20 ม.ค. 64 - นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่าพรรคก้าวไกลชงแก้มาตรา 112 พร้อมถามสังคม รับได้จริงหรือ มีคนต้องติดคุกยาวนาน เพียงแค่ ‘แชร์คลิป’ โดยนายสุภรณ์กล่าวว่าสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ตนเองมองว่าพรรคก้าวไกลไม่ควรออกมาพูดถึงเรื่องนี้  เพราะพรรคก้าวไกลถือเป็นผู้แทนที่มาจากประชาชน  จึงควรที่จะมีการหารือกันภายในพรรคที่เน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก อย่ามาปั่นกระแสสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง วันๆในสมองของคนพวกนี้คิดเป็นอยู่เรื่องเดียว คือคิดแต่เรื่องก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบัน ขอถามกลับว่า มาตรา112 ไปรังแกใคร มาตรา112ไม่เคยรังแกใครก่อน มีแต่คนไม่หวังดีต่อบ้านเมืองและไม่หวังดีต่อสถาบัน มาละเมิดก้าวล่วงมาคุกคามก่อนมิใช่หรือ มาตรา112 จึงต้องนำมาบังคับใช้ตามกฎหมาย

 นอกจากนี้การเรียกร้องให้แก้กฎหมาย ม.112 นั้นตนเองมองว่าเหตุใดคนทั้งประเทศถึงอยากให้คงไว้และยอมรับกับกฎหมายมาตรานี้ได้  แต่ทำไมพรรคก้าวไกลกลับยอมรับไม่ได้เป็นเพราะรู้เห็นเป็นใจเป็นผู้สนับสนุนการเคลื่อนไหวคนที่ทำผิดมาตร112 จะเห็นได้ทางพรรคก้าวไกลจะคอยส่งส.ส.ของพรรคไปประกันตัวให้กับคนที่ทำผิดมาตรา 112 ตลอดเวลา ตนจึงเห็นว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลควรทำแทนการแก้กฎหมายมาตรา 112 คือไปบอกกล่าวกับผู้ที่คิดจะทำการจาบจ้วงสถาบัน หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ให้เลิกการกระทำผิดกฎหมายเสีย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่งเพียงเท่านี้ก็จะไม่ถูกดำเนินคดีแล้ว ทำไมทางพรรคก้าวไกลหรือคนของพรรคไม่เคยห้ามปรามบ้าง แต่กลับมาสนับสนุนหรือช่วยเหลือให้ท้ายคนทำผิดกฎหมายเสียเอง

นายสุภรณ์ยังมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ต้องการให้ยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 อย่างแน่นอน เพราะประชาชนจะไม่ทนต่อพฤติกรรมของผู้ที่จาบจ้วงสถาบัน และอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและบังคับใช้มาตรา112 อย่างเด็ดขาด  ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ควรฟังเสียงจากประชาชนส่วนใหญ่ด้วยว่าต้องการเช่นเดียวกันกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ และไม่มีวันที่ประชาชนจะยอมเด็ดขาด เพราะเป็นเป้าหมายของคนที่คิดล้มล้างสถาบัน เด็กอนุบาลก็อ่านทางออก อย่าคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่จะโง่ รู้ไม่ทันพรรคก้าวไกลและกลุ่มจาบจ้วงทั้งหลายเลย.