“ดวงตา” หน้าต่างของหัวใจ อ่านได้แม้ภายใต้หน้ากาก


เพิ่มเพื่อน    

 

      เมื่อดวงตาเป็นสิ่งที่สะท้อนความรู้สึกนึกคิดและจิตวิญญาณ งานนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายจึงเผยให้ทราบถึงวิธีอ่านท่าทางของใบหน้าผ่านสายตา ขณะที่คุณกำลังใส่หน้ากาก ไม่ว่าจะเป็นการกะพริบตาถี่, โกรธและรูปคิ้วโก่งเหนือดวงตาที่สะท้อนแรงดึงดูดทางเพศ

      รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากาย ได้จัดทำคู่มือการอ่านการแสดงออกถึงสีหน้าของผู้คน โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาใส่หน้ากากอยู่ ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ได้ระบุว่า คนอังกฤษร้อยละ 76 มักจะชอบใส่หน้ากากอนามัยอ่านหนังสือ นั่นจึงทำให้ผู้พบเห็นนั้นเข้าใจผิดเกี่ยวกับการแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขา

      ด้าน “จูดี เจมส์” ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายและบุคลิกภาพทางทีวี บอกว่า “วิธีสังเกตความจริงใจให้ดูที่รอยยิ้มที่มาจากดวงตา หรือตาต้องยิ้มด้วย และมีรอยบุ๋มที่มุมปากไปจนถึงแก้มขณะยิ้ม ซึ่งบ่งบอกถึงการมีความสุขในการยิ้มที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้า”

      ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายคนเดิมบอกว่า “จากการศึกษาในผู้ใหญ่จำนวน 2,000 คน เกี่ยวกับการแสดงออกทางสายตานั้น สามารถบ่งชี้ได้ว่ามนุษย์ทุกคนใช้วิธีการแสดงออกทางสีหน้าเพื่อสื่อสารทางสังคม ไม่เว้นแม้แต่ในที่ทำงาน และสื่อสารด้วยการแสดงสีหน้าท่าทางมาเป็นระยะเวลานานหลายปี และปากก็ถือเป็นอวัยวะที่ได้รับการยอมรับเกี่ยวกับการแสดงออกและบอกความรู้สึกต่างๆ เพราะอย่าลืมว่าเราต้องอาศัยการขยับริมฝีปากให้กว้างขึ้นเพื่อพูดคุยหรือสื่อสารกับผู้อื่น ไม่ว่าจะพูดกันมากขึ้นหรือสื่อสารกันเพียงถ้อยคำสั้นๆ ก็ตามที แต่การที่เราใส่หน้ากากอนามัยนั้นไม่เพียงทำให้เราสื่อสารกันยากขึ้น แต่ยังสามารถสังเกตบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลผ่านริมฝีปากได้ลำบากเช่นเดียวกัน”

      แต่ข่าวดีกว่าการสื่อสารด้วยปากคือ การสื่อสารผ่านดวงตาที่สามารถบอกความรู้สึก แต่ขณะเดียวกันก็สามารถอ่านคำพูดของอีกฝ่ายหนึ่งได้ไม่ยาก นั่นเป็นเพราะว่าดวงตานั้นจะสะท้อนถึงความมั่นคง หนักแน่น และความซื่อสัตย์ ดังนั้นจึงเป็นอวัยวะที่สื่ออารมณ์และสะท้อนอารมณ์ที่แต่ละคนกำลังประสบอยู่เช่นเดียวกัน

      1.สายตาที่เปล่งประกาย

        สายตาที่เปล่งประกายนั้นสามารถสะท้อนอารมณ์ และความรู้สึกของคุณได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอารมณ์ขัน ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่พบเห็น แม้ว่าขณะนั้นดวงตาของคุณจะเริ่มหยีลงขณะที่คุณกำลังยิ้มพิมพ์ใจอยู่ ในขณะที่คิ้วของคุณจะกระตุกขึ้นลงเพียงเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งการแสดงออกทางสายตาดังกล่าวนั้นจะเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันเพียงชั่วคราวกับผู้อื่น รวมถึงคนแปลกหน้า แต่ทว่าสายตาที่เปล่งประกายนั้นจะมีประโยชน์ในแง่ของการเข้าสังคม เช่น เวลาที่คุณไปปาร์ตี้ในคลับบาร์ต่างๆ เพราะสายตาดังกล่าวสะท้อนถึงความเจ้าชู้ และยังบอกให้คนอื่นรู้ว่า “ฉันชอบในสิ่งที่ฉันเห็น”

      2.ไม่ชอบ/ไม่พอใจ

        เมื่อเราไม่ชอบอะไรบางอย่าง เรามักจะเลียนแบบพฤติกรรมของเด็กเล็กๆ ที่ปฏิเสธการกินอาหาร หรือกินข้าว ซึ่งเกี่ยวกับการขมวดคิ้วและทำให้ดวงตาของเด็กๆ หรี่เล็กลง อีกทั้งจมูกของเด็กจะย่นลง นี่เป็นเพียงพฤติกรรมการแสดงออกซึ่งสีหน้าท่าทางที่เชื่อมโยงกับการตอบสนอง เมื่อเด็กๆ ต้องเอาตัวรอดจากการไม่อยากกินอาหาร และเมื่อเด็กๆ ได้กลิ่นอาหารที่ไม่ชอบก็จะไม่อยากอ้าปากกินข้าว และต้องการที่จะหลับตาโดยทันที รวมถึงพวกเขาก็มักจะสั่นศีรษะร่วมด้วยหากไม่อยากกินอาหาร

      3.รัก/ดึงดูด/ชอบ           

        การแสดงออกทางสายตาของเรามักจะอ่อนลงเมื่อเราเห็นคนที่เราชอบ และมันกลายเป็นความรัก เมื่อเราจ้องมองคนที่เราชอบ นอกจากนี้เราก็มักจะเอ่ยคำพูดที่ดูดีและชื่นชมอีกฝ่ายผ่านสายตาของเรา ทั้งนี้การขยายความรู้สึกผ่านดวงตานั้นเป็นการตอบสนองทางสรีรวิทยา เมื่อเราเห็นคนที่เราชอบหรือคนที่เรารัก ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และไม่สามารถควบคุมมันได้ ซึ่งถือว่าเป็นการบอกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภาษากายก็ว่าได้

      4.ความกลัว

        ความกลัวสามารถแสดงออกผ่านทางสายตาได้ และมนุษย์เราก็มักจะไม่กล้าสบตาผู้อื่นหรือสบตาน้อยลงเมื่อต้องเผชิญหน้า

        5.เซอร์ไพรส์/ช็อก

        นี่เป็นการแสดงออกทางสายตาอีกแบบหนึ่งที่เป็นสัญญาณเตือนจากการตอบสนองของการอยู่รอด เนื่องจากดวงตาของเราจะขยายกว้างขึ้น จะช่วยให้มองเห็นได้ดีขึ้นในระหว่างที่เรากำลังรู้สึกประหลาดใจ และคิ้วของคุณจะยกขึ้นเป็นเส้นโค้ง รวมทั้งตาจะเบิกกว้างขึ้น กระทั่งมองเห็นลูกตาที่ขาวโพลน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"