ด้าน "ที่ไม่มีคนมอง" ในมาเลย์


เพิ่มเพื่อน    

    เห็น "มหาเธร์" วัย ๙๒ กลับมาเป็นนายกฯ มาเลย์
    นึกถึง...........
    อดีตนายกฯ "ชวน หลีกภัย" วัย ๘๐ ขึ้นมาทันที!
    เลือกตั้งปีหน้า (ถ้ามี)
    ไม่ถึงต้องให้ "คุณชวน" เป็นหัวหน้าพรรคหรอก แค่ "ประชาธิปัตย์" ประกาศ
    จะเสนอชื่อ "ชวน หลีกภัย" ในบัญชีพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี 
    ประยุทธ์ ก็เหอะ...........
    มีหนาววว!
    เห็นมั้ย คำว่า "คนรุ่นใหม่" เขาไม่ได้วัดกันที่อายุ วัดกันที่ "กึ๋น" ตะหาก
    การที่ "นายนาจิบ ราซัค" แพ้ตกเก้าอี้ให้ "มหาเธร์" แกนนำพรรคฝ่ายค้าน จากผลการเลือกตั้ง เมื่อ ๙ พ.ค.๖๑ นั้น
    ทั้งโลก บอก "ช็อก"!
    แต่พวก "ขวางโลก" อย่างผม บอกเฉยๆ 
    เพราะ "มหาเธร์" แกนนำฝ่ายค้านนั้น ใช่อื่นไกล เป็นอดีต "หัวหน้าพรรคอัมโน" มาก่อน และเป็นนายกฯ มายาวนาน ๒๒ ปี 
    "นายนาจิบ" ที่ตกเก้าอี้ ก็แค่ "เด็กในคาถา" ที่มหาเธร์เป่าตูดขึ้นมาเป็นนายกฯ ต่อจากนายบาดาวี
    แต่ใหญ่แล้ว "ไม่เห็นหัว" ลูกพี่.........
    มหาเธร์เลยสะบัดตูดออกมาตั้งพรรค เพื่อโค่น "ลูกน้องเนรคุณ"
    ตามโค่นมาหลายสมัย โค่นไม่ลง เหตุที่โค่นนายนาจิบลงได้ครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะฤทธีมหาเธร์โดยตรงหรอก
    นายนาจิบเองนั่นแหละ......
    ช่วยให้ "มหาเธร์" โค่นสำเร็จ ด้วยพฤติกรรมเดียวกับอดีตนายกฯ ไทยที่ว่า "รวยแล้วไม่โกง"
    แต่....โกงฉิบหาย!
    คนมาเลย์สุดทนกับพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลนายนาจิบ
    ที่ฉาวโฉ่จนเป็น "ฟางเส้นสุดท้าย" ก็กรณียักยอกเงินกองทุน 1 MDB (1Malaysia Development Berhad) หลายพันล้านดอลลาร์!
    ภรรยาก็ หรูหรา-อะร้าอร่าม....
    ออกงานแต่ละที กระเป๋าถือแต่ละใบ เป็นล้านๆ ไม่ต่างอีบ้าคนหนึ่งในเมืองไทย ที่แร่ดหนีไปปู๊นแล้ว
    บวกกับนโยบาย "พวกเรา "ภูมิปุตรา" ต้องได้ก่อน"
    เหมือนนโยบายไอ้เบื๊อก...........
    "จังหวัดไหนเลือกเรา เราช่วยจังหวัดนั้นก่อน" เปี๊ยบเลย!
    ทีนี้ มาเลย์ นอกจาก "ชาติพันธุ์มลายู" แล้ว ยังประกอบด้วยชาติพันธุ์อื่นๆ อีก เช่น จีน และอินเดีย
    เป็นพลเมืองเหมือนกัน แต่สิทธิในความเป็นพลเมือง "ไม่เท่ากัน" 
    ทั้งทางอาชีพการงาน ความเป็นอยู่ รวมถึงโอกาสในการประกอบธุรกิจ-การค้า-การลงทุน
    ก็สะสม "พลังงานต้าน" ในหมู่ชนมาเรื่อยๆ จนเทอมหลังของรัฐบาลนาจิบ
    เศรษฐกิจพัง ชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้านไม่ลื่นไหลเหมือนเดิม 
    เมื่อผู้นำคอร์รัปชันฉาว ประดัง-ประเด ด้วยรัฐบาลขึ้นภาษีแวต รีดรายได้จากประชาชนไปเลี้ยงรัฐ
    ประชาชนอึดอัด...........
    นายมหาธีร์ จับกระแส "ไม่เอานาจิบ" ในหมู่ชน มองเห็นช่อง "รวมพลัง" โค่นล้มผ่านการเลือกตั้งได้
    จึงดอดไปพบ "นายอันวาร์ อิบราฮิม" ที่ตัวเองยัดข้อหาเสพเวจมรรคจนต้องติดคุกอยู่ ขณะนายอันวาร์ไปศาล
    ขอโทษ-ขอโพยนายอันวาร์ ที่ตัวเองทำให้ต้องติดคุกทั้งข้อหาทุจริต ๙ ปี ออกมาแล้ว ยังถูกอีก ๖ ปี
    นายอันวาร์ ก็ดีเหลือหลาย อโหสิกรรมให้เจ้านายเก่าทันที
    นายมหาเธร์ เผยแผน "ผนึกกำลังโค่นศัตรู" ล้างโกงให้แผ่นดิน นายอันวาร์ฟังแล้ว ก็...โอเค ตามนั้น
    ในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน แต่ติดคุกอยู่.........
    ภรรยา คือ "ดร.วาน อะซิซะห์ วาน อิสมาอิล" ในฐานะประธานพรรค PRK ที่สืบต่อจากสามี
    ก็ประสานพรรคต่างๆ พร้อมใจยกให้ "มหาเธร์" เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ชนกับพรรครัฐบาลในสนามเลือกตั้งวานซืน
    โดยมหาเธร์ ให้สัญญาใจ........
    ล้มพรรคอัมโน โค่นนายนาจิบลงจากเก้าอี้ เอาอำนาจบริหารประเทศคืนมาได้เแล้ว 
    จะขอ "พระราชทานอภัยโทษ"
    เพื่อให้นายอันวาร์ พ้นโทษ-พ้นข้อกฎหมาย "เป็นบุคคลต้องห้ามทางการเมือง ๕ ปี" 
    จากนั้น ให้ "นายอันวาร์" ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี!
    เนี่ย...ที่สรุปย่อๆ เพื่อเหตุผลที่ว่า ใครเขาช็อก แต่ผมเฉยๆ 
    การเมืองมาเลย์ไม่ได้หลุดพ้นไปไหน ยังคงวนอยู่ในวัฏฏะการเมืองเดิม
    "สมบัติผลัดกันชม" ด้วยกลุ่มบุคคลเดิมๆ ของอัมโนที่ฝังรากมากว่า ๗๒ ปี
    แต่ด้วย "ทรยศ กบฏรัก บุญคุณ ความแค้น" ในหมู่ "เจ้านาย-ลูกน้อง" วนไป-วนมา 
    ใต้นิยาม "การเมืองกับกลุ่มทุน" ไม่ต่างกัน..........
    ดังนั้น การเมืองมาเลย์ สิ่งจะเห็นต่อจากนี้ หนีไม่พ้น "ทีฮู-ทีอิต"
    "มหาเธร์+อันวาร์" เอาคืน "นายนาจิบ" บ้างแหละ!
    ที่ผมตื่นเต้นจริงๆ คือเส้นทางชีวิต "นายอันวาร์ อิบราฮิม" ผู้นี้
    บอกตรงๆ..........
    ผมทึ่งและนับถือ "นายอันวาร์" มาก!
    ติดตามความเป็นไปตลอด ตั้งแต่สมัยเป็นรัฐมนตรีคลังและรองนายกฯ ยุครัฐบาลมหาเธร์ ช่วงต้มยำกุ้ง
    สมัยนั้น นายอันวาร์ฮิตมาก เป็นนักการเมืองหัวใหม่ ฝ่ายนิยมสหรัฐ 
    เป็น "ลูกรัก" มหาเธร์.........
    ถึงขนาดทำหน้าที่ "นายกฯ รักษาการ" หลายหน อนาคต "เต็งจ๋า" เก้าอี้นายกฯ อัมโน สืบต่อจากมหาเธร์
    แล้วก็พลิกล็อก จากลูกรัก กลายเป็นลูกชัง ต้องเข้าซังเต ด้วยข้อทุเรศ และถูกซ้อมแทบตายในคุก
    นี่ก็ไม่แปลก ไม่ใช่ประเด็นทำให้ผมนับถือนายอันวาร์
    ที่ทำให้ผมนับถือก็ตรง.........
    นายอันวาร์ เป็นตัวอย่างที่ถูกต้อง ทั้งด้านความเป็นพลเมืองทางกฎหมาย และทั้งด้านความเป็นนักการเมืองตัวอย่าง ทางสปิริต
    ทั้งโลก "เข้าใจ"
    ว่าข้อหาทั้งทุจริตและเสพทางทวาร เป็นข้อหายัดเยียดทางการเมือง
    นายอันวาร์ จะหนีข้อหาอธรรม-หนีโทษคุก ออกนอกประเทศ ก็ไปได้สบาย ตอนนั้น สหรัฐพร้อมอยู่แล้ว
    ติดคุก ๙ ปี ออกแล้ว ยังต้องเข้าไปอีก ๖ ปี..........
    เป็นเรื่องยอมได้ยาก 
    แต่นายอันวาร์ "ไม่หนี" แต่ที่ไม่หนีนั้น ไม่ใช่ยอมรับข้อหาที่เขายัดให้
    ที่ "ยอมเข้าคุก" โดยดี
    ก็ด้วยสำนึกในความเป็นพลเมือง ที่ต้องเอื้อเฟื้อต่อกฎหมายบ้านเมือง
    เมื่อเป็น "คำตัดสินศาล" ถึงใจไม่ยอมรับ แต่กายเคารพ และยึดถือตามนั้น
    ไม่เช่นนั้น สังคมจะอยู่ไม่ได้.....
    ถ้าทุกคนไม่ยอมให้ "กฎหมายร้อยรัด" โดยยึดว่า "ตัวเองถูก" ตะบึงไป
    นายอันวาร์ นับเป็นตัวอย่าง "สุภาพบุรุษนักสู้" แท้จริง โทษคุก ปี-ครึ่งปี ก็ว่าสุดทน
    แต่นี่ เป็นสิบๆ ปี........
    นายอันวาร์ กลับทนอธรรม กรำสู้-กรำพิสูจน์ บนความเป็นนักการเมือง ไม่ย่ำกฎหมายบ้านเมืองให้เป็นตัวอย่างเลว
    ผมศรัทธาท่าน!
    และชื่นชม ยกย่องว่า ถ้าท่านจะออกคุกมาเป็น "นายกรัฐมนตรี" มาเลเซีย
    ก็คู่ควรแล้ว!
    จากนายอันวาร์ พิสูจน์ให้เห็นความจริงข้อที่ว่า "ทองแท้ย่อมทนไฟ" เส้นทางไม่ต่าง "เนลสัน แมนเดลา" เลย
    นอกจากตัวนายอันวาร์แล้ว ปีติโสมนัสอีกหนึ่ง ที่ผมได้จากเลือกตั้งมาเลย์ คือ
    ชนชาวมาเลย์วันนี้ คือ ผู้เข้าถึง "เนื้อหา" ประชาธิปไตยแท้จริง 
    เป็นแบบอย่างสังคมประชาธิปไตย โดยเฉพาะกับพวกประชาธิปไตย "กะโหลก-กะลา" ในเมืองไทย
    การเมือง "โดยประชาชน-ของประชาชน-เพื่อประชาชน"
    ต้องเพื่อ "กำจัด" นักการเมืองโกง ให้บ้านเมือง
    ไม่ใช่อ้างประชาธิปไตย "อุ้มพวกโกง" เข้ามาครองเมือง  
    เพื่อ "พวกกูมั่ง" อย่างที่ทำกัน.
    
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"