ผบช.น.เตรียมจับเครือข่าย "เคนมผง" รายใหญ่ นักเสพดับเพิ่มอีก 1 ราย คาคอนโดฯ ย่านบางบัวทอง กมธ.ตำรวจบุกพบ ผบช.น. 15 ม.ค.นี้ ติดตามความคืบหน้าเคนมผงระบาดลามต่างจังหวัด จ่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง นายกฯ มึนเสพไปทำไม ระบุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ปราบปราม ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ในการทำให้ครอบครัวมีสุขภาพที่ดี
    เมื่อวันพุธ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยความคืบหน้าในคดียาเคนมผงว่า วันนี้จะมีการขยายผลและจับกุมตัวการทั้งรายใหญ่และรายย่อยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ว่าจะขยายหาผลความเชื่อมโยงในพื้นที่ใดต่อไป เพราะต้องพิสูจน์ทราบก่อน การขยายผลครั้งนี้จะเน้นไปที่กลุ่มคนผู้จำหน่ายยาเคดังกล่าวให้กับกลุ่มของผู้เสียชีวิต ตอนนี้ทราบชื่อผู้จำหน่าย แต่เป็นเพียงชื่อเล่นเท่านั้น ซึ่งเขาจะเรียกตามฉายาต่างๆ โดยข้อมูลนี้ทางตำรวจเองก็ต้องเก็บมาตรวจสอบก่อนว่ามีตัวตนจริงหรือไม่
    ทั้งนี้ ตำรวจเองได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดมาโดยตลอด การจับกุมจะมี 2 ลักษณะ คือ การจับกุมรายใหญ่ที่มาจากทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และการจับกุมรายย่อยในชุมชนต่างๆ ที่ผ่านมาตำรวจก็ทำงานกันมาตลอด แต่ครั้งนี้จะเน้นพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและหาความเชื่อมโยงแหล่งที่มาของยาเคดังกล่าวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย
    โดยล่าสุดที่สามารถจับกุมได้คือที่ สน.สายไหมและ สภ.คูคต รวม 3 ราย แต่ไม่ได้เกี่ยวกับเคสของผู้เสียชีวิต ผู้ต้องหารับสารภาพว่ารับยามาจากจังหวัดปทุมธานี ทางเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบต่อไป
    วันเดียวกัน เวลา 11.00 น. ร.ต.ท.ชิษณุพงษ์ ผิวอ้วน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รอง ผกก.สส.สภ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมย่านตำบลบางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พบผู้เสียชีวิตนอนอยู่ภายในห้องซักผ้าชั้นล่างของคอนโดมิเนียมดังกล่าว โดยสภาพศพมีน้ำลายฟูมปาก และมีคราบสีขาวติดอยู่ที่ริมฝีปาก
    สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทางนิติบุคคลได้แจ้งมูลนิธิว่ามีผู้ป่วยนอนหมดสติ เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ได้พยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือเบื้องต้น แต่ไม่สำเร็จ ชายดังกล่าวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือนายนพรัตน์ อาจพงษา อายุ 36 ปี ทางน้องชายและเพื่อนๆ ผู้เสียชีวิตรับว่าผู้เสียชีวิตเสพยาเคตามีนเมื่อคืนที่ผ่านมา
    จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้เสียชีวิตเดินออกมาจากรถยนต์ จากนั้นเดินไปมาคล้ายอาการหนาวสั่น และเดินเข้าไปในห้องซักผ้า คาดว่าเข้าไปหลบอากาศหนาว และนั่งลงกับเก้าอี้ แล้วมีอาการชักและล้มลงไปกับพื้น จนเจ้าหน้าที่มาถึงและพยายามช่วยเหลือ แต่เสียชีวิตไปก่อนแล้ว และเมื่อเข้าไปตรวจสอบบนห้องพักก็พบยาเสพติดจำนวนหนึ่งลักษณะเป็นผงสีขาวจึงเก็บไว้ตรวจสอบ 
    นายสุพจน์ สวดมาลัย กู้ชีพเทศบาลเมืองบางแม่นาง ผู้ที่มาถึงคนแรก เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์กู้ชีพพระนั่งเกล้า พอมาถึงที่เกิดเหตุพบว่าผู้เสียชีวิตนอนอยู่ มีอาการชักกระตุก ตนเลยแจ้งให้รถแอดวานซ์เข้ามาที่เกิดเหตุ พบมีฟองและคราบขาวๆ ออกมาจากทางปากจำนวนมาก ไม่ทราบว่าเพราะสาเหตุอะไร ระหว่างรอรถกู้ชีพสนับสนุน เพื่อนของผู้เสียชีวิตเข้ามาที่เกิดเหตุ ตนจึงสอบถามสาเหตุ เพื่อนผู้เสียชีวิตบอกว่าเกิดจากการเสพยา
    วันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ แม่ของนายวิฑูรย์ ภู่ทอง อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตจากการเสพยาเสพติด ‘เคนมผง’ เกินขนาด พร้อมครอบครัว ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพนายวิฑูรย์ไปตั้งสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 วัน ที่วัดไทรพระราม 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม โดยแม่ของนายวิฑูรย์เปิดเผยว่า แพทย์ยังแจ้งผลการตรวจสอบว่าพบสารเสพติดในร่างกาย ตนไม่ทราบมาก่อนว่าลูกชายเสพสารเสพติด เพราะไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าวภายในบ้านมาก่อน มีแค่การกินเหล้าเมาปกติธรรมดา เหมือนพยายามปกปิดไม่ให้คนในครอบครัวรู้ อยากฝากเตือนว่าอย่าไปยุ่งกับยาเสพติด เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับครอบครัวอื่นอีก
    ด้านนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.เขต 7 จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 มกราคมนี้ เวลา 10.30 น. นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ อาทิ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร จะเดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีการแพร่ระบาดของ "เคนมผง" ยาเสพติดชนิดใหม่ หลังมีผู้เสพและเสียชีวิตหลายรายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 
    "กรรมาธิการฯ จะสอบถามทั้งประเด็นส่วนผสมสารเสพติด ความคืบหน้าประเด็นการเสียชีวิตทั้ง 7 ราย และแนวทางการป้องกันและปราบปราม เพื่อเร่งให้มีการขยายผลถึงต้นตอของยาเสพติดใหม่ชนิดนี้ เพราะเกรงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ปัจจุบันทราบเพียงความเสียหายจากการเสียชีวิตแค่ในพื้นที่ของ กทม. และยังไม่ทราบว่ามีการกระจายของยาเสพติดชนิดนี้ในพื้นที่ต่างจังหวัดหรือไม่ ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ จะเชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ป.ป.ส. เข้าชี้แจงและให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับกรรมาธิการฯ ในวันที่ 21 มกราคมต่อไป" นายณัฏฐ์ชนนกล่าว
     ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของยาเสพติด เราต้องมาช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรดีมานด์หรือความต้องการจะลดลง โดยประชาชนทุกคนจะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเมื่อมีคนต้องการก็ย่อมมีคนที่ลักลอบเอามาขาย มีคนแสวงหาผลประโยชน์ ถ้าเราสามารถแก้ปัญหาได้โดยทุกครอบครัวไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกประเภท ก็จะแก้ปัญหาได้ แต่ถ้ายังปล่อยให้มีความต้องการสูง ก็มีคนลักลอบทำกันอยู่เรื่อยๆ การจับกุมก็ไม่สามารถทำได้ทั้งหมด ซึ่งต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย สิ่งสำคัญคือชุมชนจะต้องช่วยกันเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสเข้าไป ถ้าแจ้งกับตำรวจพื้นที่ยังทำอะไรไม่ได้ ก็ให้แจ้งมาที่ตน จะได้สั่งการและกำชับลงไปเป็นรายๆ ไป
    ผู้สื่อข่าวถามถึงยาเสพติดชนิดใหม่ หรือเคนมผง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็นั่นนะซิ ไม่เข้าใจว่าไปเสพกันทำไม แล้วทำไมจะต้องไปเสพกันด้วย ถือเป็นปัญหา ผมถึงได้บอกว่ามันอยู่ที่ความต้องการของประชาชน รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการปราบปราม ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ในการทำให้ครอบครัวมีสุขภาพที่ดี".