นายกรัฐมนตรีมองโกเลียแถลงลาออกจากตำแหน่งในวันพฤหัสบดี หลังประชาชนออกมาประท้วงทางการที่ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นหญิงเพิ่งคลอดลูกใส่แค่ชุดนอนท่ามกลางอากาศหนาวจัดขณะเคลื่อนย้ายเข้าศูนย์ควบคุมโรค

    มองโกเลียมีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปีที่แล้วเพียงไม่กี่ราย หลังจากรัฐบาลใช้มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวด แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายแรกในประเทศ ทำให้รัฐบาลต้องประกาศล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคครั้งใหม่

    ชาวมองโกเลียต่างโกรธเคืองรัฐบาล ภายหลังมีการเผยแพร่วิดีโอทางโทรทัศน์ในสัปดาห์นี้ เป็นภาพของหญิงที่เพิ่งคลอดลูกในโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งโดนส่งตัวไปอยู่ศูนย์ควบคุมโรคติดเชื้อเนื่องจากตรวจพบว่าเธอติดเชื้อโควิด-19 โดยเธอสวมแค่ชุดนอนของโรงพยาบาลและรองเท้าฟองน้ำ ทั้งที่ขณะนั้นอุณหภูมิอยู่ที่ -25 องศาเซลเซียส

    วิดีโอของหญิงคนนี้ที่อุ้มลูกอยู่ในรถพยาบาล ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างดุเดือด เนื่องจากตามประเพณีของมองโกเลียระบุว่า หญิงที่เพิ่งคลอดลูกควรหลีกเลี่ยงอากาศหนาวและอาหารเย็นหลังคลอดลูก 1 เดือน

    มีผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ไม่ดูแลหญิงคนนี้อย่างดีเมื่อวันพุธราว 5,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว โดยชุมนุมกันที่จัตุรัสตรงข้ามอาคารที่ทำการรัฐบาลในกรุงอูลานบาตอร์ บางคนถือห่อผ้าที่ทำเป็นเหมือนทารก, บางคนสวมชุดนอนและรองเท้าแตะเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับหญิงคนนี้ และบางคนถือป้ายเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก

    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีอุคนา คูเรลซูค ของมองโกเลีย ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในปีนี้ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้วในวันพฤหัสบดี โดยเขายอมรับว่า เจ้าหน้าที่ทำผิดพลาดระหว่างการเคลื่อนย้ายหญิงคนนี้ เขารู้สึกหัวใจสลายที่เห็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติกับเธอเช่นนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรี จึงขอรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และเสนอให้ยุบรัฐบาลด้วย

    ก่อนหน้านี้ รองนายกรัฐมนตรีมองโกเลีย ซึ่งเป็นหัวหน้ากรรมาธิการฉุกเฉินแห่งชาติทำหน้าที่ควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19 ลาออกไปก่อนเมื่อเย็นวันพุธ ตามมาด้วยการลาออกของรัฐมนตรีสาธารณสุข รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่หญิงคนนี้ไปคลอดลูก และผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคติดเชื้อก็ลาออกแล้วเช่นกัน.