11 พ.ค.61 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บังคับบัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุรวชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร.  พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์  ร่วมกันแถลงการจับกุม นายแซ็ก นายโอ๋ (สงวนชื่อนามสกุลจริง) พร้อมพวกอีก 4 คน เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้า 10 ล้านเม็ด ไอซ์ 398 กิโลกรัม รถยนต์4คัน และอาวุธปืน2กระบอก

พล.ต.อ.จักรทิพย์ เผยว่า กองบังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 ทำการสืบสวนจับกุมขบวนการดังกล่าวที่มีหน้าที่ลำเลียงได้รับค่าจ้างตั้งแต่ 60,000-300,000 บาท  ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มของนายแซ็ก และนายโอ๋มากว่า 4 เดือนแล้ว โดยเฉพาะนายแซ็ก พึ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำมาคดีค้ายาเสพติด ลักลอบจำหน่วยยาเสพติดให้กับกลุ่มผู้เสพย่านจอมทอง  กระทั่งวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 23.00 น.กลุ่มผู้ต้องหาได้นำรถยนต์จำนวน 4 คัน ขับมุ่งหน้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และขับกลับเข้ามากรุงเทพมหานคร จนกระทั่งพบรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต เบเซอร์ ทะเบียน 5 กพ 3774 กรุงเทพ (ป้ายปลอม) และพบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ขับแยกตัวออกมาและเลี้ยวเข้ามาในซอยอินทามระ 36 เจ้าหน้าที่พบพิรุธ จึงแสดงตัวขอตรวจค้นและพบของกลางดังกล่าว ทั้งนี้คาดว่าปลายทางจะขนลงไปทางใต้

จากการตรวจพบว่าเป็นยาเสพติดของกลุ่มหว้าเหนือ โดยใช้พื้นที่ภาคกลาง เช่น พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี เป็นที่พักยาเสพติด เชื่อว่าของกลางที่ยึดมาครั้งนี้เป็นการทะยอยขนมาให้ได้จำนวนมากเพื่อที่จะเตรียมขนไปทางใต้ คาดว่ายังมีของกลางบางส่วนเล็ดลอดไปต่างประเทศ การจับกุมครั้งนี้ มูลค่านับ 1,000 ล้านบาท

ผบ.ตร. กล่าวว่าการจับกุม6ผู้ต้องหา แม้ว่าจะเป็นเพียงคนขนลำเลียงยา แต่เจ้าหน้าที่มีข้อมูลของคนสั่งการหมดแล้ว  เป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนรายละเอียดอื่นๆเป็นเรื่องในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้ เบื้องต้น ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการแต่ละภาคเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการป้องกัน ตรวจค้น สืบสวนจับกุม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง เป็นจุดพักยา ต้องมีการป้องกันปราบปราบเข้มข้น ที่ผ่านมาก็ดำเนินการมาโดยตลอด ครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมครั้งใหญ่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดเพื่อสืบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.