ศบค.เมินเคอร์ฟิวยํ้าคุมไวรัสอยู่


เพิ่มเพื่อน    


    ศบค.เผยพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 374 ราย เฉพาะสมุทรสาครกว่า 300 ราย "หมอทวีศิลป์" แจงตัวเลขสูงผลจากค้นหาเชิงรุกพื้นที่สีแดง มั่นใจคุมอยู่ไม่ต้องใช้เคอร์ฟิว "ผวจ.สมุทรสาคร" อาการดีขึ้น ไข้ลดลง รู้สึกตัวมากขึ้น "บิ๊กตู่" ลั่นไม่ยอมให้คนไทยฉีดวัคซีนที่มีความเสี่ยง "เชียงใหม่" สัญญาณดีไม่มีผู้ติดเชื้อ 5 วันแล้ว "ระยอง" เตรียมสุ่มตรวจต่างด้าว 8 พันคน พร้อมพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรีทุกค่าย 
    เมื่อวันที่ 17 มกราคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 374 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 364 ราย โดยมาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 321 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 118 ราย แรงงานต่างด้าว 193 รายที่ จ.สมุทรสาคร และมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 43 ราย นอกจากนี้มาจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 10 ราย ทำให้มียอดติดเชื้อสะสม 12,054  ราย หายป่วยสะสม 9,015 ราย อยู่ระหว่างรักษา 2,969 ราย  ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 70 ราย 
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า หากย้อนไปดูกราฟตั้งแต่วันที่ 15  ธ.ค.63 - 16 ม.ค.64 ช่วงแรกจะมีกราฟที่สูง จากนั้นค่อยๆ ลดลงและสูงขึ้นอีกจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชนที่เคยสูงถึง  729 ราย สรุปคือถ้าเราค้นหาเชิงรุกจะได้ยอดใหม่ที่สูงขึ้น  ขณะนี้เราดำเนินการอยู่ในจังหวัดพื้นที่สีแดง โดยเน้นที่ จ.สมุทรสาคร เพราะมีแรงงานต่างด้าวอยู่เป็นแสนคน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีอาการเนื่องจากเป็นคนหนุ่มสาว ศปม.ยืนยันว่าสามารถควบคุมได้ แต่เราจะไม่ใช้ยาแรงอย่างการประกาศเคอร์ฟิว แต่ขอร้องและขอความร่วมมือเพื่อให้ทางการเข้าไปค้นหาในเชิงรุก และเรามีแผนที่จะค้นหาเชิงรุกให้ได้มากขึ้น 
    โฆษก ศบค.กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ใน 61  จังหวัด ล่าสุดคือ จ.พัทลุง ที่มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย ซึ่งมาจากการค้นหาเชิงรุกในโรงงาน เป็นชาวลาวในร้านคาราโอเกะอยู่ระหว่างการรักษา กรณีนี้แสดงให้เห็นว่ามีอยู่ทุกที่ เราจะต้องตรวจสอบไทม์ไลน์ว่าติดเชื้อมาได้อย่างไร ขณะที่ใน  กทม.ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 ราย ในจำนวนนี้มีเด็ก 1 ขวบ  ซึ่งเรายังเจออยู่เรื่อยๆ และเริ่มเข้าไปอยู่ในครอบครัว 
    "ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กมีการหารือกับ กทม.ในกรณีที่มีการแจ้งไทม์ไลน์ของผู้ป่วย ด้านหนึ่งทำให้เกิดความตื่นตัว  แต่อีกด้านหนึ่งเมื่อทราบว่าบางรายมีการเดินทางเยอะก็ทำให้เกิดความตื่นตระหนก โดย กทม.ต้องร่วมกับกรมควบคุมโรคเพื่อฉายภาพการติดเชื้อที่กระจายในหลายๆ เขต มีมาตรการติดตามกำกับอย่างไร ส่วนสถานบันเทิงที่ยังเปิดเกินเวลา ขอให้ภาครัฐเข้มแข็ง เอกชนเข้มงวด ประชาชนต้องเคร่งครัด  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 50 ราย มี 10 จังหวัด จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสม 11-50 ราย มี 14 จังหวัด จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสม 1-10 ราย มี 37 จังหวัด และไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเลยมี 16 จังหวัด" โฆษก ศบค.กล่าว  
    นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม  94,950,848 คน เสียชีวิตสะสม 2,030,920 ราย อัตราการเสียชีวิตคิดเป็น 2.1% แต่ของไทยอัตราการเสียชีวิตยังไม่ถึง  1% ขณะที่สถานการณ์ของเพื่อนบ้าน คือมาเลเซียและเมียนมาที่มีผู้ติดเชื้อสะสมหลักแสน และมีการประกาศล็อกดาวน์  ของเราเพียงแค่หลักหมื่น ซึ่งห่างกับเขาสิบเท่าตัว จะดีหรือไม่ดี อนาคตจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับความร่วมมือของพวกเรา ส่วนจีนที่มีประชากรมากที่สุดในโลก แต่ป่วยในหลักหมื่นกว่าๆ ราย เขาทำได้ขนาดนี้ต้องใช้มาตรการมากมาย เราต้องเรียนรู้จากเขา แต่ไม่ได้ทำให้ตัวเลขเป็นศูนย์ ต้องดูที่ทรัพยากรของเราว่ายังรับได้ เพราะว่าเรายังคงมีการทำกิจกรรมเหมือนเดิม ต่อไปก็ต้องมีตัวเลขอยู่บ้าง เหมือนกับโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก วัณโรค ที่ไม่ต้องมารายงานทุกวัน แต่มีความรุนแรงของโรคถึงขั้นชีวิตเหมือนกัน แต่เราต้องคุมไม่ให้มีมากเกินไปกว่าทรัพยากรที่เรามีอยู่ ดังนั้นความกังวลใจ ความตื่นตระหนกต้องจัดสมดุลให้ดี  
ผวจ.สมุทรสาครดีขึ้น
    โฆษก ศบค.กล่าวว่า มีการประมาณการตัวเลขแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติหลัก คือ เมียนมา, กัมพูชา และลาว ที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายประมาณ 2.5 ล้านคน และไม่ถูกกฎหมายประมาณ 5 แสนคน ที่มีทั้งมีนายจ้างและไม่มีนายจ้าง จึงอาจจะเข้าไม่ถึงกระบวนการดูแลที่ดีพอ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงได้ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายซึ่งเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.63 ขอให้ไปขึ้นทะเบียนออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.-13 ก.พ.64  ขอแจ้งผู้เป็นเจ้าของแรงงานนำเข้าสู่ระบบโดยด่วน โดยจะอนุญาตให้อยู่ต่อไม่ต้องหลบหนี แต่ขอร้องไม่ต้องเอาเข้ามาเพิ่ม 
    ขณะที่ ศ.นพ.ประสิทธ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครว่า วันนี้ไข้ลดลงแล้วหลังจากให้ยาปฏิชีวนะ แต่คงค้างท่อช่วยหายใจอยู่ โดยค่อยๆ ถอยระดับออกซิเจนเพื่อฝึกให้หายใจด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันก็ดูดเสมหะออกเป็นครั้งคราว เพราะกำลังของปอดยังไม่มากพอที่จะไอขับเสมหะออกเองได้ 
    "เมื่อผู้ว่าฯ รู้สึกตัวมากขึ้นได้มีการแจ้งสถานการณ์ที่ จ.สมุทรสาครให้ทราบ เพื่อคลายความกังวล โดยเรียนว่าคุมสถานการณ์ได้แล้ว มีหลายหน่วยเข้าไปช่วยดูแล จะได้ไม่เครียด ทั้งนี้ยังได้ใช้การสื่อสารกับผู้ว่าฯ ด้วยการแจ้งให้ทราบ แล้วหากผู้ว่าฯ เห็นตรงกันให้ผงกศีรษะแทนการเขียน เพราะว่าในห้องไอซียูมีสายต่างๆ ระโยงระยาง และนอนเขียนก็ไม่สะดวก ส่วนของการทำงานอวัยวะอื่นๆ ดี ให้อาหารอย่างเต็มที่ทางสายยาง ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ดีและมีแนวโน้มดีขึ้น  ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการรักษาที่วางไว้" ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าว
    คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลกล่าวว่า ในวันที่ 18 ม.ค.ครบ 72 ชม. แต่ต้องประเมินแบบวันต่อวัน ไม่รีบในเรื่องของการรักษา และหากผู้ว่าฯ อาการดีขึ้นออกจากไอซียู ส่วนตัวอยากให้อยู่ศิริราชต่อเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เนื่องจาก รพ.มีทีมกายภาพบำบัด เพราะปกติของคนป่วยนานต้องนอนนานกล้ามเนื้อจะฝ่ออ่อนแรง ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวสักระยะหนึ่ง แต่เชื่อว่าเมื่ออาการดีขึ้นก็สามารถทำงานได้ด้วยการสื่อสารทางไกล
    วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก "ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​  Prayut​ Chan-o-cha" ระบุว่า​ ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับผลข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนโควิด-19  บางตัวเกิดขึ้นในบางประเทศ ซึ่งเราคงต้องรอฟังผลสรุปการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ หรืออาจเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น โรคประจำตัวบางอย่าง สภาพร่างกาย หรืออายุ รวมทั้งอัตราผลข้างเคียงนั้นอยู่ในระดับที่ยอมรับได้หรือไม่ นอกจากนั้นบางประเทศที่ต้องการเริ่มฉีดวัคซีนเร็ว มีการตัดสินใจใช้วัคซีน ที่อาจจะยังทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยไม่ครบถ้วน
    "สำหรับคนไทยผมตัดสินใจไม่รับความเสี่ยงแบบนั้น ผมไม่ยอมให้รีบร้อนฉีดวัคซีนที่ยังทดสอบไม่ครบถ้วน และไม่ยอมเป็นประเทศทดลอง ดังนั้นเพื่อความรอบคอบผมจึงมีนโยบายสำคัญ คือต้องมั่นใจก่อนว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย จึงจะนำมาใช้กับคนไทยได้ การตัดสินใจของผม และการบริหารจัดการเรื่องวัคซีนของประเทศแบบครบวงจร จะมีคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติคอยให้คำปรึกษาและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
    นายกฯ ระบุด้วยว่า ความสำเร็จในการยับยั้งการระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมาและในครั้งนี้ที่กำลังมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น เกิดจากความร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ทันที ด้วยตัวเอง คือการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมืออยู่เสมอ เว้นระยะห่างทางสังคมและหลีกเลี่ยงการรวมตัวกัน นอกจากนี้หากต้องการให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ ก็ต้องสแกน QR Code ไทยชนะทุกครั้ง และใช้แอปหมอชนะทุกคนก็จะดีมาก ตนขอให้ทุกคนร่วมมือกันต่อไป
ระยองเล็งตรวจเดลิเวอรี
    ที่ จ.เชียงใหม่ นายวีระพันธ์​ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เชียงใหม่​เริ่มมีสัญญาณดีต่อเนื่องหลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่ 5  แล้ว แต่ก็ไม่ควรประมาท​หรือวางใจจนการ์ด​ตก ยังต้องช่วยกันเฝ้าระวัง​ป้องกัน​การระบาดของโควิด-19 ต่อไป โดยกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงของผู้ติดเชื้อระลอกนี้กว่าพันคนมีสัญญาณที่ดีเพราะผลตรวจซ้ำก็เป็นลบ แต่ขอให้ทุกคนยังต้องกักตัวเพื่อดูอาการจนครบกำหนด 
    "ผู้ติดเชื้อทั้ง 23 รายในรอบนี้รักษาหายไปแล้ว 1 ราย  อีก 22 รายอยู่ระหว่างการดูแลของแพทย์​ ทุกคนมีอาการที่ดีต่อเนื่อง​ การตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงดำเนินการรวม​ 8,490 ราย ไม่พบติดเชื้อ​ แต่เพื่อความไม่ประมาทก็ยังคงเน้นย้ำในมาตรการเข้มงวดระดับสูงสุด ตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่​และ ศบค.​ซึ่งมีกำหนดจนถึงสิ้นเดือน ม.ค.นี้" รอง ผวจ.เชียงใหม่กล่าว
    ที่ จ.อำนาจเจริญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดของ จ.อำนาจเจริญ ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ โดยผู้ป่วยยืนยันระลอกใหม่ 2  ราย สะสม 4 ราย หายป่วย 4 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและพื้นที่ควบคุมตั้งแต่วันที่ 22  ธ.ค.63 - 16 ม.ค.64 รายใหม่ 34 ราย สะสม 12,122 ราย  
    ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รักษาหายเป็นรายที่ 2 ในวันที่ 17 ม.ค.64 เป็นเพศหญิง อายุ 26 ปี สัญญาชาติลาว มีอาชีพพนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านรัชดาฯ-ท่าพระ กทม. มีสามีเป็นชาวไทยบ้านอยู่ ต.หนองแก้ว อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ โดยติดเชื้อจากแขกที่มาทานอาหารร้านอาหาร ซึ่งติดเชื้อโควิดและเสียชีวิตรายที่ 62 ต่อมาเดินทางกลับบ้านสามี ที่ ต.หนองแก้ว อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เพื่อร่วมงานเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งผู้ป่วยมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ และมีเสมหะสีขาว จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหัวตะพาน  กระทั่งวันที่ 2 ม.ค. ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อโควิด-19 จึงทำการรักษาเรื่อยมาและมีอาการดีขึ้นตามลำดับ  กระทั่งรักษาหายดังกล่าว
    ที่ จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สสจ.ระยอง  แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันที่ 17 ม.ค.มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2 ราย รวม 564 ราย รักษาหายแล้ว 450  ราย จึงเหลือรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 113 คน โดยมีผู้เสียชีวิตเพียง 1 ราย โดยมีการค้นหาเชิงรุกไปแล้วทั้งหมด  17,107 คน 
    "ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันในการป้องกัน จนสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่อยู่ในหมู่บ้านมาบเหลาชะโอน ต.ชากพง อ.แกลง  ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ที่พบในคนขับรถตู้รายแรกในหมู่บ้าน ที่ไปร่วมงานหลายแห่งทั้งงานเลี้ยงและพบปะเพื่อนฝูงในหมู่บ้าน มีการนำรถพระราชทานตรวจเชื้อนิรภัยลงไปตรวจหาเชื้อเชิงรุกในหมู่บ้านจนพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 2 รายดังกล่าว" ผวจ.ระยองกล่าว
    ส่วน นพ.สุนทรกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่อาการยังทรงตัว แต่อยากขอร้องกลุ่มเสี่ยงที่รู้ตัวว่าได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อ ขอให้รีบเข้ามาตรวจหาเชื้อโดยเร็ว จะเป็นการช่วยป้องกันเชื้อแพร่กระจายออกไปในวงกว้าง และเตรียมสุ่มตรวจแรงงานต่างด้าวประมาณ 8,000 คน รวมทั้งพนักส่งอาหารเดลิเวอรีทุกค่าย โดยพร้อมส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจตามโรงงานต่างๆ เป็นการตรวจหาเชื้อให้ครอบคลุม สกัดการแพร่กระจายเชื้อในเชิงรุก
    ที่ จ.ปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยนายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอธัญบุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมระบบบริหารจัดการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลราชวิถี 2 (รังสิต) ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี ซึ่งศูนย์บริหารจัดการเตียงรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มีศักยภาพในการรองรับและรักษาผู้ป่วยติดเชื้อประมาณ 90 เตียง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"