สัญญาณการกลับมาชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองในปีนี้ของ "ม็อบสามนิ้ว" เริ่มมีให้เห็นกันแล้ว แม้การเคลื่อนไหวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ลานวิคตอรี่พอยท์ เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และบริเวณสามย่าน แถวๆ สามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ม.ค. โดยเฉพาะบริเวณสามย่าน ที่เกิดเหตุมีประทัดดังขึ้นระหว่างตำรวจตั้งแถวเตรียมควบคุมการชุมนุม
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นสัญญาณการเตรียมก่อตัวกลับมาเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมืองอีกรอบหากสถานการณ์มาถึง แม้การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะไม่ใช่การเคลื่อนไหวภายใต้การนำของกลุ่มคณะราษฎร 63-แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม แต่เป็นการเคลื่อนไหวโดยนัดรวมตัวกันผ่านโซเชียลมีเดีย โดยมีกลุ่มการ์ดปลดแอก หนึ่งในแนวร่วมสำคัญของม็อบราษฎรเป็นโต้โผ แต่ก็เชื่อได้ว่าเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง และประเด็นทางการเมืองเร่งเร้าให้มีการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมือง เช่น เมื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ที่ กมธ.วิสามัญฯ พิจารณาร่างของรัฐสภากำลังพิจารณากันอยู่ ซึ่งพิจารณาเสร็จและส่งให้รัฐสภาโหวตวาระ 2 และ 3 ที่หากมีสัญญาณว่าอาจมีการแก้ไข รธน.ไปในทางที่ไม่ตรงกับสิ่งที่แกนนำม็อบสามนิ้วต้องการ ก็ย่อมเป็นปัจจัยเร่งที่อาจทำให้แกนนำม็อบกลับมาเคลื่อนไหวนัดชุมนุมทางการเมืองอีกครั้งหากสถานการณ์เข้าทาง
เพียงแต่การกลับมาของม็อบสามนิ้วในอนาคต เชื่อได้ว่าแกนนำม็อบและผู้ให้การสนับสนุนอยู่ข้างหลังก็คงต้องคิดหนักถึงรูปแบบการเคลื่อนไหวว่าจะทำอย่างไร เพื่อดึงมวลชน-แนวร่วมให้กลับมาร่วมชุมนุมให้ได้มากที่สุดอีกครั้ง หลังการชุมนุมช่วงหลังของม็อบสามนิ้วเมื่อปลายปีที่แล้ว มวลชนหายไปเรื่อยๆ จนกระแสตกอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ย.2563 ซึ่งจุดสำคัญหากแกนนำม็อบสามนิ้วจะกลับมานัดชุมนุมกันในปีนี้ สิ่งที่แกนนำและผู้ให้การสนับสนุนอยู่ข้างหลังคงต้องคิดกันหนัก ก็คือเรื่อง
"ประเด็นการเคลื่อนไหว-ข้อเรียกร้อง"
เพราะหากยังคงใช้ประเด็นการเรียกร้องเดิมๆ เช่น ให้บิ๊กตู่ลาออก หรือปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็เป็นเรื่องเก่าแล้ว แนวร่วมอาจไม่ให้ความสนใจเหมือนเดิม
ผลก็คือ หากมีการนัดชุมนุมจะทำให้คนที่มาร่วมกิจกรรมไม่มากเท่าที่ควร จะกลายเป็นมุกแป้กได้ ครั้นจะเคลื่อนไหวแบบเป็นจุดๆ นัดรวมตัวกันตามสถานที่ต่างๆ หรือเคลื่อนไหวเป็นรายประเด็นแบบที่ "กลุ่ม WeVo" ทำในช่วงตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ ก็จะไปเดินซ้ำเส้นทางกัน อีกทั้งอิมแพ็กที่จะออกมาก็คงมีไม่มากเท่าที่ควร
แต่ครั้นหากจะเคลื่อนไหวแบบเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. ที่กลุ่มคณะราษฎรได้นำธงชาติลงมาจากยอดเสาธงหน้า สภ.คลองหลวง แล้วนำป้ายผ้าสีแดงมีเครื่องหมาย 112 สีขาวชักขึ้นสู่ยอดเสาแทน
ก็เป็นการเคลื่อนไหวแบบทำเพื่อความสนุก-สะใจในกลุ่มแนวร่วม แต่ในภาพใหญ่ ประชาชนจำนวนมากก็คงไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าเป็น "การกระทำที่ไม่สมเหตุสมผล-ขาดวุฒิภาวะ" และไม่เกี่ยวกับประเด็นข้อเรียกร้องของม็อบสามนิ้วในช่วงก่อนหน้านี้ใดๆ เลย ผลก็อาจทำให้แนวร่วมจำนวนไม่น้อยที่เฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวอยู่ คงไม่พร้อมสนับสนุนการเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้วหากมีการนัดชุมนุมหลังจากนี้
แต่ก็เชื่อว่าหนึ่งในประเด็นที่จะมีการเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้วหลังจากนี้ ที่น่าจะเป็นประเด็นหลักเรื่องหนึ่งก็คือ การเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์เพื่อเรียกร้องให้มี "การแก้ไขและยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112" ซึ่งประเด็นดังกล่าวคือประเด็นที่กลุ่มม็อบสามนิ้วและนักวิชาการที่เป็นแนวร่วมได้เคลื่อนไหวในช่วงท้ายๆ ปี 2563
จึงคาดว่าเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 จะเป็นหนึ่งในประเด็นหลักของกลุ่มม็อบสามนิ้วและแนวร่วมที่จะกลับมาเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังจากนี้ และแน่นอนว่าจะเป็นประเด็นที่ทำให้คนในสังคมถกเถียงกันแบบเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย จนอาจนำมาซึ่งความขัดแย้งทางความคิดรอบใหม่ของคนในสังคมอีกครั้งแบบปีที่ผ่านมา.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |