19 ม.ค.64 - นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องเพิ่มเติมกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย อัดคลิปคำพูดของตนเองโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าระหว่างการทำหน้าที่นักร้องซองน้ำตาล ร้องเรียนไปเรื่อย กับการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไม่แน่ใจว่านายศรีสุวรรณ ให้น้ำหนักกับการทำหน้าที่ส่วนใดมากกว่ากัน ประชาชนได้ให้ฉันทานุมัติเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ให้เป็นนายกอบจ. แต่นายศรีสุวรรณ กลับร้องเรียนจนทำให้กระบวนการรับรองการเลือกตั้งล่าช้าออกไป เท่ากับเป็นการยกเสียงของคนหนึ่งเสียง ไปยับยั้งเสียงของประชาชนทั้งจังหวัด แทนที่จะได้บุคลากรเข้าไปทำงานให้พี่น้องประชาชน กลับเสียเวลาและเสียโอกาส จากการร้องเรียน 

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการของนายศรีสุวรรณครั้งนี้ ถูกตั้งคำถามมากว่า มีเบื้องหลัง หรือรับงานจากกลุ่มการเมืองกลุ่มใดหรือไม่ การกล่าวหา ดร.ทักษิณ ชินวัตร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้มีสัญชาติไทยนั้น ถือว่า ทำให้นายศรีสุวรรณ เสียรังวัดอย่างหนัก 

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 บัญญัติไว้ชัดในมาตรา 39 ว่า การเนรเทศบุคคลสัญชาติไทย ออกนอกราชอาณาจักร หรือห้ามมิให้ผู้มีสัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจักร จะกระทำมิได้ การถอนสัญชาติของบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิด จะกระทำมิได้ ดร.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสัญชาติไทยโดยการเกิด ปัจจุบันก็ยังคงถือสัญชาติไทย การเพิกถอนหนังสือเดินทาง กับการถือสัญชาติ เป็นคนละประเด็นกัน ก่อนที่นายศรีสุวรรณ จะทำหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ควรกลับไปอ่านรัฐธรรมนูญไทยให้เข้าใจถ่องแท้เสียก่อน อย่าให้ใครเขาวิพากษ์วิจารณ์นายศรีสุวรรณ ในทางลบให้เสียหายไปมากกว่านี้  

นายอนุสรณ์ อ้างว่ามีการพบข้อมูลนักร้องบางคนอยู่ในประเทศทำตัวยากจน แต่ออกไปต่างประเทศใช้กระเป๋าแบรนด์เนม ใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งมีคนสนใจตรวจสอบเรื่องเหล่านี้กันอยู่ 

"นายศรีสุวรรณ จะร้องเรื่องอะไรก็เป็นสิทธิ์ แต่ไม่ควรทำตัวเป็นนักร้องซองน้ำตาล ร้องดะ ร้องไปเรื่อย แทนที่ประชาชนจะได้นายกฯ ได้ส.อบจ.เข้ามาทำงาน กลับทำให้ประชาชนเสียโอกาส" นายอนุสรณ์ กล่าว