'เพื่อไทย'ย้ำเงินเยียวยา3,500บาท2เดือนไม่เพียงพอชี้แนะงบไม่พอให้ไปหั่นค่าซื้ออาวุธ


เพิ่มเพื่อน    

 

17 ม.ค. 2564 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส. หนองคาย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลโดย พลเอกประยุทธ์ จะออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนในการระบาดของไวรัสโควิดรอบใหม่ตามที่ได้ประกาศออกมาแล้วแต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดครบถ้วน โดยจะประกาศอย่างเป็นทางการหลังประชุม ครม. ในวันที่ 19 มกราคมนี้ อยากให้พลเอกประยุทธ์ได้คิดให้ครบกรอบ อย่าได้คิดครึ่งๆกลางๆแล้วต้องมาตามแก้ หรือ ที่ถูกล้อเลียนว่าเป็นนโยบาย ทราบแล้วเปลี่ยน คือประกาศแล้วต้องมาเปลี่ยนตลอด ทำความสับสนและเพิ่มความลำบากให้กับประชาชนมากขึ้น และยิ่งตอกย้ำความล้มเหลวในการบริหารประเทศ

อยากให้พิจารณาว่าการเยียวยา 3,500 บาท 2 เดือน ไม่น่าจะเพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชนได้ เพราะเฉลี่ยแล้วเหลือเพียงวันละ 117 บาทเท่านั้น คราวที่แล้วเบากว่านี้ยังได้ เดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน ซึ่งประชาชนก็ยังไม่พอเลี้ยงชีพอีกทั้งหนี้ได้เพิ่มขึ้นอีกมาก อีกทั้ง สถานการณ์การระบาดของไวรัสอาจจะยืดเยื้อกว่าคราวที่แล้ว ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้เยียวยาตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอแล้วคือ 5,000 บาท 3 เดือน โดยต้องแจกประชาชนที่ลำบากให้ทั่วถึง และ 6,000 บาท 3 เดือน สำหรับ 5 จังหวัดที่ควบคุมเข้มข้น โดยเชื่อว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอจะจ่ายอยู่แล้ว จากเงินช่วยเหลือคราวที่แล้ว 1 ล้านล้านบาท ยังคงเหลืออีกเกือบ 5 แสนล้านบาท และ งบประมาณปีนี้ตั้งเงินช่วยเหลือไว้อีก 1.3 แสนล้านบาท รวมแล้ว กว่า 6 แสนล้านบาท และถ้าจำเป็นต้องใช้เพิ่ม ก็ควรจะไปตัดจากงบทางทหารที่ไม่จำเป็นออกไปเลย โดยเฉพาะ งบประมาณการซื้ออาวุธที่ยังมีอยู่มากมาย รวมถึง งบซื้อเรือดำน้ำ ด้วย แล้วนำเงินมาช่วยประชาชนจะดีกว่า

นายกฤษฎากล่าวว่า การช่วยเหลือ ธุรกิจ SMEs อยากขอให้มีแผนงานชัดเจน และต้องมีปริมาณเงินที่เพียงพอด้วย เพราะธุรกิจ SMEs เดือดร้อนกันอย่างหนัก หากไม่ช่วยเหลือหรือช่วยเหลือไม่เพียงพอ ช่วยแบบเสียไม่ได้ จะไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจ SMEs จำเป็นต้องเลิกกิจการเป็นจำนวนมากตามข่าวที่ปรากฏเกือบทุกวัน และจะทำให้เกิดการว่างงานเพิ่มขึ้น ประชาชนจำนวนมากจะเดือดร้อนหนัก และอาจจะมีอาชญากรรมตามมาอีกมาก จึงอยากให้รัฐบาลได้คิดให้ครบกรอบ และ อยากให้คิดแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการเยียวยา และการป้องกันไวรัสโควิดด้วย เพราะจากการระบาดของไวรัสครั้งใหม่นี้ เศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะฟื้นก็อาจจะไม่ฟื้นเลยก็เป็นได้ มีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจไทยอาจจะไม่เติบโตเลยหลังจากปีที่แล้วที่เศรษฐกิจไทยติดลบหนัก หรือ ถึงจะโตได้ก็ต่ำมากๆ ประมาณ 1-2% เท่านั้น แถมยังอาจจะมีโอกาสติดลบต่อได้อีกถ้าการควบคุมการระบาดของไวรัสรอบใหม่ไม่ดีพอ โดยการระบาดครั้งใหม่นี้เกิดมาจากระบบที่หละหลวมของรัฐบาลที่ปล่อยให้มี การลักลอบเปิดบ่อนการพนันกันทั่วไป และ การลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเถื่อนเข้ามาในประเทศ ซึ่งเชื่อได้ว่าน่าจะมีระบบอุปถัมภ์ของคนในรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่าให้ประชาชนต้องมารับเคราะห์ที่ต้องได้รับความลำบากจากความผิดพลาดของรัฐบาลแต่กลับเยียวยาไม่เต็มที่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนโกรธแค้นและจะออกมาขับไล่รัฐบาลกันมากขึ้นอีกหลังการระบาดสิ้นสุด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"