19 ม.ค.64 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมบริหาร ตร. ครั้งที่ 1/2564 โดยมี รอง ผบ.ตร. และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย ก่อนการประชุม พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า วันนี้จะมีประเด็นการติดตามปราบปรามยาเสพติด บ่อนการพนัน หรือแหล่งมั่วสุมที่ทำให้เกิดโรคระบาดโควิด-19 และเรื่องแรงงานที่มีขบวนการขนแรงงานเข้าประเทศ

โดยเฉพาะเรื่องการจับบ่อนการพนันในหลายพื้นที่แล้วมีการโยกย้ายตำรวจหลายนาย ซึ่งทั้งหมดก็จะต้องเป็นไปตามคำสั่ง 234/2558 การพิจารณาตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข โดยขณะนี้มีก็การแก้ไขปรับปรุงคำสั่งให้เป็นปัจจุบัน นอกจากมีบทลงโทษเกี่ยวกับการปล่อยปละละเลยหน้าที่ แต่จำเป็นต้องมีมิติในการป้องกันด้วย ยกตัวอย่างเรื่องบ่อนการพนันหากชาวบ้านให้ข้อมูลว่าบ่อนอยู่ที่ไหน แล้วตำรวจในพื้นที่มีการตรวจสอบเป็นวงรอบหรือไม่ มีผู้ติดตามกำกับดูแลหรือไม่ ซึ่งคำสั่งเก่าก็มีสั่งให้ทำอยู่แล้วแต่อาจมีความเข้าใจคาดเคลื่อน จึงต้องปรับเรื่องความหมายให้ชัดเจน ผู้ทำผิดก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

ส่วนเรื่องยาเคนมผง พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า มีความคืบหน้าในการสืบสวนจับกุม แต่ในภาพรวมได้มอบให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท.ในการติดตามสืบสวนแหล่งขายยาเสพติดในโลกออนไลน์ด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีการขายโฆษณาทางการผ่านโซเชียล ซึ่งจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการสืบหาข้อมูลที่เป็นรูปธรรม และ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า กรณีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงชั้นต้น จากพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. แล้ว โดยพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐหลายส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งจะประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ส่วนตำรวจพบมีข้าราชการตำรวจหลายระดับเกือบ 10 นาย เข้าไปเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยอาจมีส่วนช่วยเหลือหรือเป็นการปล่อยปละละเลย ซึ่งจากนี้จะมีการสืบสวนให้เกิดความชัดเจน และหากพบมีการกระทำผิดจริง ก็จะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา และนอกจากในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตากด้วย ส่วนจะมีการออกหมายจับผู้ใดหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

ทั้งนี้ในปัจจุบันยังพบมีการลักลอบเข้าประเทศทางด้านชายแดนภาคใต้ จึงเน้นย้ำให้ชุดจับกุมสอบสวนแรงงานผิดกฎหมายทุกคนที่ถูกจับ เพื่อให้ได้ข้อมูลถึงขบวนการนายหน้า เส้นทางลักลอบเข้าประเทศ รวมทั้งสอบสวนว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ หรือ เจตนาจะใช้จังหวะนี้ ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องตามกฎหมายไทย หรือใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศอื่น

ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า การนำพาคนเข้าออกประเทศ แม้จะเป็นอาชีพหนึ่ง หรือเป็นเหมือนวิถีชีวิตของคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ตามแนวชายแดน แต่ต้องยอมรับว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ดังนั้น เมื่อมีการจับกุมจึงพบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลักลอบขนแรงงานรายย่อย แต่ก็มีการกระทำเป็นขบวนการบางส่วนด้วย มองว่าเป็นการกระทำผิดส่วนบุคคล ไม่ใช่ขบวนการข้ามชาติ