"บิ๊กตู่" แบะท่าศึกษาบ่อนพนันถูกกฎหมาย โยนสังคมถกหาทางออก "วิษณุ" เชื่อ คกก.ตรวจสอบบ่อน-แรงงานสร้างความเชื่อมั่นให้ ปชช.ได้ระดับหนึ่ง "โฆษก ตร." ฟุ้งผลสอบบ่อนภาคตะวันออกสาวถึงเจ้าของบ่อนตัวจริง รอหลักฐานชัดฟันไม่เลี้ยง "ผบช.ภ.1" เด้ง 5 เสือโรงพักบางบัวทอง เซ่นบ่อนไพ่เสือมังกร

    เมื่อวันที่ 15 ม.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงปัญหาบ่อนการพนันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้พูดถึงเรื่องบ่อนการพนันว่าอย่าเล่นเลย พร้อมให้นโยบายว่าเรื่องบ่อนในประเทศไทยนั้นคงต้องมาหารือกันว่าการจะมีบ่อนถูกกฎหมายเป็นไปได้หรือไม่ ขัดศีลธรรมหรือไม่
    "คนบางกลุ่มยอมรับ แต่บางกลุ่มยังไม่ยอมรับ สังคมต้องพูดคุยกันในประเด็นนี้ เดี๋ยวคงจะนำมาสู่แนวทางการแก้ปัญหา แต่ตอนนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
    ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำสั่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจนเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 มีนายภักดี โพธิศิริ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธาน และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้โควิด-19 แพร่ระบาด มีนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ว่าผลการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้จะส่งตรงถึงนายกรัฐมนตรี ไม่ผ่านใคร ซึ่งเป็นรายงานลับ และไม่ผ่านตนเช่นกัน
    นายวิษณุกล่าวว่า คณะกรรมการสามารถรายงานผลได้ตลอดระยะเวลาของการทำงาน แต่ที่กำหนดกรอบระยะเวลาไว้ที่ 30 วันนั้น เพราะควรมีความคืบหน้าอย่างน้อยในช่วง 30 วัน ส่วนจะเปิดเผยรายงานข้อมูลต่อสาธารณะหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นผู้พิจารณา
    "จะใช้สถานที่ใดเป็นที่ทำงาน ต้องรอให้ได้สมาชิกของคณะกรรมการครบถ้วนก่อน หลังจากนั้นก็จะมีการเรียกประชุมร่วมกันอีกครั้ง โดยไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินงาน หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังอยู่ ก็ยังต้องปฏิบัติงานต่อ หากสถานการณ์ดีขึ้นก็ให้หน่วยงานปกติปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ส่วนคณะกรรมการของแต่ละหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาจะเป็นใครก็ได้ แต่หน่วยงานจะเป็นผู้เสนอในฐานะเป็นตัวแทนของหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งหน่วยงานนั้นๆ จะต้องรับผิดชอบเอง" นายวิษณุกล่าว
     ถามว่าคณะกรรมการชุดนี้จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ความมั่นใจของประชาชนในการแก้ไขปัญหาขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ตามปกติ แต่คณะกรรมการชุดนี้ตั้งมาเพื่อช่วยกำกับตรวจสอบ พร้อมเสนอแนวทางการลงโทษ ที่นอกเหนือจากการโยกย้ายตำแหน่ง ซึ่งเริ่มต้นต้องหาผู้กระทำผิดให้เจอเสียก่อน
        "ผมเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการชุดนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและความตื่นตระหนกของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย อย่ามาคาดคั้นอะไรในส่วนนี้เลย และหากประชาชนทราบเบาะแสก็แจ้งมา และมองว่าคนในพื้นที่รู้ดีที่สุด จึงอยากให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมตรงนี้ด้วย" รองนายกฯ กล่าว
    วันเดียวกัน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบ่อนในภาคตะวันออกว่า ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับเบื้องหลังคนที่สนับสนุน ตัวการใหญ่ เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ผบ.ตร.ได้เรียก พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรักษาราชการ ผบช.ภ.2 มาคุยเกี่ยวกับความคืบหน้าว่าได้ดำเนินการไปถึงไหน ซึ่งมีความคืบหน้าพอสมควรที่จะไปถึงตัวผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง
    "เราไม่ได้ละเลย ไม่ใช่เพียงแต่เรียกตำรวจในพื้นที่มาช่วยราชการแล้วจบ เรากำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการกับตัวจริงที่อยู่เบื้องหลัง คงไม่ง่ายที่จะทำได้โดยใช้เวลารวดเร็ว การดำเนินการจะผูกมัดใครจนนำไปสู่การเป็นผู้กระทำความผิด ต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานพอสมควร เพราะเป็นกระบวนการยุติธรรม" พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าว
    ถามว่าตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังรวมถึงส่วนใดบ้าง โฆษก ตร.กล่าวว่า ทุกส่วน ทั้งนายทุน ผู้สนับสนุน ขาใหญ่ที่ดูแลกิจการจัดการอยู่เบื้องหลัง คงเป็นทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ทาง ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับว่าต้องไม่ละเว้นใคร ถ้าพยานหลักฐานไปถึง ซึ่งได้สืบสวนในทางลึกอยู่แล้วว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้อง สืบสวนแล้วก็ต้องสอบสวนเชื่อมโยงพยานหลักฐาน ทั้งการเงิน การโอนถ่ายทรัพย์สิน รัฐบาลก็ได้ตั้งคณะกรรมการมาทำงานร่วมกับทาง ตร.ด้วย
    ซักว่าหลงจู๊สมชายที่มีการพูดถึงกันในวงกว้าง ได้เรียกมาตรวจสอบหรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า ถ้าหลักฐานไปถึงตัวคงต้องเชิญตัวหรือมีหมายเรียกมาดำเนินการอย่างจริงจัง เราทำงานตามพยานหลักฐานและกฎหมาย ไม่มีนโยบายมาสั่งอยู่แล้ว
    ต่อมา พล.ต.ต.ยิ่งยศ พร้อมด้วยนายสัจจะ โชคบุญส่งสวัสดิ์ รักษาการ ผอ.งานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับดิจิทัลและเทคโนโลยี, พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี รอง ผบก.ปอท. และ พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข นายตำรวจประสานงานประจำกระทรวงดิจิทัลฯ ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานของการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ  ว่าการจับกุมการพนันออนไลน์ตั้งแต่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค.2563 จับกุม 59 ครั้ง ผู้ต้องหา 143 คน ดำเนินการปิดกั้นแล้ว 322 Urls ยอดเงินหมุนเวียน 35,000 ล้านบาท
    ด้าน พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 มีคำสั่งที่ 24/2564 เรื่องข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ หลังตำรวจกองปราบปราม จับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนันไพ่เสือมังกร ผู้ต้องหา 40 คน ของกลางหลายรายการ ในบ้านเลขที่ 14/11 ปากชอยวัดลาดปลาดุก ถ.กาญจนาภิเษก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 14 ม.ค. เวลา 22.00 น. โดยให้ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ประกอบด้วย พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ ผกก., พ.ต.ท.พล พื้นพรม รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.วรวุฒิ นริตมนต์ สว.สส. และว่าที่ พ.ต.ต.สีน้ำ นิยมพลอย สว. (สอบสวน) ปฏิบัติหน้าที่ด้านงานป้องกันปราบปราม ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.บช.ภ.1 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
    ที่ จ.สระแก้ว พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรักษาการ ผบช.ภ.2 แถลงข่าวการจับกุมเครื่องจักรกลไฟฟ้า (ตู้สล็อต) จำนวน 178 เครื่อง ในเขตพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยวันที่ 14 ม.ค. เวลา 16.00 น. ชุดจับกุมพบรถบรรทุกหกล้อ 2 คัน ปิดผ้าใบมิดชิด วิ่งผ่านมาในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จึงแสดงตัวตรวจสอบ พบนายขวัญชัย (หน่อย) สาตื้อ อายุ 42 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เป็นผู้ขับรถ และนายกรุงไทย ต้าบุญคำ อายุ 34 ปี ชาว จ.ยโสธร ที่ขับรถอีกคัน พร้อมยึดตู้สล็อตดังกล่าว โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนรับว่ามีอาชีพรับจ้างขนส่งได้รับการติดตว่าจ้างจากนายศราวุธ (ตั้ม) โยรภักดี ให้ขนตู้เก่าที่ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยแจ้งส่งพิกัดที่ตั้งสถานที่ผ่านทางโปรแกรมไลน์ เพื่อนำไปส่งที่ จ.อุบลราชธานี ได้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 8,500 บาทต่อคัน
    จ.นครศรีธรรมราช ร.ต.อ.สัจจะ สมกำลัง รอง สวป.สภ.กะปาง จ.นครศรีธรรมราช นำกำลังเข้าจับกุมบ่อนไก่บริเวณป่าหลังบ้านเลขที่ 232 หมู่ 10 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พบนักพนันไก่ชนหลายสิบคนกำลังมั่วสุมเล่นการพนันไก่ชน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างแตกฮือวิ่งหลบหนีคนละทิศละทาง สามารถจับนักพนันได้ 7 คน พร้อมของกลางอุปกรณ์เล่นการพนันไก่ชนครบชุด ไก่ชน 2 ตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะปาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.