ยามนี้ “คนไทย” คงต้องร่วมกันส่งกำลังใจให้ “วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี” ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่ติดเชื้อโควิด-19 เพราะจากที่ “ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา” คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บอกเล่าถึงอาการว่ากลับมาอยู่ในภาวะวิกฤติ ต้องดูผล 72 ชั่วโมง และต้องจับตาเป็นรายชั่วโมงแบบวันต่อวันกันเลยทีเดียว...๐

ในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไทยนั้น ล่าสุด “พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์” ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 59 ราย ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีอย่างยิ่ง เพราะเป็นตัวเลข 2 หลักในรอบ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในการระบาดรอบใหม่เลยทีเดียว แต่ “หมอเบิร์ท” ก็ให้ข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ตัวเลขแม้จะลดลง แต่การกระจายตัวกลับเพิ่มจังหวัดขึ้นอีก 1 แห่ง คือ “นครพนม” ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยมี 63 จังหวัดแล้วที่มีผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ ซึ่งถือว่ามากกว่าระลอกแรกอย่างมากทีเดียว...๐

แล้วที่ตามมากับเรื่อง “โควิด-19” คงไม่พ้นเรื่อง “วัคซีน” โดยเฉพาะการโผล่ออกมาจุดประเด็นของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า หลังจากผ่านพ้นการเก็บตัว 14 วันในการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) รวมทั้งเวลาในการหลบเลียแผลใจจากการพ่ายแพ้แบบแลนด์สไลด์ ไม่สมราคาคุย ก็สร้างเรื่องจนได้...๐

เรียกว่า “ปากพาจน” พ่อฟ้าอีกแล้วพี่น้อง และงานนี้ต้องบอกว่า “ซี้แหง” แน่นอน แม้จะมีลูกหาบอย่าง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาช่วยแบ่งเบา โดยโบ้ยไปยัง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หัวร้อนไปไหม เพราะเป็นการสอบถามในเรื่องที่สงสัย แหม! เจ้าของทฤษฎีกระดุม 5 เม็ด สงสัยติดนิสัยตัดทอนมาหรืออย่างไร ที่ “ลุงตู่” หรือแม้แต่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สธ.ที่ ควันออกหูนั้นมาจากกรณีการพาดพิงสถาบันต่างหาก ซึ่งก็ได้แต่มึนงง! ว่าทำไม “พิธา” ถึงไม่ได้พูดถึงเลย...๐

แล้ว “กรรม” ก็ออนไลน์แล้ว เมื่อ “เนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส พร้อมด้วย “ทศพล เพ็งส้ม” กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และ “สุภรณ์ อัตถาวงศ์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ เข้าแจ้งความ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ในความผิดข้อหามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว...๐

นี่ยังไม่นับรวม “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” หัวหน้ากลุ่มไทยภักดี ที่บอกว่าจะไปแจ้งความในเรื่องนี้เช่นกัน และคาดว่าจะมีอีกหลายคนในหลายจังหวัดที่จะแจ้งความกับ “ทอน” ในคดีทำนองเดียวกันอีกแน่นวล...๐

พูดถึงมาตรา 112 ก็ได้แต่งงท่าทีของ "แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” ที่มาออกแถลงการณ์เรื่อง "ประเทศไทย: การลงโทษจำคุก 87 ปีในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นอัตราโทษสูงสุดที่เคยมีมา" เพราะถือเป็นการจุ้นกับอธิปไตยและกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่อย่างไร แล้วกรณี “สหรัฐอเมริกา” ที่ฝ่ายขวาจัดบุกรัฐสภาในการประชุมเพื่อลงมติรับรอง “โจ ไบเดน” เป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 จนสร้างความเสียหายทั้งสถานที่ รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สินนั้นไม่รู้ว่า “แอมเนสตี้ฯ” เคยยี่หระบ้างหรือไม่อย่างไร หรือมัวแต่มาเก่งกับประเทศในอาเซียนเท่านั้นจ๊ะ...๐

หันมาเรื่องการเมืองกันบ้าง ต้องบอกว่าสงสัยมีเสียงปี่กลองเลือกตั้งใหม่อย่างไรมิทราบ จึงทำให้บรรดานักการเมืองคึกคักอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” ที่ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ ก็โผล่มาร่วมแถลงข่าวด้วย ซึ่งกูรู “ผู้อ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น” ก็ประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่พรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครทั้ง 350 เขต และ ตั้งใจจะบริหารประเทศชาติแบบพรรคเดียว พร้อมยืนยันว่าไม่มีพรรคนอมินีตามทฤษฎีแบงก์พันไปแลกแบงก์ร้อย แหม! ต้องบอกว่าเป็นการคุยโวตามสไตล์ ดร.เหลิมจริงๆ แต่ที่บรรดาขาเมาธ์ตงิดคือ เมื่อพูดถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ดูเหมือน “ออเหลิม” จะพูดได้ไม่เต็มปากว่าจะส่งหรือไม่ส่งใคร ก็ไม่รู้ว่ายังฝันจะทาบทาม “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” หรือจะเปิดทางให้ “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ช่วงนี้ลงพื้นที่ถี่เพื่อซาวเสียงว่าจะลงผู้ว่าฯ กทม.ดีหรือไม่กันแน่...๐

ขณะเดียวกัน “หมอวรงค์” ก็ประกาศจัดตั้ง “พรรคไทยภักดี” หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลุ่มไทยภักดีก่อตั้งมาเป็นระยะเวลากว่า 5 เดือน งานนี้อยากจะบอกให้ “หมอวรงค์” ลองย้อนไปดูอดีต ไม่ว่าจะเป็นกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กปปส. ที่หันมาลงสนามการเมืองในการจัดตั้งพรรคกันบ้าง ก็น่าจะเห็นบทสรุปได้เลาๆ ว่าหนทางไม่ใช่โรยด้วยดอกกุหลายนะจ๊ะตัวเอง...๐.

...ท.ศักดิ์