'ไอ้เข้'ไม่หลงกล ผู้ว่าฯไกรทองลุย


เพิ่มเพื่อน    


    ผู้ว่าฯ กาญจนบุรีลงพื้นที่จระเข้โผล่ในคลองส่งน้ำชลประทาน หลัง 5 วัน ค้นหาแล้วยังไร้วี่แวว ทั้งใช้ไก่ล่อแต่จระเข้ไม่หลงกล คาดตื่นคนไม่ปรากฏตัวให้เห็น รวมทั้งใช้อวนก็ไม่ได้เพราะกระแสน้ำแรง สั่งล้อมพื้นที่ลดการค้นหาให้แคบลง และประกาศห้ามประชาชนเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว
    ความคืบหน้ากรณี นายคีรี แย้มศิรี อายุ 40 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ออกไปตกปลาที่บริเวณลำคลองท่าสาร-บางปลา ท้องที่หมู่ 9 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา แต่ไปพบจระเข้ขนาดใหญ่ ลำตัวยาวกว่า 2 เมตร ลอยตัวลักษณะกำลังจะอาบแดดอยู่ฝั่งตรงกันข้าม เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ทางการทำการค้นหาจนถึงวันนี้ (21 ม.ค.) หรือเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ก็ยังไม่สามารถจับจระเข้ตัวนั้นได้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นเหตุให้ นายจิระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางมาถึงพื้นที่ที่พบจระเข้า ซึ่งอยู่บริเวณลำคลองชลประทานบ้านท่าสาร-บางปลา ท้องที่หมู่ 9 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา โดยมีนายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำ ภาค 7 นายอนุชา หอยสังข์ นายอำเภอท่ามะกา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท่ามะกา พร้อมเจ้าหน้าที่ประมงและฝ่ายปกครองที่เฝ้าติดตามจระเข้ รายงานข้อมูลกับผู้ว่าฯ
    นายจีระเกียรติ ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวว่า สำหรับแนวทางในการป้องกันและแนวทางในการแก้ปัญหาในเบื้องต้นนั้น ตนได้แจ้งไปยังนายอำเภอท่ามะกา รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น เช่น นายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ประมง และผู้ปฏิบัติงานในการค้นหา ให้กันพื้นที่บริเวณภายในลำคลองและตามตลิ่งที่คาดว่าจระเข้จะอาศัยอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้ามาข้องเกี่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจะได้ร่วมกันเฝ้าระวัง อาจจะทำด้วยวิธีการนำเหยื่อที่จระเข้ชอบกินเป็นอาหารนำไปล่อตามตลิ่งและภายในลำคลอง แต่ทุกอย่างก็ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ เพราะดูแล้วเหมือนกับว่าจระเข้เริ่มจะรู้ตัว และหากมีผู้คนมาเป็นจำนวนมากก็จะทำให้การจับนั้นยากยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้จำเป็นต้องกันพื้นที่อันตรายออกไปก่อน เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้ามาใกล้
    สำหรับคำเตือนนั้น ทางอำเภอและกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่และยังไม่รู้ได้ทราบข่าวไปแล้วว่า ในช่วงที่ยังจับตัวจระเข้ไม่ได้ ก็อย่าได้นำพาลูกเด็กเล็กแดงมาทำกิจกรรมทางน้ำในเขตพื้นที่ที่กันเอาไว้ เพราะอาจจะเกิดอันตรายต่อเด็กๆ ได้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันที่ 5 ที่หลายหน่วยงานได้เฝ้าติดตาม แต่ยังไม่พบวี่แววของตัวจระเข้ทั้งหมดแม้แต่ตัวเดียว โดยก่อนหน้านี้ได้นำโครงไก่ไปผูกล่อแล้วก็ตาม เวลานี้ก็คงเหลือแค่เชือกผูกเท่านั้น ยังไม่ทราบว่าตัวอะไรกินไปหมด เจ้าหน้าที่คาดว่าหากจระเข้ ยังอิ่มจะอยู่ใต้ผิวน้ำได้นานเป็นอาทิตย์ ไม่ต้องกินอาหาร เฝ้าเห็นคนที่อยู่ด้านบนโดยที่คนไม่เห็นเขา
    อุปสรรคที่สำคัญคือ ภายในลำคลองท่าสาร-บางปลา กระแสน้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว และมีความลึกถึง 4 เมตร จึงทำให้ไม่สามารถนำอวนของประมงลงไปขึงกั้นลำคลองตามที่ได้ร่วมกันวางแผนเอาไว้ได้ เนื่องจากอวนลอยขึ้นมาอยู่เหนือน้ำ อีกทั้งสองฟากฝั่งลำคลองนั้นเต็มไปด้วยวัชพืชและต้นไม้ขึ้นปกคลุมเต็มพื้นที่ ขณะเดียวกันระหว่างการค้นหาในช่วงเวลากลางคืนมีประชาชนที่ทราบข่าวได้เดินทางมาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดเสียงดังจากการพูดคุยและเสียงดังของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทำให้จระเข้ไม่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"