ฟังดูอาจจะงง ๆ"หมอยง"อธิบายความ "ประสิทธิภาพวัคซีน"ทำไมต้องรออีก 6เดือน - 1ปี จึงจะชัด 


เพิ่มเพื่อน    

18ม.ค.64- ศ.นพ.ยง ภูวรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า"วัคซีน covid 19 การวัดประสิทธิภาพของวัคซีน"ความว่า

ปกติการวัดประสิทธิภาพ ต้องใช้เวลานานเป็นปี แต่เนื่องจากเร่งรีบจึง ตั้งจุดมุ่งหมาย มีผู้ป่วยตามจำนวนที่ต้องการ แล้วนำมาเปรียบเทียบ ระหว่างกลุ่มที่ให้วัคซีน กับกลุ่มที่ให้วัคซีนหลอก หรือให้วัคซีนชนิดอื่น


เช่น วัคซีน Sinovac  ที่ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์เสี่ยงสูง ครั้งแรก จีนประกาศประสิทธิผล 78% นับจากผู้ป่วยมีอาการ ที่ ต้องการการรักษาขึ้นไป grade 3 (WHO)  และเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ในผู้ป่วยที่มีอาการตั้งแต่ปานกลางที่ต้องนอนโรงพยาบาล grade 4  (WHO) แต่การประเมินประสิทธิผลของบราซิลได้ 50.4 เปอร์เซ็นต์ ใช้รวมผู้ป่วยทั้งหมดที่มีอาการน้อยขึ้นไปตั้งแต่ไม่มีอาการ (asymptomatic) มีอาการแต่ไม่มาก และไม่ต้องการการรักษา จนถึงอาการมาก นับรวมทั้งหมด จากบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 9,200  คน มีผู้ป่วยทั้งหมด 225 คน เป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีน 85 คน เข้าใจว่าเกือบทั้งหมด มีอาการน้อย  ส่วนกลุ่มยาหลอก  167 คน มีทั้งที่ไม่นอนโรงพยาบาลและนอนโรงพยาบาล ตามการแบ่งขององค์การอนามัยโลกแล้วจะแบ่งระดับความรุนแรงเป็น 10 ระดับตั้งแต่ไม่มีการติดเชื้อเป็น 0 และถึงตาย  เป็น 10 ขึ้นอยู่กับการตัดระดับของประสิทธิภาพวัคซีน กับความรุนแรงอยู่ในระดับไหน


เช่นเดียวกันการศึกษาในประเทศตุรกีในประชากรทั่วไปจำนวน 7,371  แต่การศึกษายังไม่สิ้นสุด ประเมินผลเบื้องต้นจากประชากร 1,322 คน มีผู้ป่วย  29 คนเป็นกลุ่มวัคซีน 3 คนกลุ่มยาหลอก 26 คน จึงคำนวณประสิทธิภาพได้ค่อนข้างสูงถึง 91 เปอร์เซ็นต์ คงจะต้องรอจากการประเมินผลต่อไปประชากรที่ฉีดแล้ว อีกเป็นจำนวนมาก 


ทำนองเดียวกันของอินโดนีเซียที่ฉีดวัคซีนในประชากรทั่วไป ก็เป็นการรายงานเบื้องต้น จำนวน 1,600 คน มีผู้ป่วยเพียง 25 คน ทั้งอาการมากและอาการน้อย และเมื่อคำนวณการเปรียบเทียบ จึงได้ 65 เปอร์เซ็นต์ คงต้องรอไปอีกสักระยะหนึ่งรอให้การศึกษาสมบูรณ์


ดังนั้นการศึกษาทั้งหมดที่เราเห็นตัวเลขกัน ยังเป็นการศึกษาเบื้องต้น ในเกือบทุกบริษัท คงต้องรอต่อไป 6 เดือนหรือ 1 ปีข้างหน้าจึงจะทราบรายละเอียดทั้งหมด 


เนื่องจากโรคดังกล่าวระบาดและแพร่กระจายอย่างหนัก จึงรอให้การศึกษาเสร็จสมบูรณ์ไม่ได้ ก็ใช้รายงานการศึกษาเบื้องต้น มาขอขึ้นทะเบียนในภาวะฉุกเฉิน และเปรียบเทียบน้ำหนักของผลได้จากวัคซีน และการเกิดโรคที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยจะเน้นวัคซีนสามารถป้องกันความรุนแรงของโรคและลดอัตราการตาย ยังไม่ได้ประเมินอัตราการติดเชื้อ ป้องกันได้แค่ไหน 


ฟังดูก็คงจะงง ในรายละเอียดทั้งหมด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"