"ผบช.น." เร่งสอบขยายผล "อั๋น กีวี่" เอเยนต์ยาเสพติดรายใหญ่เกี่ยวพันขบวนการ "เคนมผง" หลังรวบตัวได้ที่ จ.เพชรบูรณ์ ตามหมายจับคดีพยายามฆ่าและอาวุธปืน สรุปยอดผู้เสียชีวิตจากเคนมผงแล้ว 10 ราย รักษาตัวที่ รพ.อีก 6 คน พร้อมแถลงปูพรมกวาดล้างผู้ค้ายาทั่ว กทม.และปริมณฑล
    เมื่อวันที่ 18 ม.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)  กล่าวถึงการขยายผลการจับกุมขบวนการค้าเคนมผงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายว่า ล่าสุดจับกุมนายอมรเทพ เฉลิมวัฒน์ หรือ “อั๋น กีวี่” ได้ที่อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ต้องหารายนี้เป็นการจับกุมตามหมายจับของศาลอาญาข้อหาพยายามฆ่าและอาวุธปืน เนื่องจากมีการกระทำความผิดแล้วหลบหนีไป 
    พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานหลักฐาน เชื่อว่านายอมรเทพจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่วัดพระยาไกร ส่วนจะเป็นคนผสมหรือไม่ เราไม่ทราบ หรือจะเป็นเครือข่ายใหญ่หรือไม่ ขอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน แต่ยาที่ใช้เสพส่วนหนึ่งมาจากเขา และเขาเองยอมรับว่าจำหน่ายยาเสพติดโดยรับมาจากผู้อื่นแล้วนำไปจำหน่ายในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร
    "ของกลางที่พบในที่เกิดเหตุในหลายพื้นที่ มียาเสพติดหลายประเภทในที่เกิดเหตุ และมีหลักฐานว่าคนที่มาเสพต่างคนต่างนำยาเสพติดหลายประเภทมาเสพ ทุกเบาะแสมีการสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งที่พื้นที่ สน.สายไหม สน.จรเข้น้อย รับนำมาจากพื้นที่จังหวัดปทุมธานี แต่บางกรณีอย่างที่ สน.สายไหมตรงกับที่พบในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร ส่วนในพื้นที่ สน.พระโขนง อยู่ระหว่างการวบรวมพยานหลักฐาน ทราบว่ามีการใช้ยาเสพติดใกล้เคียงกัน แต่ส่วนผสมจะเป็นอย่างไรเราไม่ทราบ" พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าว
    ทั้งนี้ สำหรับผู้เสียชีวิตจากการเสพเคนมผง ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 10 ราย และรักษาตัวอยู่ที่ รพ.อีก 4 คน โดยอยู่ในไอซียู 2 คน 
    ที่ สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.ประสบโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำนายอมรเทพ หรือ “อั๋น กีวี่” ว่า คดีนี้อยู่ระหว่างสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะประเด็นเคนมผงในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร กรณี นายทัชชัย กล่อมใจ หรือดรีม ซัดทอดว่าซื้อเคนมผงมาจากนายอมรเทพ และ น.ส.กุลนที เอี่ยมลอย ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม แล้วนำมาสูดดมจนหมดสติและมีผู้เสียชีวิตในบ้านเช่าเขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
    นอกจากนี้ อีกคดีที่ต้องสอบหาความเชื่อมโยงคือ คดีในพื้นที่ สน.พหลโยธิน จากเหตุการณ์นายอมรเทพ ผู้ต้องหาใช้ปืนยิงนางสาวนภิสา ห่องคำ แฟนสาว ได้รับบาดเจ็บสาหัสในห้องพักซอยรัชดาฯ 36 หลังมีปากเสียงกัน เนื่องจากนายอมรเทพคิดว่านางสาวนภิสาขโมยยาเสพติดไปจำหน่าย
    "พนักงานสอบสวนจะสอบสวนขยายผลในประเด็นต่างๆ ด้วย เช่น นายอมรเทพเป็นผู้ผสมยาเคนมผงจริงตามข้อมูลที่ตำรวจได้มาเบื้องต้นหรือไม่ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่านายอมรเทพเป็นเอเยนต์ค้ายาระดับตัวการใหญ่ และเป็นคนผสมสูตรยาเคนมผงขึ้นมาเอง และวันที่ 19 ม.ค. จะคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมแจ้งข้อหาพยายามฆ่า, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควรและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล วันเดียวกัน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ร่วมกับ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น.และ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. แถลงข่าวกรณี พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. และ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ (191) บก.สปพ. จับกุมยาเสพติด 5 คดี ได้ผู้ต้องหา 8 ราย
    พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า บก.สปพ.สืบทราบว่า บ้านเลขที่ 18/127 ซ.ลาดปลาเค้า 83 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. มีการมั่วสุมเสพยาเสพติดและลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จึงเข้าตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 355 เม็ด ไอซ์น้ำหนัก 271.58 กรัม ยาอี 49 เม็ด ยาอี ชนิดผงน้ำหนักประมาณ 15.02 กรัม ยาเคตามีนน้ำหนัก 11.11 กรัม อาวุธปืนลูกโม่บีบีกันดัดแปลง 1 กระบอก และอื่นๆ จึงจับกุมนายณัฐวุฒิ หรือนัท มงคลจิระนันท์ อายุ 38 ปี พร้อมพวกรวม 3 คน 
    จากนั้นขยายผลทราบว่า ผู้ต้องหาแบ่งยาเคตามีนหรือยาคีตามีนมาจาก น.ส.เขมจิรา หรือก้อย มังกรแก้ว อายุ 49 ปี จึงจับกุม น.ส.เขมจิรา ได้บริเวณปากซอยวิภาวดีรังสิต 36 แยก 3-4 แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาเคตามีนหรือยาคีตามีนชนิดผงสีขาว น้ำหนักประมาณ 30.29 กรัม
    นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายอนันต์ คร่อมกระโทก อายุ 56 ปี พร้อมพวกรวม 3 คน พร้อมยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) 30 กิโลกรัม, รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู 1 คัน เงินสดจำนวน 208,500 บาท, บัตรเอทีเอ็ม 6 ใบ, ทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 7 บาท สอบสวนขยายผลทราบข้อมูลว่า มีผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดบริเวณย่านวัดแห่งหนึ่ง ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จับกุมนายพงศธร แจ่มใส อายุ 36 ปี ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) น้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน
    "การจับกุมผู้ค้ายาเสพติดครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่ โดยเฉพาะเฮโรอีนและไอซ์ นำมาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านมาทางภาคอีสาน ขณะพยายามนำเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ จ.ปทุมธานี และ จ.นนทบุรี" พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าว
    ถามว่า การจับกุมเคตามีนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเคนมผงหรือไม่ ผบช.น.กล่าวว่า กลุ่มนี้เป็นพวกนำวัตถุดิบเคตามีนมาจำหน่ายในกรุงเทพฯ ส่วนจะเกี่ยวพันเหตุพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร หรือเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่ อยู่ระหว่างสอบสวน 
    จ.เชียงใหม่ พ.ต.ท.สุริยะฎิษ สุริยะธง​ สว.กก.สส.ภ.จ.เชียงใหม่ ในฐานะหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จ.เชียงใหม่ นำกำลังจับกุมนายสุ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี อยู่บ้านหมู่ 6 ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 10 มัด ประมาณ 20,000 เม็ด แจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย” 
    โดยก่อนการจับกุม ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมารับเอายาเสพติดในพื้นที่เชียงใหม่และลำเลียงออกไปสู่พื้นที่ใกล้เคียง จึงนำกำลังตำรวจมาซุ่มรอ กระทั่งพบรถกระบะต้องสงสัยลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งจอดอยู่ริมถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง ฝั่งขาเข้าเมืองก่อนถึงโชว์รูมโตโยต้า สาขาลำพูน จากนั้นคนร้ายได้ขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับรถสะกดรอยติดตาม พบว่า​รถกระบะคันดังกล่าวได้กลับรถที่ใต้สะพานต่างระดับเทคโนฯ หมู่บ้านครู จ.ลำพูน แล้วมุ่งหน้ากลับไปยัง จ.ลำพูน 
    จากนั้นได้จอดรถบริเวณริมถนนหน้าร้านแพร่ลาบขม ประมาณ 5 นาที แล้วขับรถออกมากลับรถที่แยกเหมืองง่า จ.ลำพูน มุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง ซึ่งมีพฤติการณ์​ต้องสงสัย พ.ต.ท.สุริยะฎิษจึงนำกำลังบางส่วนไปสกัดที่ด่านตรวจโควิด-19 ของ สภ.สารภี เพื่อทำการตรวจสอบ ต่อมาพบรถกระบะคันดังกล่าวมาถึงด่านจึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจสอบและตรวจค้น แต่ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวไม่ให้ความร่วมมือ ได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับรถติดตามไป และสังเกตเห็นผู้ขับขี่โยนสิ่งของบางอย่างออกจากตัวรถ จนกระทั่งรถกระบะคันดังกล่าวได้เสียหลักพลิกคว่ำไปอีกฝั่งถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ติดตามจึงได้เข้าจับกุมตัว พร้อมยึดของกลางยาบ้า จำนวน 10 มัด (ประมาณ 20,000 เม็ด).