ในหลวงโปรดเกล้าฯ องคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ถวายราชสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันยุทธหัตถี ด้าน ผบ.ทสส.นำเหล่าทัพวางพวงมาลาวันกองทัพไทย โฆษก ทบ.ย้ำความจำเป็นต้องซื้อยุทโธปกรณ์
เมื่อวันที่ 18 มกราคม เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปถวายราชสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ พระบรมราชานุสรณ์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เนื่องในวันกองทัพไทยและวันยุทธหัตถี
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 มีพระนามเดิมว่าพระนเรศ หรือ "พระองค์ดำ" เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชกับพระวิสุทธิกษัตรีย์ (พระราชธิดาของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิกับสมเด็จพระศรีสุริโยทัย) เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2098 ณ พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก มีพระเชษฐภคินีคือ พระสุพรรณกัลยา มีพระอนุชาคือ สมเด็จพระเอกาทศรถ (องค์ขาว) และเป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิกับสมเด็จพระศรีสุริโยทัย ในขณะที่พระองค์ทรงพระเยาว์ พระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์พม่าได้ยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก และทรงขอสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปเลี้ยงเป็นพระราชบุตรบุญธรรมเพื่อเป็นตัวประกันที่เมืองหงสาวดี จนพระชนมายุได้ 15 ชันษา พระองค์จึงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา และได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระมหาอุปราชปกครองเมืองพิษณุโลก ในปี พ.ศ.2127 ทรงหลั่งทักษิโณทก ณ เมืองแครง ประกาศอิสรภาพของชาติไทยโดยไม่ขึ้นกับพม่าอีกต่อไป และทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2133 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์สุโขทัย รวมครองราชสมบัติ 15 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2148 สิริพระชนมพรรษา 50 พรรษา
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระกฤดาภินิหารในความเป็นนักรบที่กล้าหาญ ซึ่งได้รับการยกย่องสรรเสริญในวีรกรรมที่ได้ทรงประกาศอิสรภาพ ทำให้เมืองไทยพ้นจากอำนาจของพม่า และเมื่อพม่ายกกองทัพมาเหยียบย่ำพื้นแผ่นดินไทยเพื่อให้ยอมตกอยู่ในอำนาจ กองทัพพม่าครั้งนั้นใหญ่หลวงนัก มีพระมหาอุปราชาเป็นจอมทัพ ยกตีเข้ามาถึงเมืองสุพรรณบุรี สมเด็จพระนเรศวรได้ทรงยกกองทัพออกไปต่อสู้ ในที่สุดพระองค์ได้ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาในท่ามกลางเหล่าทหารข้าศึก สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงของ้าวแสนพลพ่ายฟันต้องพระอังสาของพระมหาอุปราชาขาดสิ้นพระชนม์ชีพอยู่กับคอช้าง สมเด็จพระนเรศวรและกองทัพไทยได้รับชัยชนะอย่างมหัศจรรย์ เป็นที่เลื่องลือพระบรมเดชานุภาพไปยังประเทศใกล้เคียง เมื่อเสร็จสงครามยุทธหัตถีแล้ว สมเด็จพระนเรศวรมหาราชโปรดฯ ให้สร้างสถูปเป็นอนุสรณ์ไว้ที่ทุ่งหนองสาหร่าย ตำบลตระพังตรุ ตรงกับที่ทรงทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา เรียกกันว่า เจดีย์ยุทธหัตถี
รัฐบาลได้ตระหนักถึงพระราชวีรกรรมและคุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีต่อชาติไทย อันควรจะได้ยกย่องเทิดทูนพระเกียรติยศให้ปรากฏเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ และประกาศให้ถือเอาวันที่ 25 มกราคมของทุกปีเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาติไทย และวันที่ 18 มกราคมให้ถือเป็น "วันยุทธหัตถี" หรือ "วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"
ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานงานกองทัพไทยประจำปี 2564 โดยมี พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร., พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ., พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และผู้แทนผู้บัญชาการทหารบกเข้าร่วม
โดยมีกิจกรรมสำคัญคือ พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่กองบัญชาการกองทัพไทย พิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 พิธีบวงสรวงพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นมหาราช 9 พระองค์ พิธีวางพวงมาลาสักการะดวงวิญญาณนักรบไทย
สำหรับการจัดงานวันนี้เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์วีรกษัตริย์ไทย และบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ตลอดจนเหล่าบรรพบุรุษของไทยที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้เป็นมรดกมาจนถึงทุกวันนี้
ที่กองทัพบก พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก พร้อมทีมงานโฆษกได้แถลงผลงานกองทัพบกในรอบ 1 ปี เช่นสรุปผลการช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่างๆ รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การช่วยเหลือผู้ยากไร้ และนโยบายในเรื่องทหารกองประจำการ ที่สำคัญคือมาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน เนื่องจากเกี่ยวโยงกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
พล.ท.สันติพงศ์กล่าวว่า ภารกิจที่ ผบ.ทบ.เน้นย้ำคือการดูแลประชาชน โดยกำลังพลทุกภูมิภาคต่างๆ ทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย เช่น หน่วยพิทักษ์พื้นที่ทั้ง 35 มณฑลทหารบก เป็นกำลังพลที่เข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที เจตนารมณ์ของ ผบ.ทบ.ที่มอบให้กำลังพลยึดถือคือ พิทักษ์ราชัน ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ เป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส ให้เกิดความมั่นคงแก่ประเทศชาติและให้ประชาชนผาสุก ปลอดภัย และมั่นคงในการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสูงสุด กองทัพบกจะยึดมั่นพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนตลอดไป
โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้โอนงบประมาณการจัดซื้ออาวุธ เช่น เฮลิคอปเตอร์, ยานเกราะล้อยางสไตรเกอร์ของกองทัพ 5-6 พันล้านบาท ว่าที่ผ่านมาหน่วยงานมีคณะกรรมการประสานงาน เมื่องบประมาณของทุกส่วนราชการผ่านสภาไปแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการไปชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการของรัฐสภา ผู้ที่ทำหน้าที่ได้มีการทบทวน จัดสรร พูดคุยกัน และได้ชี้แจงถึงความจำเป็นว่ามากน้อยแค่ไหน และว่าอันไหนควรจะมีหรือไม่มี มีคณะกรรมการดูแลชัดเจน ทุกอย่างเมื่อผ่านขั้นตอนไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีประเด็น ส่วนงบประมาณปี 2565 ที่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีไปแล้ว ที่ยังมีการจัดตั้งวงเงินงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธสูงอยู่จะตัดมาช่วยโควิดหรือไม่นั้น โดยหลักการเป็นเรื่องหารือระหว่างกองทัพกับรัฐบาล ตอนนี้ยังไม่มีการคุยตรงนี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |