แนะวิถีสุขภาพนิวนอร์มอล พร้อมรับมือฝุ่นและไวรัส


เพิ่มเพื่อน    

    เข้าสู่ฤดูหนาว อากาศเย็นๆ แบบนี้คงเป็นที่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็เป็นช่วงฤดูที่ฝุ่น PM 2.5 กลับมา พร้อมๆ กับไวรัสที่สามารถแพร่กระจายได้ทางอากาศ เมื่อเร็วๆ นี้ "ฟิลิปส์" ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ มีความห่วงใยต่อประชาชนคนไทย จึงได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจมาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพให้สามารถรับมือกับ “ฤดูฝุ่น” และ “ไวรัสที่สามารถแพร่กระจายในอากาศ” โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่ยิ่งต้องให้ความใส่ใจและดูแลเป็นพิเศษ
    รศ.แพทย์หญิงรวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลพระรามเก้า และเจ้าของเพจคุยกับหมอภูมิแพ้เด็ก by Dr.Mai กล่าวว่า “โดยปกติช่วงฤดูฝนจนเข้าสู่ฤดูหนาว เราจะพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจสูงขึ้น ซึ่งสาเหตุมาจากทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งที่น่าห่วงคือ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวอื่นๆ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงของโรคได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่แต่ในบ้านก็ตาม เพราะผู้ใหญ่ที่ต้องออกไปทำงานข้างนอกอาจนำเชื้อเข้ามาในบ้านได้ ผ่านทางเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ได้”


    ไวรัสที่แพร่กระจายทางอากาศมีอยู่หลายชนิด ที่เราคุ้นเคยกันดี คือ กลุ่มไวรัสและแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการไข้หวัดธรรมดาและไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ ไรโนไวรัส (Rhinovirus), อะดิโนไวรัส (Adenovirus), โคโรนาไวรัส (Coronavirus), อินฟลูเอนซา (Influenza) หรืออาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus) ส่วนกลุ่มแบคทีเรีย ได้แก่ สเตรปโตคอคคัส (Streptococcus), ไมโครพลาสมา (Mycoplasma) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเชื้อไวรัสในกลุ่ม MERS-CoV และ SARS-CoV ที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง
    “โรคทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสส่วนมากจะไม่มียารักษาโดยตรง แพทย์ต้องทำการรักษาตามอาการ เช่น หากมีไข้ก็ให้ยาลดไข้ หากมีอาการน้ำมูลไหล ไอ จาม ก็ให้ยาลดน้ำมูก แก้ไอ เท่านั้น ทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสมีโอกาสแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ     ดังนั้น คำแนะนำจากแพทย์ คือ ไม่ว่าจะป้องกันไวรัสชนิดไหนควรทำความสะอาดร่างกายทุกครั้งที่กลับจากนอกบ้าน ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ต้องทำความสะอาดร่างกายหรือล้างมือก่อนสัมผัสเด็ก หลีกเลี่ยงให้ผู้อื่นสัมผัสใกล้ชิดหรือกอดหอมเด็กนอกบ้าน และควรฝึกให้ลูกใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือเป็นประจำเมื่อเวลาออกนอกบ้าน  หมั่นทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ที่มาจากนอกบ้าน ทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ หากสงสัยว่ามีไข้ เป็นหวัดที่มีอาการรุนแรงให้รีบพบแพทย์ทันที” รศ.พญ.รวีรัตน์ อธิบายเพิ่มเติม
    “สำหรับโรคทางเดินหายใจอีกชนิด คือ โรคภูมิแพ้ ซึ่งมักพบอัตราการกำเริบและยอดผู้ป่วยสูงขึ้นในช่วงที่อากาศเย็นและมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย วิธีการดูแลสุขภาพเพื่อลดความรุนแรงของโรคนี้ สามารถทำได้โดยการปรับพฤติกรรมตัวเองด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามไม่เครียด และหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ก็จะช่วยให้อาการของโรคเกิดน้อยลงได้ หากมีอาการกำเริบมากควรมาพบแพทย์” รศ.พญ.รวีรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
    ด้าน นางสาวสิริวรรณ นิจกิจจาทร ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจ Personal Health บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฟิลิปส์" มีเครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier 4000i series และ Philips Air Purifier 2000i ทั้ง 2 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมจุดเด่นที่ระบบกรองอากาศอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ ได้รับการยืนยันว่าสามารถดักจับไวรัส H1N1 ที่แพร่กระจายในอากาศได้ และผ่านการทดสอบกับโคโรนาไวรัสแล้ว พร้อมป้องกันสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้าน ได้แก่ ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ เชื้อราภายในบ้าน ควันบุหรี่ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้ที่เว็บไซต์ www.philips.co.th หรือเฟซบุ๊กเพจ www.facebook.com/philipsthailand หรือติดต่อศูนย์ข้อมูลผู้บริโภคฟิลิปส์ โทร.0-2614-3340.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"