สทนช. แจงรัฐบาลไทยทำงานเชิงรุกจัดการน้ำโขงทั้งฤดูฝน-แล้ง พร้อมปรับปรุงการเชื่อมต่อข้อมูลกับจีนให้เร็วขึ้น


เพิ่มเพื่อน    

20 ม.ค.64 - จากกรณี นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ หรือ หมอเอก ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงการไม่รักษาสมดุลย์อำนาจระหว่างประเทศในการบริหารจัดการน้ำโขง โดยระบุว่า น้ำโขงแห้งเหือดส่งผลต่อระดับน้ำอิงที่เชียงแสนและส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนบนฝั่งน้ำ สาเหตุเพราะเขื่อนที่ขวางอยู่ตลอดแนวลำน้ำโขง โดยระดับน้ำโขงที่เชียงแสนในวันที่ 4 มกราคมอยู่ดีๆก็ลดฮวบลงถึง 1 เมตรเมื่อเทียบกับวันที่ 2 มกราคม สาเหตุที่ระดับน้ำโขงลดลงเนื่องมาจากจีนมีการกั้นน้ำไว้ที่เขื่อนจิ่งหงเพื่อทดสอบระบบผลิตไฟฟ้าของเขื่อน ซึ่งจีนแจ้งมาถึงที่หน่วยงานด้านน้ำของไทยในวันที่ 5 มกราคม คือหนึ่งวันหลังจากระดับน้ำลดฮวบแล้ว

ล่าสุด ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย เปิดเผยว่า จากกรณีนพ.เอกภพ เพียรพิเศษ หรือ หมอเอก ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงการไม่รักษาสมดุลย์อำนาจระหว่างประเทศในการบริหารจัดการน้ำโขงนั้น

สทนช.ขอชี้แจงว่าการบริหารจัดการน้ำโขงซึ่งเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ โดยมีประเทศต้นน้ำคือ ประเทศจีน ในระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมามีความก้าวหน้าเป็นรูปธรรมอย่างมาก เป็นผลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลได้ร่วมผลักดันให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระดับน้ำและด้านอุทกวิทยาตลอดทั้งปีทุกเวทีการเจรจา ส่งผลให้ล่าสุดกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน กับ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขาฯ คณะทำงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ (JWG) กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง สาขาทรัพยากรน้ำ ได้มีการลงนามความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลตลอดทั้งปีมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2563

จากเดิมเริ่มต้นเพียงช่วงฤดูฝนเท่านั้น “ทางการจีนให้การสนับสนุนข้อมูลด้านอุทกวิทยาน้ำโขงกับประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง เป็นผลจากที่ไทยหยิบยกประเด็นนี้ต่อเนื่องพร้อมผลักดันในทุกระดับเวทีการเจรจาไม่ว่าจะเป็นระดับผู้นำ หรือหน่วยงานปฏิบัติ ส่งผลให้เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2562 จีนยินดีให้ข้อมูลระดับน้ำและปริมาณน้ำจากสถานีวัดน้ำ 2 แห่ง ได้แก่ สถานีจิ่งหง และสถานีหม่านอัน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน -31 ตุลาคมของทุกปี และประเทศจีนจะส่งข้อมูลด้านอุทกวิทยา ระดับน้ำ

และล่าสุดคือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลระดับน้ำในฤดูฝนตลอดทั้งปีของสถานียุนจิ่นหง และสถานีหมานอัน ที่ตั้งอยู่ท้ายน้ำของแม่น้ำล้านช้างในจีนก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงตอนล่างให้คณะทำงานร่วมสาขาทรัพยากรน้ำของประเทศสมาชิกอีก 5 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย จึงนับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญที่ฝ่ายไทยจะต้องดำเนินการและติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในแม่น้ำโขง-ล้านช้าง รวมถึงการป้องกันบรรเทาผลกระทบข้ามพรมแดน จากสถานการณ์น้ำท่วม น้ำแล้ง การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและระดับน้ำอย่างฉับพลันอีกด้วย"”ดร.สมเกียรติ กล่าว

ทั้งนี้ กรณีที่เขื่อนจิ่นหงลดการระบายนั้น สทนช.ได้รับข้อมูลอุทกวิทยาจากสถานียุนจิ่นหง พบว่า มีระดับน้ำที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้เร่งติดต่อประสานงานผ่านผู้ประสานงานของรัฐบาลจีนและเขื่อนจิ่นหงทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ แต่ด้วยเป็นช่วงวันหยุดยาวสิ้นปี ทำให้เกิดช่องว่างในการแจ้งยืนยันข้อมูลอย่างเป็นทางการมาในวันที่ 5 ม.ค. 2564 โดยระดับน้ำที่เชียงแสนลดลงวันที่ 2-5 มกราคม 2564 ประมาณ 1 เมตร ส่งผลต่อการแจ้งเตือนหน่วยงานระดับพื้นที่อย่างเป็นทางการมีความล่าช้าไปบ้าง

สทนช.จะเร่งปรับปรุงระบบการได้ข้อมูลยืนยันที่เป็นทางการให้รวดเร็วมากขึ้น รวมถึงในเร็วๆนี้ สถานีเชียงกกที่อยู่พรมแดนของลาว-พม่า-จีน ก็เป็นอีกสถานีที่สำคัญทำให้ไทยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลระดับน้ำได้รวดเร็วขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ระดับน้ำโขงที่ในระยะนี้ซึ่งไม่มีฝนเพิ่มเติมในพื้นที่รวมถึงลำน้ำสาขา คาดว่า ระดับน้ำจะมีค่าคงที่ไม่ต่ำกว่าในปัจจุบันซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับตลิ่ง ประมาณ 10.61 เมตร

ดร.สมเกียรติ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและเน้นย้ำถึงการปกป้องผลกระทบกับประชาชนริมน้ำโขง และพยายามในทุกกรอบเวทีการเจรจาไม่ว่าจะกรอบแม่โขง-ล้านช้าง หรือ กรอบเวทีลุ่มน้ำโขง 4 ประเทศ ฉันท์มิตรประเทศ และกลไกที่สามารถนำมาขับเคลื่อนได้ เช่น กรณีเขื่อนสานะคาม ที่ไทยได้หยิบยกในหลากหลายประเด็นที่จะส่งผลกระทบกับประเทศท้ายน้ำที่ไม่มีความชัดเจน ซึ่งประเทศเจ้าของโครงการต้องไปทบทวนปรับปรุงร่างรายงานทางเทคนิคให้ครอบคลุมตามข้อสังเกตุของประเทศสมาชิกก่อนเข้าสู่กระบวนการอื่นๆ ได้ต่อไป รวมถึง สทนช.ได้พยายามเพิ่มเวทีสร้างการมีส่วนร่วมภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการบริหารแม่น้ำโขงในประเทศ เพื่อให้การจัดการน้ำโขงเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุดภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในปัจจุบันด้วยเช่นกัน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"