึงยกเลิกการตัดสิทธิทางการเมืองอันวาร์เปิดทางให้อันวาร์กลับเข้าสู่สนามการเมืองอย่างเต็มตัว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |