
13ม.ค.64-ในการแถลงความคืบหน้า สถานการณ์โรคไวรัสโควิด19 ของกระทรวงสาธารณสุข มีการแถลงถึงปรเด็นประสิทธิภาพวัคซีนโควิด 19 ที่จะนำเข้าประเทศ โดยนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึง กระแสวิตกกังวลในประสิทธิภาพวัคซีนซิโนแว็กซ์ ของประเทศจีน ว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่ เนื่องจาก ผลการทดลองระยะ 3 ในบราซิล ที่ประกาศโดยสถาบันบูตันตัน(Butantan Institute) ในบราซิล ที่ออกมาเมื่อวันสองวันที่ผ่านมาระบุว่ามีประสิทธิภาพ 50.4 % ส่งผลเกิดความไม่มั่นใจการนำเข้าซีคซิโนแวกซ์ ที่ไทยจะนำเข้ามา 2 ล้านโดสว่า ขออธิบายความว่า ข้อมูลแถลงของสถาบันบูตันตัน ยังมีค่อนข้างจำกัด ขณะนี้ ทางไทยได้ขอข้อมูลโดยตรงจากซิโนแวกซ์ไปแล้่ว และรอเขาตอบเป็นทางการว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าคืออะไร นอกจากนี้ ในขั้นตอน การขอขึ้นทะเบียนที่กำลังดำเนินการทางเอกสาร กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)เขาต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็น ให้เราทราบ
อย่างไรก็ตาม การแถลงของทางสถาบันบูตันตัน ของบราซิล ได้ใช้คำว่า ภาพรวมประสิทธิภาพวัคซีนนี้ว่ามีระดับ 50% หมายความว่าระหว่างคนที่ฉีด กับคนไม่ฉีด มีอัตราการติดเชื้อแตกต่างกัน ป้องกันไม่ให้ติดเชื้อเลยแม้แต่น้อยได้ 50.4 % ซึ่งทดลองนี้ เป็นการทดลองในพื้นที่การระบาดสูง ผู้ที่เป็นอาสาสมัครทดลองส่วนใหญ่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมีโอกาสความเสี่ยงในการติดเชื้่อมากกว่าคนปกติทั่วไป แต่ทางสถาบันบูตันตัน ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกในเรื่องประสิทธิผล 78% เมื่อเทียบระหว่างคนที่ฉีด กับคนที่ไม่ได้ฉีด ในเรื่องการป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงในคนที่ติดเชื้อ ไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจมีมากถึง 78%
" คำถามนี้ ถ้าให้ม้่นใจต้องรอข้อมูลจากซิโนแวกซ์ ผมเรียนว่าไม่ว่าวัคซีนบริษัทใดที่มีผลทดลองเฟส 3 ออกมาแล้ว ล้วนแต่เป็นผลการทดลองในระยะต้นๆ ทั้งสิ้น การทดลองสมบูรณ์แบบเฟสของ 3 อาจต้องรอเป็นปีหรือปีครั้ง ขอเรียนอีกว่า ข้อดีของวัคซีนจีน คือ ใช้เทคโนโลยีรูปแบบเชื้อตาย ฉีดเข้าไปในร่างกาย เป็นการทำวัคซีนแบบดั้งเดิม ที่ปกติเคยทำกันในวัคซีนไรัสตับอักเสบบี หรือวัคซีนโรคโปลิโอ เป็นเทคนิคที่เราคุ้นชิน ซึ่งประเทศจีนเอง ได้ฉีดให้ทหารและบุคคลากรทางการแพทย์ของเขาไปแล้วหลายแสนคน ไม่พบผลข้างเคียงที่น่าวิตก เมื่อเทียบกับบางเจ้าวัคซีน ที่พบผลข้างเคียง สุดท้าย การที่เราจะเลือกวัคซีนไหน อยู่ที่ราคา จำนวนที่มีให้เรา บางอันคุณภาพดี แต่ให้เราได้ปลายปี เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาประกอบ อีกประการ ถ้าองค์การอนามัยโลก กำหนดว่าถ้าวัคซีนใดมีประสิทธิภาพ 50% ขึ้นไป ถือว่าใช้ได้ และอาการไม่พึงประสงค์ต้องไม่มากก็ถือว่าใช้ได้
ด้านนพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่าการขึ้นทะเบียน อย.ดู 3เรื่อง คุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ ว่าเพียงพอหรือไม่ ขณะนี้ อย.ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญวัคซีนทุกคนในประเทศมาช่วยประเมินพิจารณาวัคซีนที่มาขอขึ้นทะเบียน เพื่อช่วยให้ขั้นตอนการพิจารณาเร็วขึ้น และเพื่อให้การประเมินเกิดขึ้นทุกด้าน ซึ่งตอนนี้มีวัคซีน 2 ราย ที่มายื่นขึ้นทะเบียน แต่ของซิโนแวกซ์ ข้อมูลอาจไม่ครบ แต่เนื่องจาก การระบาดของโควิด เป็นสถานการณ์เร่งด่วน เราจึงอนญาตให้บริษัท มายื่นข้อมูลทีละส่วนได้ และให้ผู้เชี่ยวชาญอ่านประเมินไปเรื่อยๆไก่อน
นอกจากนี้ อย.ยังเปิดกว้างให้มีการนำเข้าวัคซีน แต่ผู้นำเข้าที่มายื่นขอขึ้นทะเบียน ต้องได้วัคซีนมาจากผู้ผลิตโดยตรง เพื่อป้องกันวัคซีนปลอม และเพื่อให้ผู้นำเข้ารับผิดชอบถ้ามีปัญหาอะไร
"ใครก็ตามยื่นขอเป็นผู้นำเข้าวัคซีน โควิด สามารถมาขอขึ้นทะเบียนพร้อมเอกสารกับ อย.ได้ เราพร้อมที่จะพิจารณา เช่น บริษัท เอกฃน หรือบริษัทยา จะยื่นเพื่อนำเข้าก็ได้ทั้งนั้น" รองเลขาธิการอย.กล่าว
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |