ชักเริ่ม หนาวว์ว์ว์ จริงๆ ขึ้นมามั่งแล้ว!!!...ไม่ได้แค่ ล้อเหล้นน์น์น์ แบบปีก่อนๆ คือหนาวในระดับต้องคว้าเสื้อหนาว เสื้อหนาๆ ออกมาสวมทับไว้ซักชั้นเป็นอย่างน้อย หรือต้องอาศัยผ้าห่มหนาๆ ปิดหัว ปิดเท้า โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาลุกไปเปิด แอร์กี่ ใดๆ อีกต่อไป จากนั้น...ก็คงต้องหนักไปทาง ซักแห้ง อย่าถึงกับไปคิดอาบน้ำ อาบท่า แปรงฟันเสร็จแล้วเอาน้ำหยอดตาซักแหมะ-สองแหมะ ถือเป็นอันเสร็จพิธี...
--------------------------------------------------
เห็นว่า...ด้วยเหตุเพราะลมหนาว หรือเพราะสภาวะอากาศที่พวกกรมอุตุนิยมวิทยา ท่านเรียกว่า บริเวณความกดอากาศสูง อะไรประมาณนั้น จาก เมืองจีน ได้แผ่ปกคลุมบริเวณตอนบนของประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา เป็นช่วงๆ เป็นระยะๆ ความหนาวมันก็เลยเกิดขึ้นไปเป็นช่วงๆ เป็นคราวๆ อย่างเช่น ช่วง 16 มกรา. ไปจนถึง 19 มกรา. ที่คงไม่ต้องเสียเวลาอาบน้ำ อาบท่าใดๆ อีกต่อไป แล้วเว้นไปถึงช่วง 22 มกรา. ค่อยกลับมาหนาวใหม่ จากนั้น...คงหนีไม่พ้นต้องร้อนน์น์น์แบบตับแลบ ม้ามแลบ ไปโดยตลอด ตามประสาประเทศที่อยู่แถวๆ เส้นศูนย์สูตร อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...
-------------------------------------------------
แต่หนาวคราวนี้...ไม่ใช่แต่เฉพาะ แม่คะนิ้ง หรือ พ่อคะน้า จะมาปรากฏตัวให้พวกชอบสวมสเวตเตอร์ ชอบเอาผ้าพันคอ ได้มีโอกาสกรี๊ดๆ กร๊าดๆ แต่เพียงเท่านั้น เห็นว่า...เลยไปจากบ้านเราไม่เท่าไหร่ อย่างเมืองลาว เมืองเวียดนาม ถึงขั้น หิมะตก เอาเลยก็ยังมี ลาวนั้น...เห็นว่าแถวๆ เมืองเชียงขวาง ระหว่างที่กำลังประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ลาว และระหว่างหาตัวผู้นำรายใหม่ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ คราวนี้นี่แหละ ถึงขั้นหิมะตกเพื่อจะแสดงความอำลา-อาลัย ต่อท่านนายกฯ ทองลุน สีสุลิด หรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจสรุปได้ชัดเจน...
------------------------------------------------
ส่วนเวียดนามนั้น...เห็นว่าแถวๆ เมือง เลาไค หรือ หล่าวกาย ใกล้ๆ กับพรมแดนจีน หรืออาณาบริเวณที่ประเทศจีนยุคท่าน เติ้ง เสี่ยวผิง เขาเคยใช้เป็นพื้นที่ทำ สงครามสั่งสอน เวียดนาม และถือเป็นการช่วยเหลือประเทศไทยไปในตัว เห็นว่า...หิมะโปรยปรายลงมา ชนิดท่วมถนนหนทางระดับความหนาไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร เอาเลยถึงขั้นนั้น อันถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความหนาวคราวนี้ ว่าไม่ใช่ ล้อเหล้นน์น์น์ โดยเด็ดขาด แต่ออกจะหนาวจริง ส่วนจะหนาวสั้น หนาวยาว หนาวไปเป็นช่วงๆ หรือไม่ อย่างไร คงต้องรอพิสูจน์กันเอาเอง ไม่ก็คอยติดตามข่าวคราว การพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุฯ ท่านไปเป็นระยะๆ...
------------------------------------------------------
และถ้าหากบรรดาประเทศที่เคยร้อนแสนร้อนมาโดยตลอด ยังมิวายต้องหนาวกับเค้ามั่ง บรรดาประเทศที่อยู่เหนือๆ ขึ้นไปอย่างอเมริกาและยุโรป คงหนีไม่พ้นต้องไวอะกร้า หรือต้อง บิ๊กตู่ อย่างมิอาจปฏิเสธ คือต้อง โด่มิรู้ล้ม อะไรทำนองนั้น และเพราะด้วยความหนาวที่ว่านี่เอง ว่ากันว่า...ค่อนข้างรู้เห็น เป็นใจ ให้กับท่านเชื้อโควิด-19 มิใช่น้อย คือยังทำให้มีฤทธิ์ มีเดช สามารถออกฤทธิ์ ออกเดช ได้แบบคล่องแคล่ว คล่องตัว พอสมควร หรืออาจทำให้ การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสล้างโลกและเปลี่ยนโลกในปีนี้ อาจทวีความรุนแรงซะยิ่งกว่าปีก่อน หรือกว่าที่เคยเป็นมาเอาเลยก็ไม่แน่ อันนี้...ถ้าว่ากันตามการคาดการณ์ของผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ขององค์การสหประชาชาติ ที่ออกมาเตือนๆ เอาไว้ล่วงหน้าเมื่อวัน-สองวันนี้...
-------------------------------------------------------------
ความหนาวมันก็เลยไม่ได้เป็นอะไรที่สดชื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขา ไปซะทั้งหมด แต่มันยังแฝงความร้ายกาจเอาไว้อย่างลึกซึ้งและแยบยลพอสมควร อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาด แพร่กระจาย ของเชื้อโควิด ที่ยังไม่ได้ออกอาการ หัวตก เอาเลยแม้แต่จนบัดนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพ เศรษฐกิจ ไปจนแม้แต่ปัญหา การเมือง ตามมา ในแต่ละประเทศ แบบชนิดเป็นลูกระนาดหรือแบบต่อเนื่อง ยาวนาน ไปจนยากซ์ซ์ซ์ที่จะคาดเดา คาดคะเน ออกมาได้ชัดๆ ว่ามันจะส่งผลร้ายกาจ ร้ายแรง ไปถึงขั้นไหน โดยเฉพาะถ้าหากประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ ไม่ได้คิดจะเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมรับไม้ รับมือ กับ ความเปลี่ยนแปลง ในแต่ละด้าน ให้สอดคล้อง เหมาะสม หรือให้ ทันท่วงที...
-----------------------------------------------------------
แม้แต่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา...ก็เถอะ!!! ถึงจะคุ้นเคย คุ้นชิน กับความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ นานา ในน้ำมีปลาและในนามีข้าวมาโดยตลอด แถมใน คลัง ยังมี ทองคำ ของ หลวงตามหาบัว เก็บสำรองเอาไว้เป็นกะตั๊กๆ แต่ก็อย่างว่า...ในหมู่เด็กๆ หรือในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ทั้งหลาย ที่ต่างก็มี มือถือ เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้วก็ว่าได้ เป็น สังคมก้มหน้า ที่แทบไม่คิดจะสนใจสภาวะแวดล้อม รอบข้าง เอาเลยแม้แต่น้อย อันนี้นี่แหละ...ที่มันอาจส่งผลให้ระยะต่อ ระยะเคียง หรือ ระยะเปลี่ยนผ่าน ระหว่าง คนรุ่นเก่า กับ คนรุ่นใหม่ อาจเป็นอะไรที่ออกจะฝืดๆ ออกจะก่อให้เกิดแรงเสียดสี เสียดทาน ชนิดที่การเปลี่ยนแปลงใดๆ คงไม่ได้เป็นไปโดยราบรื่น ลื่นไหล ซักเท่าไหร่นัก...
----------------------------------------------------------------
ยิ่งถ้าหากต้องเจอกับ รัฐบาล ประเภทจอดเครื่องไทม์ แมชชีน เอาไว้บริเวณ หลังเขา อะไรทำนองนั้น คือยังไม่ถึงกับ เข้าถึง และ เข้าใจ อะไรมาก ยังก้าวหน้า ทันสมัย ในระดับหันไป เปิดประมูล การทำบ่อน แทนการแอบเล่นแบบเดิมๆ หรือทันสมัยในระดับ 4.0 ทางเศรษฐกิจ ขณะที่การเมืองออกไปทาง 0.4 อะไรทำนองนั้น อันนี้...ก็ออกจะเป็นอะไรที่น่าห่วง น่ากังวล หรือออกจะเป็นอะไรที่ หนาว์ว์ว์ อยู่พอสมควร แต่ควรจะหาทางรับมือด้วยการ เปลี่ยนโค้ช หรือ เปลี่ยนตัวผู้เล่น คงต้องยอมรับว่า...ยังคิดไม่ออก!!! ดังนั้นใครที่คิดเก่ง มองเก่ง คงต้องขอแรงให้ช่วยคิดๆ ช่วยมองๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้าก็แล้วกัน...
---------------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จา ก Richard Corliss ...Nothing ages so quickly as yesterday’s vision of the future. – ไม่มีอะไรล้าสมัยเร็วเท่าวิสัยทัศน์แห่งอนาคต ที่กำหนดขึ้นเมื่อวันวาน...
------------------------------------------------------------
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |
