สโลว์ไลฟ์ ‘เชียงคาน’ วัดใจ ‘สกายวอล์ก’ แลนด์มาร์คเมืองเลยเสน่ห์ที่ไม่เคยจาง


เพิ่มเพื่อน    

   ลมหนาวที่มาพร้อมกับสายหมอกเป็นละอองเย็นๆ มักจะเป็นบรรยากาศที่อยู่คู่กับเมืองเชียงคานมาโดยตลอด ยิ่งช่วงปลายปีของทุกปี นักท่องเที่ยวมักจะแห่แหนกันไปใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์กันอย่างไม่ขาดสาย...

   อาทิตย์เอกเขนก ฉบับนี้ จะพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของเมืองเชียงคานอย่าง จังหวัดเลย ที่ไม่ได้มีดีแต่เชียงคานเท่านั้น เพราะล่าสุดก็ผุดสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ มาอีกเพียบ พร้อมกับยังไปแวะชิม ช็อป ชิล ในจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย โดยการเดินทางครั้งนี้ได้ร่วมไปกับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ที่ภารกิจสำคัญคือการลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชนกลุ่มสมาคมชาวไร่อ้อยที่ราบสูง จังหวัดเลย และตรวจเยี่ยมโรงงานน้ำตาลมิตรภูหลวง อ.วังสะพุง

   ซึ่งในการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับข้อเสนอแนะจากชาวไร่อ้อยมาพอสมควร ซึ่งต้องการให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแลระบบอ้อยน้ำตาล เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมให้สามารถพัฒนาต่อไปได้ และหลังจากที่ทำการศึกษาดูงาน พบปะพูดคุย ฯลฯ กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาไปแวะเยี่ยมชมเก็บบรรยากาศตามโปรแกรมการเดินทาง โดยสิ่งที่อยากจะเริ่มแนะนำก็คือร้านอาหาร มาดามพาเท่ห์ 2515 ที่ตั้งอยู่อำเภอเมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีแนวผสมผสานทั้งเวียดนาม ฝรั่งเศส และไทย พร้อมเสิร์ฟอาหารมาในรูปแบบที่แปลกใหม่สร้างอรรถรสในการทานให้เพิ่มมากขึ้น

   หลังจากท้องอิ่มก็เดินทางสู่เชียงคาน ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งที่อยู่ทางเหนือของจังหวัดเลย มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเลย ที่แต่ละปีจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาได้มากมาย โดยจุดไฮไลต์สำคัญคือการพักโฮมสเตย์ เดินถนนคนเดิน และใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายตามวิถีของชาวบ้านแถวนั้น แนวถนนจะมีบ้านไม้ยุคเก่าที่เรียงรายติดกันอยู่ริมถนนชายแม่น้ำโขง แซมด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรมหรือโฮมสเตย์ที่มีการตกแต่งเหมาะสมกับพื้นที่อย่างมาก

   ยามเย็นพ่อค้าแม่ขายก็จะทยอยมาตั้งร้านบนถนนคนเดินกลางเมือง หรือถนนศรีเชียงคาน มีสินค้า อาหาร ของใช้ ของฝากให้เลือกซื้อกันมากมาย โดยของที่จะเห็นขายกันอยู่ทั่วไปที่ขาดไม่ได้คือปู กุ้ง และหอยปิ้ง พอสอบถามก็ได้ความมาว่าเป็นปูและกุ้งน้ำจืดที่ได้จากแม่น้ำโขงไม่ใช่อาหาที่มาจากทะเล ตัวเล็กตัวน้อยก็เสียบไม้เรียงราย ปิ้งให้มีความหอม ความกรอบ พร้อมราดด้วยน้ำจิ้มสูตรเด็ดของแต่ละร้าน หาทานไม่ได้ทั่วไปจนอดใจไม่ไหวก็ซื้อมาลองอยู่หลายไม้

อีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้ แถมยังเป็นของฝากขึ้นชื่อก็คือมะพร้าวแก้ว ที่คัดสรรเลือกมะพร้าวอ่อนนำไปผัดกับน้ำตาลมะพร้าวหอมๆ จนความหวานผสมเข้าไปในเนื้อ โรยด้วยงาคั่ว เพิ่มความหอมมันขึ้นไปอีก มีให้เลือกหลายร้านมาก รสชาติใกล้เคียงกัน แล้วแต่การตัดสินใจซื้อ และกลยุทธ์วีธีการขายของแม่ค้าแต่ละร้าน จนได้กลับมาฝากคนที่กรุงเทพฯ อยู่หลายกล่อง

หลังจากเดินช็อป ชิม ใช้ (เงิน) ในถนนคนเดินแล้ว ก็เข้าพักผ่อนในโฮมสเตย์ริมน้ำโขงที่แต่ละแห่งจะมีห้องพักไม่เยอะมาก มีความเป็นส่วนตัวและมีสไตล์เข้ากับบรรยากาศ ซึ่งการไปครั้งนี้ได้บอกลาค่ำคืนไปพร้อมกับอากาศเย็นๆ ช่วงปลายปี ที่แทบจะไม่ต้องเปิดแอร์นอนก็ยังได้....

ตื่นเช้ามารับรับบรรยากาศที่เชื่อว่าไม่ได้เจอในกรุงเทพฯ แน่นอน ที่แค่เปิดหน้าต่างหลังห้องออกไปก็ได้รับการต้อนรับจากไอเย็นและสายหมอก พร้อมที่จะตีกระทบเข้ามาทำให้เกิดความสดชื่นยามเช้าได้อย่างดี ทำให้พร้อมลุยกับเช้าวันที่สดใส โดยเริ่มต้นวันด้วยการตักบาตรข้าวเหนียว ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาช้านาน สายหน่อยไปหาของอร่อยๆ ทาน โดยร้านที่อยากแนะนำคือร้านลุกโภชนา ถนนศรีเชียงคานซอย 9 ที่รสชาติอาหารเช้าทั้งข้าวเปียก โจ๊ก ไข่กระทะ ขนมจีบ ซาลาเปา อร่อยจนต้องกินไปหลายอย่าง เหมาะกับการเป็นอาหารมื้อแรกของวันได้อย่างดี

   พร้อมออกสตาร์ทไปยังจุดหมายถัดไป นั่นก็คือสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมืองเลย นั่นก็คือ สกายวอล์ก ที่เป็นทางเดินกระจกใสยื่นจากหน้าผาออกไปในแม่น้ำโขง เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร กว้าง 2 เมตร และสูงห่างจากแม่น้ำโขงถึง 80 เมตร เรียกความตื่นเต้นได้อย่างดี โดยนักท่องเที่ยวที่ไปนั้นจะต้องนั่งรถของที่พื้นที่จัดไว้ให้โดยมีค่าบริการแบบเหมาไปกลับ และต้องปฏิบัติตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัด โดยสกายวอล์กนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปเป็นกลุ่ม โดยสวมรองเท้ากันลื่นและไม่สร้างความเสียหายให้กับกระจก

   ต้องยอมรับว่าสถานที่เที่ยวแห่งใหม่นี้สร้างปรากฏการณ์ท่องเที่ยวเมืองเลยขึ้นมาได้อย่างดี เพราะหลายคนต่างแห่แหนกันไปเข้าชมและสัมผัสความตื่นเต้นนี้กันอย่างไม่ขาดสาย ใครกลัวความสูงก็ต้องพิจารณาว่าจะทนไหวหรือเปล่า เพราะทางเดินทั้งหมดนั้นเป็นพื้นกระจกที่เรามองเห็นทะลุลงไปข้างล่าง แต่ทางพื้นที่การันตีความแข็งแรงและปลอดภัยแน่นอน

   จบจากวัดความกล้ามาแล้วก็ถึงเวลาอาหารเที่ยง โดยได้เดินทางไปอีกหนึ่งจังหวัดใกล้เคียงคือหนองคาย ไปชิมรสชาติแหนมเนืองร้านขึ้นชื่อที่อยู่ตรงใกล้กับตลาดท่าเสด็จ แหล่งช็อปปิ้งขึ้นชื่อที่มีทั้งความสวยงามและของใช้มากมาย โดยร้านอาหารที่ไปคือ แดง แหนมเนือง ร้านแหนมเนืองที่เปิดมานานกว่า 50 ปี รสชาติอาหารถูกปากคนไทยจนหลายคนบอกต่อๆ กัน ทำให้เป็นอีกหนึ่งร้านที่ต้องไปลองให้ได้เมื่อผ่านไปจังหวัดหนองคาย

   จบมื้ออาหารอย่างอิ่มอร่อย คงต้องร่ำลาการเดินทางครั้งนี้ไปเพียงเท่านั้น ปิดท้ายด้วยเดินชมริมโขง และถ่ายรูปกับความสวยงามและอลังการของลานพญานาคคู่ แลนด์มาร์คของเมืองหนองคาย ที่ตั้งอยู่หน้าวัดลำดวน ติดกับตลาดท่าเสด็จ เป็นลานวัฒนธรรมที่ใช้ในงานต่างๆ ที่มีความยิ่งใหญ่ตระการตาเป็นอย่างมา ใครผ่านไปแถวนั้นก็ต้องแวะถ่ายรูปให้ได้ ยืนยันว่าจะได้ภาพที่สวยงามกลับมาอย่างแน่นอน

   ...แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ยาวนานมาก แต่การเดินทางครั้งนี้ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และความประทับใจมาไม่น้อย สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเลย หนองคาย และอุดรธานีที่ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวนั้น เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งจากทั้งหมดที่มีอยู่ และหลายที่ยังรอให้นักท่องเที่ยวที่อยากไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ แม้ปัจจุบันอาจจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอ เมืองไทยก็จะสามารถกลับมาท่องเที่ยวได้อีกครั้ง และถึงเวลานั้นก็อยากให้ผู้ที่มีใจรักในการท่องเที่ยว ได้ลองไปสัมผัสกับบรรยากาศที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ด้วยตัวคุณเอง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"