"โดนัลด์ ทรัมป์" สร้างประวัติศาสตร์อัปยศ เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐที่โดนสภาถอดถอนถึง 2 รอบ คราวนี้จากความผิดฐานยุยงปลุกปั่นให้ผู้สนับสนุนก่อการกบฏ ส.ส.รีพับลิกัน 10 คนร่วมลงมติถอดถอนด้วย เจ้าตัวออกวิดีโอประณามเหตุการณ์รุนแรงที่รัฐสภา แต่ยังคงไม่แสดงความรับผิดชอบหรือกล่าวถึงการถอดถอน
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แสดงเอกสารข้อกล่าวหาเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่นางเพิ่งลงนามเพื่อส่งต่อไปยังวุฒิสภา เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564
รอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ประชุมเมื่อวันพุธที่ 13 มกราคม เพื่อลงมติ 232 ต่อ 197 เสียง เห็นชอบกับข้อกล่าวหาเพื่อถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ พ้นตำแหน่งประธานาธิบดี ฐาน "ยุยงปลุกปั่นการก่อการกบฏ" จากการกล่าวปราศรัยปลุกเร้าผู้สนับสนุนเขาหลายพันคนเมื่อวันพุธที่แล้ว ให้เดินขบวนมาก่อจลาจลที่อาคารรัฐสภา
การบุกโจมตีของกลุ่มม็อบในครั้งนั้นขัดขวางการลงมติเพื่อรับรองชัยชนะของโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 3 พฤศจิกายน สมาชิกสภาคองเกรสต้องหนีไปหลบภัย ม็อบปล้นสะดมทำลายข้าวของและปะทะกับตำรวจ ส่งผลให้มีคนเสียชีวิต 5 คน รวมถึงตำรวจสภา 1 นายที่โดนรุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ในคำปราศรัยด้านนอกทำเนียบขาวครั้งนั้น ทรัมป์อ้างผิดๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ทุจริต และกระตุ้นให้ผู้สนับสนุนเขาเคลื่อนขบวนไปรัฐสภา โดยบอกกับคนเหล่านี้ให้ "หยุดการขโมย", "แสดงพลัง" , "ต่อสู้ให้หนักหน่วงขึ้น" และใช้ "กฎที่แตกต่างออกไป"
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต กล่าวก่อนการลงมติว่า ประธานาธิบดีสหรัฐยุยงปลุกปั่นการก่อการกบฏครั้งนี้ เป็นการก่อกบฏโดยใช้อาวุธต่อประเทศของพวกเรา ทรัมป์ต้องออกไป เขาเป็นอันตรายที่ชัดเจนต่อประเทศที่รักของพวกเรา
ภายหลังการลงมติ เพโลซีกล่าวว่า วันนี้ ส.ส.ทั้งสองพรรคแสดงให้เห็นว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย แม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐ ก่อนที่นางจะลงนามข้อกล่าวหาเพื่อถอดถอนทรัมป์ที่จะส่งไปยังวุฒิสภาต่อไป
ที่ผ่านมาไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐคนใดพ้นจากตำแหน่งจากการโดนถอดถอน ทั้งทรัมป์ในปี 2562, บิล คลินตัน ปี 2551 และแอนดรูว์ จอห์นสัน ปี 2411 โดนสภาล่างถอดถอน แต่พ้นข้อกล่าวหาเมื่อถึงการไต่สวนของวุฒิสภา
วุฒิสภายังคงอยู่ระหว่างพักการประชุมและจะไม่เรียกประชุมจนกว่าจะถึงวันที่ 19 มกราคม หนึ่งวันก่อนพิธีสาบานตนของโจ ไบเดน และ ส.ว.มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำ ส.ว.รีพับลิกันเสียงข้างมาก ปฏิเสธข้อเรียกร้องของเดโมแครตให้เร่งกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอน โดยบอกว่าไม่มีทางที่จะเสร็จก่อนที่ทรัมป์จะพ้นจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี วุฒิสภายังสามารถเปิดการไต่สวนหลังจากนั้น และหากมติ 2 ใน 3 เห็นว่าทรัมป์มีความผิดตามข้อกล่าวหา สภาอาจลงมติห้ามทรัมป์ลงสมัครรับเลือกตั้งอีก ยังไม่ชัดเจนว่าจะมี ส.ว.รีพับลิกันเห็นด้วยกี่คน เดโมแครตต้องพึ่งเสียงจากรีพับลิกันอย่างน้อย 17 คนในวุฒิสภา 100 ที่นั่ง
การลงมติของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธ มี ส.ส.รีพับลิกันแปรพักตร์มาลงมติถอดถอนทรัมป์ 10 คน รวมถึงลิซ เชนีย์ ผู้นำหมายเลข 3 ของ ส.ส.รีพับลิกัน
ด้านไบเดนแสดงความเป็นห่วงว่า กระบวนการถอดถอนในวุฒิสภาในช่วงวันแรกๆ ที่เขารับตำแหน่งนั้นจะต้องไม่กระทบต่อการรับรองคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของเขา
ภายหลังโดนสภาลงมติถอดถอน ประธานาธิบดีทรัมป์ออกวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า ประณามเหตุการณ์รุนแรงที่รัฐสภา โดยบอกว่า ไม่มีผู้สนับสนุนเขาที่แท้จริงคนใดสนับสนุนความรุนแรงทางการเมือง และไม่มีผู้สนับสนุนเขาที่แท้จริงคนใดที่ไม่เคารพยำเกรงกฎหมายและความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่เขาไม่ได้แสดงความรับผิดชอบที่ยุยงผู้สนับสนุนเขา หรือกล่าวถึงการถอดถอน
การลงมติของสภาล่างครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังทรัมป์เมินเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง และรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ปฏิเสธที่จะใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปลดทรัมป์
บรรยากาศภายในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก่อนหน้าพิธีสาบานตนของไบเดนวันที่ 20 มกราคม มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทหารกองกำลังเนชันแนลการ์ดหลายพันนายพร้อมอาวุธปืนไรเฟิลวางกำลังรักษาการณ์ทั้งภายในและภายนอกรัฐสภา รวมถึงทั่วเมืองหลวง ซึ่งการจราจรกลางเมืองถูกปิด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |