11 พ.ค.61 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.อ.นที จันทรา พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้ควบคุมตัวนายทาเครุ ฮิราโนะ (TAKERU HIRANO) อายุ 27 ปี ลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่น สัญชาติญี่ปุ่น  ผู้ต้องหาคดีครอบครองซองกระสุนปืน ชิ้นส่วนทุ่นระเบิดสังหาร (เคลโม) และตัวจุดระเบิด ซึ่งถูกจับที่อาคารผู้โดยสารขาออก สนามบินดอนเมือง มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22 พ.ค. นี้ เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานอีก 3 ปาก พร้อมทั้งรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางและลายพิมพ์นิ้วมือ กับประวัติต้องโทษ โดยการฝากขังครั้งนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการให้ประกันตัว

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2561 เวลาประมาณ 11.00 น. ตำรวจ สน.ดอนเมือง จับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง 6 รายการ ประกอบด้วยทุ่นระเบิด M.18 A.1 (เคลโมไม่มีดินระเบิด), ตัวจุดระเบิดเคลโม, ซองกระสุนขนาด 5.56 มม. (M 16) แบบยาว 1 อัน, ซองกระสุนปืนขนาด 5.56 มม.แบบสั้น 13 อัน, ซองกระสุนปืนขนาด 7.62 มม.(อาก้า) 8 อัน และซองกระสุนปืนขนาด .50 นิ้ว ซึ่งซองกระสุนทั้งหมดไม่มีสปริง ราคารวมทั้งหมด 4,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหาได้นำของกลางทั้งหมดใส่ในถุงพลาสติกสีดำ แพ็คใส่กล่อง 1 ใบ นำมาผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ ของสายการบินแอร์เอเชียเพื่อจะนำออกไปจากประเทศไทย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบก่อน

โดยผู้ต้องหาแจ้งว่าซื้อของกลางทั้งหมดมาจากประเทศเวียดนาม แล้วนำเข้ามาซึ่งกำลังจะนำกลับไปประเทศญี่ปุ่น พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และมีไว้ในครอบครอง โดยนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งยุทธภัณฑ์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 55, 78 และ พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 15, 42  โดยในชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เหตุเกิดที่บริเวณจุดตรวจอาคารผู้โดยสารขาออก อาคาร 1 ภายในสนามบินดอนเมือง แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. 

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขัง

ต่อมาภายหลังสิ้นสุดเวลายื่นคำร้องขอประกันตัว 15.30 น. แล้ว ไม่ปรากฏว่ามีบุคคลใดมายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว นายทาเครุ ฮิราโนะ ผู้ต้องหาคดีครอบครอบทุ่นระเบิดเคลโม-ซองกระสุนปืนเอ็ม 16 และอาก้า แต่อย่างใด ดังนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ก็เตรียมนำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างฝากขังต่อไป.