รัฐบาลอังกฤษกำลังพิจารณาขยายมาตรการควบคุมไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยจะบังคับให้ผู้เดินทางเข้าประเทศทุกคนต้องกักตัวในโรงแรม

    หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทม์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคมว่า รัฐบาลอังกฤษจะประกาศคำสั่งให้ผู้เดินทางเข้าอังกฤษทุกคนจะต้องกักตัวในโรงแรม รวมถึงต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบ โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์นี้ในเวลา 04.00 น.ตามเวลามาตรฐานสากล ทั้งนี้จากที่รัฐบาลอังกฤษยกเลิกข้อตกลง "ระเบียงการเดินทาง" ที่ยกเว้นบางประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 น้อย เมื่อเดินทางเข้าอังกฤษไม่ต้องกักตัว เนื่องจากมีการติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์เพิ่มขึ้นมากในหลายประเทศ

    ซันเดย์ไทม์รายงานด้วยว่า รัฐบาลอังกฤษมีแผนที่จะทำตามบางประเทศ เช่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่กำหนดให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศตนต้องกักตัว และจะต้องชำระค่าใช้จ่ายเอง, ใช้จีพีเอสติดตามตัวและเทคโนโลยีจดจำใบหน้า เพื่อใช้ตรวจสอบว่าบุคคลนั้นยังกักตัวอยู่จริง

    โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ให้สัมภาษณ์สถานีบีบีซีว่า เป็นเรื่องท้าทายถึงการปฏิบัติได้จริง แต่เราจำเป็นต้องใคร่ครวญเรื่องนี้อย่างระมัดระวังมาก และดูจากประสบการณ์ของประเทศอื่น โดยจะมีการตรวจสอบที่บ้าน, ตรวจสอบที่พรมแดน

    มาตรการบังคับผู้เดินทางเข้าอังกฤษทุกคนต้องกักตัวที่จะเริ่มใช้ในวันจันทร์ มีออกมาภายหลังรัฐบาลอังกฤษประกาศเมื่อวันศุกร์ ห้ามผู้เดินทางจากทวีปอเมริกาใต้และโปรตุเกสเข้าประเทศ เนื่องจากกลัวว่าจะนำไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กลายพันธุ์ที่พบในบราซิลเข้ามาในอังกฤษ ส่วนชาวอังกฤษที่เดินทางกลับจากอเมริกาใต้และโปรตุเกส จะต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และต้องกักตัว

    ขณะนี้ชาวอังกฤษอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ที่ให้ทุกคนอยู่บ้าน โดยให้ออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น เช่น ไปทำงาน,  ดูแลเด็ก และออกกำลังกาย

    อังกฤษกำลังมีโครงการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโรคนี้ รายงานเผยว่าผู้ใหญ่ชาวอังกฤษทุกคนน่าจะได้รับการฉีดวัคซีนภายในเดือนกันยายนปีนี้

    อังกฤษมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันเสาร์ในรอบ 24 ชั่วโมง 41,346 ราย และเสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่ม 1,295 ราย ขณะยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วสหราชอาณาจักรมีมากกว่า 3.36 ล้านราย เสียชีวิตแล้ว 88,747 ราย.